กองทัพภาคที่ 1 สั่งกักบริเวณครูฝึก ลงโทษเกินกว่าเหตุ 2 พลทหารสูบกัญชาในค่าย
ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองทัพภาคที่ 1 ชี้แจงกรณี 2 พลทหารค่ายนวมินทราชินี จ.ชลบุรี ไปร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดระยอง หลังถูกทหารครูฝึกและผู้ช่วยซ้อมจนได้รับบาดเจ็บเนื่องจากแอบเสพกัญชา ว่า กองทัพภาคที่ 1 เข้าใจความรู้สึกของพลทหาร และครอบครัวในความกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในเบื้องต้นได้มีการตั้งกรรมการสอบสวนเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย อย่างตรงไปตรงมา
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
- พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเรื่องยาเสพติดของพลทหาร ซึ่งถูกตรวจพบว่าเสพยาเสพติด จึงถูกลงทัณฑ์ตามวินัยทหาร โดยครบกำหนดวันที่ 22 ม.ค. 2564 และทางหน่วยพบว่ายังกระทำผิดซ้ำอีก 5 นาย จึงลงทัณฑ์เพิ่มเติม ระหว่างนี้ 2 ใน 5 นาย ได้หลบหนีกลับบ้านและร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมตามที่เป็นข่าว
- การลงทัณฑ์เกินกว่าเหตุ ทางหน่วยได้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งเบื้องต้นมีมูลจึงให้กักบริเวณครูฝึก และสั่งทัณฑกรรมตามวินัยทหาร ระหว่างการรอผลสอบสวนอย่างเป็นทางการ
ล่าสุดในวันนี้ หน่วยต้นสังกัดได้ติดต่อประสานพูดคุยกับผู้ปกครองของทหารทั้ง 2 นายเพื่อสร้างความมั่นใจ และจะดูแลด้านการรักษาพยาบาล ทั้งนี้กำลังพลมีความประสงค์ที่จะกลับเข้าสู่กระบวนการพิจารณาและสอบสวน ซึ่งกองทัพภาคที่ 1 ยืนยันว่าจะให้การดูแลกำลังพลตามขั้นตอนและวินัยทางราชการ เพื่อให้เกิดความสบายใจกับทุกฝ่าย
นายกฯ ย้ำอย่าลงโทษเกินกรอบ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ทหารเกณฑ์เองดำเนินการไม่เหมาะสม มีการลักลอบแอบสูบกัญชา ซึ่งตนทราบจากรายงานในเบื้องต้น ซึ่งต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าการลงโทษนั้นมากหรือน้อยไปและเมื่อมีคนผิดก็ต้องรับโทษ โดยการลงโทษต้องเป็นไปตามธำรงวินัยทหาร 9 ข้อ อาทิ ภาคทัณฑ์ กักขัง จำขัง ซึ่งตนไม่น่าจำผิด เพราะยึดถือ และใช้มาตลอดตั้งแต่เป็นผบ.ทบ. แม่ทัพภาค ได้ใช้หลักการนี้มาโดยตลอด
พร้อมย้ำทหารชั้นใกล้ชิดกับทหารเกณฑ์ อย่าลงโทษเกินกรอบ เนื่องจากจะเกิดปัญหาใหญ่เกิดขึ้น และขอให้เข้าใจซึ่งกันและกัน ซึ่งการสูบกัญชาหรือยาเสพติดเองเป็นสิ่งที่ผิด