หน่วยงานรัฐจีนประณามยับ เจิ้ง ส่วง นางเอก F4 หลังโดนแฉทิ้งลูกอุ้มบุญ

หน่วยงานพรรคคอมมิวนิสต์จีนและสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลจีน ตำหนิและประณาม เจิ้ง ส่วง นักแสดงชื่อดังชาวจีน อย่างรุนแรงเมื่อไม่นานมานี้ หลังมีการเปิดเผยว่านักแสดงรายดังกล่าวว่าจ้างให้ชาวต่างชาติอุ้มบุญลูกฝาแฝด ซึ่งผิดกฎหมายจีน และยังทิ้งเด็กๆ ไว้ที่ต่างประเทศอีกด้วย

เจิ้ง ส่วง วัย 29 ปี คนนี้ มีผลงานเด๋นมากมาย หนึ่งในนั้นคือการรับบทเป็น ฉู อวี่-ถาน หรือซันไช่ ในละครเรื่อง Meteor Shower เมื่อปี 2551 ที่สร้างจากการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง Boys over Flowers ที่มักรู้จักในชื่อ F4 (เอฟโฟร์) ออกอากาศผ่านสถานีโทรทัศน์หูหนาน

• "เจิ้งส่วง" นางเอกจีนผู้โด่งดังจากบทวัยใส ที่โดนรัฐบาลจีนแบน

สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี ระบุว่า การอุ้มบุญชัดเจนอยู่แล้วว่าผิดกฎหมายในประเทศจีน และการที่เธอไม่สนใจก็ทำให้ผู้คนโกรธแค้น

สอดคล้องกับคณะกรรมการชุดหนึ่งของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่ดูแลด้านกิจการการเมืองและกฎหมาย ที่กล่าวหานักแสดงรายนี้ว่าฉวยโอกาสจากช่องว่างทางกฎหมายไปจ้างคนอุ้มบุญในสหรัฐ ทั้งยังมองว่าการกระทำของ เจิ้ง ส่วง ขัดต่อกฎหมายอย่างชัดเจน 

"การอุ้มบุญถูกห้ามไม่ให้ทำในจีน เพราะทำให้มดลูกของผู้หญิงถูกช้เป็นเครื่องมือและขายเด็กเป็นสินค้า" คณะกรรมการชุดดังกล่าว ระบุ

คำวิจารณ์เหล่านี้ส่งผลให้แบรนด์แฟชั่นหรูหลายแบรนด์ อาทิ ปราด้า ถอดนางสาวเจิ้งออกจากการเป็นพรีเซนเตอร์ทันทีเช่นกัน

STR / AFPออกงาน: เจิ้ง ส่วง นักแสดงชาวจีน โพสท่าถ่ายรูปก่อนเข้างานสไตล์ กาลา อะวอร์ดส ในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2564 ปราด้า แบรนด์แฟชั่นหรูประกาศตัดความสัมพันธ์กับนักแสดงรายนี้หลังจากมีข่าวฉาวว่าทิ้งลูก 2 คนที่เกิดจากการอุ้มบุญ หลังเลิกกับแฟนหนุ่มไว้ที่ต่างประเทศ

รักลดตอผุด แฟนหนุ่มเผยทิ้งตน-ลูกไว้ที่สหรัฐ

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2561 เจิ้ง ส่วง เปิดเผยว่าตนคบหากับนายจาง เหิง ผู้ผลิตรายการวาไรตี้โชว์ที่มีความสามารถ ด้วยการเผยแพร่ภาพถ่ายเซลฟี่คู่กันหลายภาพ และต่อมายังปรากฎตัวคู่กันในรายการเรียลิตี้โชว์รายการหนึ่ง

แต่แล้วเมื่อช่วงที่ผ่านมาของเดือนนี้ นายจางก็โพสต์ลงเวย์ป๋อ ซึ่งเป็นโซเชียลมีเดียจีนคล้ายทวิตเตอร์ โพสต์ดังกล่าวมีใจความว่าตนถูกทิ้งให้อยู่ที่สหรัฐมานานเกือบ 1 ปีแล้ว ซึ่งตนต้องดูแลและปกป้องอีก 2 ชีวิตที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรกับเรื่องนี้ด้วย ซึ่งก็คือลูกๆ ของพวกตนที่คลอดออกมาแล้ว

มีการสันนิษฐานว่านักแสดงสาวและนายจาง แยกทางกันในช่วงที่แม่อุ้มบุญ 2 คนยังตั้งครรค์อยู่

แฉคลิปเสียงอยากทำแท้ง-ยกเด็กให้คนอื่นเลี้ยง

หลังจากนั้นสื่อจีนสำนักหนึ่งก็เผยแพร่ภาพที่อ้างว่าเป็นสูติบัตรของเด็ก 2 คนนี้ ซึ่งคนหนึ่งเกิดเมื่อเดือน ธ.ค. 2562 อีกคนเมื่อเดือน ม.ค. 2563 โดยเกิดในสหรัฐทั้งคู่ ทั้งยังมีชื่อของ เจิ้ง ส่วง และนายจาง เป็นแม่และพ่อเด็ก

สื่อสำนักนี้ยังเปิดเผยคลิปเสียงออกมา ซึ่งอ้างว่าเป็นเสียงการสนทนาทางโทรศัพท์ในขณะที่พ่อแม่ของ เจิ้ง ส่วง แนะนำให้ทิ้งเด็กๆ ไป ไม่ก็ให้คนอื่นรับไปเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม ขณะเดียวกันนักแสดงสาวก็บอกว่าตัวเองหงุดหงิดที่ทำแท้งไม่ได้ เพราะขณะนั้นแม่อุ้มบุญทั้ัง 2 คนตั้งครรภ์ได้ 7 เดือนแล้ว

คำกล่าวอ้างเหล่านี้สร้างความตกใจให้กับชาวจีนจำนวนมาก เพราะสังคมจีนมีความผูกพันกับครอบครัวสูง ไม่ใช่แค่นั้นยังจุดประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับการอุ้มบุญ ที่ทำกันอย่างมากมายแบบลับๆ ในประเทศที่ทำให้เป็นเรื่องผิดกฎหมาย

Jade GAO / AFPหราหน้าปก: เจิ้ง ส่วง ปรากฏบนหน้าปกนิตยสารแฟชั่นฉบับหนึ่งในประเทศจีน เมื่อวันที่ 21 ม.ค.

"เจิ้ง ส่วง" โต้กลับ ไม่ได้อุ้มบุญในจีน คือไม่ผิด

ด้านเจิ้ง ส่วง ก็ตอบโต้เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าเศร้า แต่ก็เป็นเรื่องส่วนตัวเช่นกัน และบอกว่าตนไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมายในขณะอยู่ที่ประเทศจีน และตนก็เคารพกฎหมายในประเทศอื่นด้วย

ไม่ใช่แค่นั้น ยังมีหลายเสียที่เรีกยร้องให้รัฐบาลจีนห้ามการอุ้มบุญให้รุนแรงมากขึ้น แต่ในทางกลับกัน ก็ไม่อาจทำให้การอุ้มบุญหายไป แต่จะยิ่งลักลอบทำกันอย่างซับซ้อนมากขึ้นมากกว่า เพราะขณะนี้พบว่ามีความต้องการการอุ้มบุญเพิ่มสูงขึ้นและจะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต โดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีฐานะ

อนาคตดับวูบ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ค่อนข้างแน่นอนคือผลกระทบที่จะเกิดกับงานในวงการบันเทิงของ เจิ้ง ส่วง ที่ถือเป็นนักแสดงแถวหน้าของจีน และนอกจากจะโดนวิจารณ์เรื่องการขาดสัญชาติญาณความเป็นแม่และการทิ้งคนรักและลูกๆ ของตนต้องอยู๋ในสหรัฐ เพราะการระบาดของโรคโควิด-19 เจิ้ง ส่วง ก็ยังสร้างความไม่พอใจให้กับชาวเน็ตด้วยการเลี่ยงกฎหมายด้วยเช่นกัน

เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา องค์การบริหารวิทยุและโทรทัศน์แห่งชาติของจีน ออกบทความต่อข่าวฉาวเรื่องนี้ระบุว่า เจิ้ง ส่วง "หลีกเลี่ยงกฎหมายจีนเพื่อไปอุ้มบุญในต่างประเทศ แล้วยังทิ้งลูกตัวเองไว้อีก นักแสดงแบบนี้ช่างไร้จริยธรรมสิ้นดี"

"เราจะไม่ให้โอกาสและพื้นที่กับคนดังที่เกี่ยวข้องกับข่าวฉาวลักษณะนี้ให้มาปรากฏตัวต่อสาธารณชน"