ผู้ช่วยโฆษก ศบค. เผยพบผู้ป่วยโควิด-19 อีก 2 ราย โยงเคสดีเจมะตูม

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. เผยพบผู้ป่วยโควิด-19 อีก 2 ราย โยงเคสดีเจมะตูม

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. เผยพบผู้ป่วยโควิด-19 อีก 2 ราย โยงเคสดีเจมะตูม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ศบค. รอสรุปผ่อนคลายรับห่วงเปิดโรงเรียน ชี้เคส “ดีเจมะตูม” พบตัวเลขผู้ป่วยโยงไม่เป็นทางการอีก 2 ราย  ส่อผิดกฏหมายปิดข้อมูล

แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. กล่าวว่า มี 14 จังหวัด ไม่พบผู้ติดเชื้อติดต่อเกิน 7 วัน 47 จังหวัด โดยภาพรวมจังหวัดทั้งหมดที่พบผู้ติดเชื้อและจำนวนการลดลงของผู้ติดเชื้อ จะมีการเสนอ ศบค. ชุดใหญ่เพื่อพิจารณาให้ผ่อนคลายมาตรการ

ส่วนกรุงเทพมหานครที่เชื่อมโยงกับเคส “ดีเจมะตูม” มีการรายงานไม่เป็นทางการเพิ่มอีก 2 ราย รวม 26 ราย พบผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 113 ราย ผู้สัมผัสเสียงต่ำ 53 ราย และอาจจะมีตัวเลขทยอยรายงานอีก เพราะขณะนี้ผู้ติดเชื้อมีการให้ข้อมูลไทม์ไลน์ที่คลาดเคลื่อน ไม่สอดคล้อง หรือบางคนมีการปกปิดข้อมูล ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวอาจฝ่าฝืนพ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 รวมไปถึงกฎหมาย อื่นๆ โดยมีความผิดฐานขัดขวางไม่อำนวยความสะดวกต่อเจ้าพนักงานโรคติดต่อมาตรา 55 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558

ส่วนสถานที่จัดการเลี้ยงสังสรรค์อาจมีความผิดกรณีการฝ่าฝืนมาตรการไม่ประกาศ การป้องกันโรค ไม่มีการเว้นระยะห่าง บุคคลที่ร่วมงานเลี้ยงอาจเข้าข่ายการฝ่าฝืนการห้ามทำกิจกรรมหรือมั่วสุมในสถานที่แออัดซึ่งเป็นมาตรการตามข้อกำหนดมาตรา 9 ใน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยในสัปดาห์หน้าจะมีการรายงานการกระทำความผิดด้านกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีปรากฏการณ์สังคมลงโทษ โดยอยากให้สังคมติดตามข่าว โดยไม่ตัดสินผ่านอารมณ์ ใช้การเรียนรู้กรณีนี้ไปสู่การป้องกันในการใช้ชีวิตสังคมเมือง

นอกจากนี้ แพทย์หญิงอภิสมัย ระบุว่า ในวันพรุ่งนี้ (29 ม.ค.64) จะมีการประชุม ศบค. ชุดใหญ่ซึ่งจะมีการประกาศมาตรการผ่อนคลาย ซึ่งเป็นมาตรการใหญ่ และในแต่ละพื้นที่จะมีการประชุมเข้มเช่นกัน พร้อมยอมรับว่ามีความเห็นต่างกันในที่ประชุมอย่างการหารือเรื่องการเปิดโรงเรียน แต่หากปิดอาจมีการแพร่ระบาดของโรคต่างๆ และหากปิดจะมีการจัดการการศึกษาอย่างไร โดยจะมีการจำแนกพื้นที่ซึ่งใน 1 จังหวัด อาจมีการแยกพื้นที่จัดแบ่งย่อยลงไปตามจำนวนผู้ติดเชื้อ

ทั้งนี้ เมื่อมีการผ่อนคลายแล้ว ขอประชาชนอย่าการ์ดตก ยังคงต้องสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ เว้นระยะห่าง ดูแลตัวเอง และดูแลคนในครอบครัวระมัดระวังสูงสุด ด้านสถานบริการ ต้องมีการกำหนดมาตรการสูงสุดทั้งการคัดกรองกำหนดมาตรการให้มีการลงตัวหรือชุมนุมกันในกลุ่มแออัด หรือร้านค้ายังไม่สามารถจัดกิจกรรมหรือโปรโมชั่นที่ทำให้คนแห่กันไปในพื้นที่จำนวนมาก

ส่วนการปฏิบัติตัวของนักเรียนที่ต้องมีการเดินทางข้ามจังหวัดเพื่อไปเรียน แพทย์หญิงอภิสมัย ระบุว่า เป็นเรื่องของความรับผิดชอบส่วนบุคคลที่ต้องร่วมมือกันเฝ้าระวัง มาตรการของจังหวัดและอำเภอจะต้องมีความเข้มข้น เช่น โรงเรียน หากรับทราบว่านักเรียนเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงจะต้องมีการประชุมหามาตรการกันในโรงเรียน ต้องมีมาตรการเฝ้าระวังและป้องกัน เช่น การเรียนแบบออนไลน์และออนไซต์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook