สุดผวา สาวเจอวิญญาณตามหลอน หลังอู่สีแอบนำรถไปใช้แล้วถูกจยย.พุ่งชนดับ
สาวร้องสื่อ หลังอู่สีแอบนำรถไปใช้ ก่อนถูกจยย.พุ่งชนดับ ผวาไม่กล้าใช้รถต่อ หลังเจอวิญญาณตามหลอน อู่ที่รับรถไปซ่อมต่อก็เจอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายของวานนี้ (28 ม.ค.) น.ส.ภานุชนาฏ อายุ 26 ปี ได้หอบเอกสารและรูปถ่ายรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน 8490 กรุงเทพมหานคร ที่มีร่องรอยถูกชนบริเวณประตูหลังขวา เข้าให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากตนนำรถคันดังกล่าวไปทำสีที่อู่แห่งหนึ่งย่านแพรกษา สมุทรปราการ นานกว่า 3 เดือน แต่ไม่เสร็จ และยังทราบข่าวร้ายว่าเจ้าของอู่นำรถของตนออกไปใช้จนเกิดอุบัติเหตุถูกรถจักรยายนต์พุ่งชนกลางประตู จนคนขี่รถจักรยานยนต์เสียชีวิต ซ้ำร้ายเจ้าของอู่ยังปัดความรับผิดชอบ
น.ส.ภานุชนาฏ กล่าวว่า เมื่อช่วงปลายเดือน ต.ค. 2563 ตนได้นำรถคันดังกล่าวเข้าไปทำสีรอบคัน และหุ้มคาร์บอนฝากระโปรงหน้าหลัง กับนายตั้ม เจ้าของอู่ ย่านแพรกษา อ.เมืองสมุทรปราการตกลงกันในราคา 9 พันบาท ระหว่างนี้ตนได้ชำระค่าแรงไปจนครบแล้ว กำหนดส่งงานช่วงเดือน ธ.ค. ต่อมางานสีออกมาไม่เรียบร้อยมีรอยด่าง จึงส่งรถกลับไปแก้ไข ระหว่างนั้นนายตั้ม รับปากว่าจะเก็บงานใหม่ จนวันที่ 10 ม.ค. 2564 เป็นวันครบกำหนดรับรถ แต่สีรถก็ยังไม่เรียบร้อยเหมือนเดิม ตนจึงไม่ยอมรับรถกลับ
ต่อมาคืนวันที่ 18 ม.ค. นายตั้มได้โทรมาบอกว่ารถเกิดอุบัติเหตุ ให้ตนเอาเอกสารมาให้ ตนถึงกับพูดไม่ออก จึงได้ต่อว่าไป ที่เอารถของตนออกไปใช้ กระทั่งไปถึงที่เกิดเหตุ บริเวณจุดกลับรถ ใกล้กับตลาดแพรกษา ถึงกับช็อกเมื่อเห็นสภาพรถถูกชนจนพังยับ และมีคราบเลือดจำนวนมากกองที่พื้น มาทราบภายหลังว่า นายณัฐการ อายุ 25 ปี คนขี่รถจักรยานยนต์ชนรถตนนั้นเสียชีวิต จนกระทั่งตำรวจเรียกเข้าไปสอบปากคำ พร้อมให้ตนเจรจากับนายตั้ม ได้ข้อสรุปว่า ตนจะไม่นำรถกลับไปซ้อมกับอู่นายตั้ม แต่จะเลือกอู่เอง ส่วนค่าใช้จ่ายให้นายตั้มต้องรับผิดชอบทั้งหมด
หลังจากตนนำรถไปที่อู่ใหม่ ทางอู่ตีราคาทำสีและซ่อมตัวถังทั้งหมดกว่า 5 หมื่น เนื่องจากรถเสียหายมาก แต่นายตั้มทักท้วงว่าทำไมต้องซ่อมทั้งคัน ซึ่งตนก็ไม่ยอม เพราะครั้งแรกตนให้รถนายตั้มไปซ่อมทั้งคัน แต่งานไม่สำเร็จซ้ำยังเกิดเรื่องจนเสียหายมากกว่าเดิม นายตั้มจึงยอมจ่ายค่ามัดจำก่อน 2 หมื่นบาท หลังจากนั้นนายตั้มหายเงียบไปเลย ตนกังวลไม่รู้จะทำอย่างไร ใจตนอยากขายรถให้นายตั้มเพื่อตัดปัญหา แต่นายตั้มก็ไม่ยอมซื้อ เพราะตนไม่กล้าขับรถคันดังกล่าวแล้วเนื่องจากเกิดอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิต
น.ส.ภานุชนาฏ ยังเล่าอีกว่า หลังเกิดเหตุ ตนรู้สึกว่าเหมือนเห็นน้องที่เสียชีวิตมายืนที่หน้าบ้าน จนสุนัขที่บ้านเห่าหอน ตนต้องบอกว่า ไม่มีเจตนาที่จะทำให้น้องตาย ถึงแม้รถจะเป็นรถของตนก็ตาม ขอให้อโหสิให้กรรมให้กัน เสียงสุนัขก็หยุดเห่าหอนทันที สิ่งที่ทำให้ตนกังวลและหลอนตามมาอีกคือ มีคนเห็นผู้ตายยืนอยู่กับรถจักรยานยนต์คันที่เกิดเหตุที่จอดไว้ในอู่ด้วย และตนได้โทรไปคุยกับเพื่อนของผู้ตาย และได้ทราบว่าผู้ตายเผาไม่ไหม้ในครั้งแรก จนสัปเหร่อต้องเผาเป็นรอบที่สอง จึงคิดว่าวิญญาณของผู้ตายน่าจะยังไม่ไปไหน
อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้ทางนายตั้มออกมารับผิดชอบ หรืออยากปรึกษาทนายความที่เชี่ยวชาญเรื่องคดีลักษณะนี้ มาช่วยหรือให้ปรึกษา ในการที่จะเรียกร้องค่าซ่อมรถ เพราะส่วนตัวแล้วไม่รู้จะไปปรึกษาใคร และเงิน 5 หมื่น ค่าซ่อมรถก็เป็นเงินจำนวนไม่น้อย
ด้าน นายจักรินทร์ อายุ 40 ปี เจ้าของอู่ซึ่งรับรถของผู้เสียหายมาซ้อมต่อ กล่าวว่า ระหว่างที่รถเก๋งของผู้เสียหายมาจอดซ่อมก็เจออะไรแปลกๆ ทั้งที่ยังเป็นเวลากลางวันแสกๆ อยู่ๆ ไฟท้ายเบรกท้ายรถก็ติดเอง โดยที่ไม่มีใครอยู่ในรถ แถมแบตเตอรี่ก็เสื่อม จนทำให้ลูกน้องต่างพากันกลัวไม่กล้านอนที่อู่
ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าน่าจะเป็นเรื่องลี้ลับ และเหตุการณ์ลักษณะนี้เพิ่งเคยเกิดเป็นครั้งแรก แม้จะเคยรับรถประสบอุบัติเหตุมาซ้อมแล้วหลายคันก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นแต่อย่างใด ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่พบเห็น
อัลบั้มภาพ 8 ภาพ