ระทึก! ไฟไหม้รถตำรวจ ผู้ต้องหาคดีค้ายาโดดหนี อ้างคิดถึงเมียที่เข้าผ่าตัด
ไฟไหม้รถตำรวจวอด 3 ผู้ต้องหาร่วมรถ แฉเห็นผู้ต้องหาคดีค้ายาจุดไฟแช็กเผาช่องแอร์ ก่อนหลบหนีแล้วโดนรวบทันควัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (29 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.40 น. ศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง สภ.เมืองอุดรธานี แจ้งเหตุเพลิงไหม้รถส่งผู้ต้องหาของ สภ.หนองแสง ภ.จว.อุดรธานี ที่บริเวณถนนมิตรภาพ ขาเข้าเมืองอุดรธานี บ.คำกลิ้ง เทศบาลตำบลบ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี ขณะกำลังนำผู้ต้องหา 4 คนมาฝากขังที่ศาล จ.อุดรธานี มีผู้ต้องหาหลบหนีการควบคุมไป 1 คน
ที่เกิดเหตุพบรถส่งผู้ต้องหาของ สภ.หนองแสง เป็นรถปิกอัพโตโยต้า ทะเบียน ฮฐ-2946 กรุงเทพมหานคร ดัดแปลงกระบะท้ายเป็นที่คุมขัง จอดอยู่ริมถนนมิตรภาพ ปากซอยราษฎร์บำรุง หันหน้าเข้าเมือง มีไฟลุกไหม้อย่างรุนแรงไปทั่วคัน โดยมีรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลบ้านจั่น 1 คัน ระดมฉีดน้ำจนเพลิงสงบรถเสียหายทั้งคัน และบริเวณหน้าอาคารพาณิชย์ริมถนน
เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.โนนสูง อ.เมือง ควบคุมผู้ต้องหาไว้ 3 คน เป็นผู้ต้องหาคดีเสพยาบ้าคือ นายอนันตชัย อายุ 23 ปี , นายอนุชา อายุ 18 ปี ถูกใส่กุญแจมือไว้ด้วยกัน และนายเล็ก อายุ 17 ปี มีอาการเจ็บหน้าอกมีหน่วยกู้ชีพปฐมพยาบาล และนำส่ง รพ.อุดรธานี
ส่วน ร.ต.ต.มนตรี สารพันธุ์ รอง สวป.ทำหน้าที่ขับรถส่งผู้ต้องหาคันที่ถูกเพลิงไหม้ ได้วิ่งติดตามจับกุม นายสมสมัย อายุ 46 ปี ผู้ต้องหามียาเสพติดเพื่อจำหน่าย ของกลางยาบ้า 68 เม็ด และยาไอซ์ 3.37 กรัม ที่หลบหนีไป โดยมีการแจ้งตำหนิรูปพรรณหัวล้าน สวมเสื้อแขนยาวสีแดง กางเกงวอร์มสีดำคาดน้ำเงิน ได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในซอยราษฎรบำรุง ที่สามารถทะลุออกไปยังถนนบ้านคำกลิ้ง-บ้านตาด ต.บ้านตาด อ.เมือง
โดยมี พ.ต.อ.ประเสริฐศักดิ์ ฝอยกลาง ผกก.สภ.หนองแสง พร้อม ร.ต.อ.เจริญฤทธิ์ มีหินกอง รอง สว.สอบสวน สภ.หนองแสง เจ้าของคดี และกำลังเดินทางมาสมทบ สอบสวนปากคำผู้ต้องหา ทราบว่า ทั้งหมดถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับขณะเสพยาบ้ากับเพื่อน และถูกควบคุมตัวไว้ที่ สภ.หนองแสง ต่อมานายสมสมัย ผู้ต้องหาคดีเสพและขายยาเสพติด ไม่รู้จักกันมาก่อน ถูกนำตัวมาขังไว้ที่เดียวกัน จนเช้าตำรวจได้นำตัวขึ้นรถ เพื่อเอามาฝากขังที่ศาล จึงขึ้นรถมาด้วยกัน 4 คน นายอนันตชัยถูกใส่กุญแจมือติดกับนายสมสมัย นายอนุชาใส่กุญแจมือคนเดียว ส่วนนายเล็กไม่ได้ใส่กุญแจมือ
ผู้ต้องหา 2 คน ยืนยันว่านายสมสมัยมีไฟแช็กเพราะเห็นสูบบุหรี่ แต่ขณะที่นั่งรถมา นายอนันตชัยอ้างว่านอนหลับ แต่นายอนุชายืนยันว่าเห็นนายสมสมัย ผู้ต้องหาที่หลบหนีจากรถ ได้ใช้ไฟแช็กเผาที่ช่องแอร์ จนไฟลุกไหม้มีควันจำนวนมาก จึงเคาะกระจกบอก ร.ต.ต.มนตรี ที่ขับรถ เมื่อรถคุมตัวผู้ต้องหาจอดริมถนน เปิดประตูด้านหลังให้ออกมา นายเล็กที่มีอาการเจ็บหน้าอกจากตกต้นไม้ เกิดอาการแน่นหน้าออกทรุดลงพื้น ส่วนนายสมสมัยโวยวายว่ากุญแจมือแน่น ตำรวจจึงคลายกุญแจให้ และอาศัยชุลมุนได้วิ่งหลบหนี โดย ร.ต.ต.มนตรี วิ่งตามไป
ร.ต.อ.มนตรี สารพันธุ์ รอง สวป. ได้ย้อนกลับมาที่เกิดเหตุ พบกับ พ.ต.อ.ประเสริฐศักดิ์ ฝอยกลาง ผกก.สภ.หนองแสง รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าปฏิบัติหน้าที่ขับรถมาส่งผู้ต้องจาก สภ.หนองแสง มาที่ศาลจังหวัดอุดรธานี โดยนั่งอยู่ด้านหน้าคนเดียว ผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวด้านหลัง 4 คน
พอรถขึ้นมาบนถนนมิตรภาพไม่นาน ผู้ต้องหาเคาะกระจกเรียก หันไปดูก็เห็นควันไฟ จึงจอดรถริมถนน ออกมาเปิดประตูให้ ผู้ต้องหาที่หลบหนีให้คลายกุญแจมือให้ เห็นอีกทีก็วิ่งหนีเข้าไปในซอย จึงวิ่งตามไปจนถึงถนนไปบ้านตาด ตัดสินใจย้อนกลับมาดูผู้ต้องที่เหลือ ยังโชคดีที่มีตำรวจควบคุมตัวไว้แล้ว
จนกระทั่งเวลา 14.45 น. หรือผ่านไป 1 ชม. 15 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี และ ภ.จว.อุดรธานี นำโดย พ.ต.อ.อารี สินธุรา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.อ.พันธุ์เพ็ชร เหล่ากำเนิดเพชร ผกก.สส.ภ.จว.อุดรธานี สามารถติดตามจับกุมนายสมสมัย ผู้ต้องหาที่หลบหนีได้ในท่อระบายน้ำ ในคลองน้ำหลังร้านทำป้ายโฆษณา ถนนบ้านคำกลิ่ง-บ้านตาด ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 3-4 ร้อยเมตร
โดยผู้ต้องหาได้ถอดเสื้อแผนยาวสีแดงออก เหลือเสื้อสีน้ำเงินใส่ด้านใน ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนจุดไฟเผารถ ไม่ได้สูบบุหรี่ ไม่มีไฟแช็ก ไม่รู้ไฟไหม้ได้อย่างไร ตัดสินใจหลบหนีเพราะได้โอกาส และคิดถึงภรรยาที่จะต้องเข้ารับการผ่าตัด
ด้าน นายสมสมัย ผู้ต้องหาหลบหนี เปิดเผยหลังถูกจับกุมว่า ตอนเกิดเหตุมันเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้แล้ว ตนเลยอาศัยจังหวะช่วงนี้หลบหนี โดยให้ตำรวจที่ควบคุมตัวมา ช่วยปลดกุญแจให้เพราะรถเกิดไฟไหม้ จากนั้นลงมารออยู่นอกรถกินน้ำล้างหน้าเสร็จ อาศัยจังหวะนี้วิ่งหลบหนี
ซึ่งตนไม่ได้เป็นคนจุดไฟเผา ไม่ได้มีไฟแช็กติดตัว และไม่ทราบว่าทำไมรถถึงเกิดไฟไหม้ เพราะตอนที่ตนออกมาไฟไหม้รถแล้ว ตอนนั้นทุกคนนั้นเริ่มหายใจไม่ออก มันมีไฟออกมาตรงช่องแอร์ด้านหลังของรถ และโชคดีที่ตำรวจเปิดประตูด้านหลังรถได้ทัน ไม่งั้นคงจะตายกันหมด ยันว่าไม่ได้เป็นคนจุดไฟ
ส่วนที่ตนตั้งใจวิ่งหนีเพราะว่าภรรยาจะเข้าผ่าตัดมดลูกในวันที่ 7 ก.พ. นี้ ตนคิดถึงและเป็นห่วงภรรยามาก ซึ่งตอนที่อยู่ สภ.หนองแสง ภรรยาก็เดินทางมาเยี่ยมตนอยู่ ทำให้ตนเลยเป็นห่วง เลยตัดสินใจหนี
ด้าน พ.ต.อ.อารี สินธุรา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า ขณะที่กำลังตรวจพื้นที่ตามปกติ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุไฟไหม้รถควบคุมผู้ต้องหาของ สภ.หนองแสง ตนจึงรีบออกมาบัญชาการยังที่เกิดเหตุ เพราะว่าในรถคุมขังมีผู้ต้องหาคดียาเสพติดมาด้วย 4 คน
เบื้องต้น ทราบจากผู้ต้องหา 3 คน ที่ไม่ได้หลบหนี ให้การว่าตัวนายสมสมัยที่หลบหนีมีไฟแช็กติดตัวมาด้วย และเป็นผู้จุดไฟเผา ซึ่งจากคำให้การนี้ทางตำรวจจะต้องตรวจพิสูจน์ต่อไปว่า สาเหตุไฟไหม้ครั้งนี้เกิดจากอะไร
หลังจากนั้นเราได้ระดมกำลังตำรวจทุกชุดติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่หลบหนี จนทราบว่าได้หลบหนีซ่อนตัวที่ป่าด้านหลังร้านทำป้าย จึงเข้าทำการจับกุม ควบคุมตัวไปสอบปากคำต่อไป หลังจากนี้จะให้ทางตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และพนักงานสอบสวน ตรวจสอบรถยนต์และสอบปากคำผู้ต้องหาต่อไป
“แต่จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาปฏิเสธว่าไม่มีไฟแช็กติดตัวมา แต่ข้อน่าสังเกตคือผู้ต้องหาอีก 3 คน ที่เป็นผู้ต้องหาคดีเสพ แต่คนที่หลบหนีเป็นคดีครอบครองยาบ้าและยาไอซ์เพื่อจำหน่าย และเคยถูกจำคุกข้อหาเสพยาเสพติดมาก่อน และภรรยาขณะนี้กำลังจะผ่าตัด จะเป็นเหตุจูงใจหรือไม่ คงต้องรอให้มีการสอบปากคำก่อน และรอผลตรวจของตำรวจพิสูจน์หลักฐานอีกที ซี่งทางตำรวจได้แจ้งข้อหา หลบหนีจากการคุมขังเพิ่มอีก ส่วนข้อหาอื่นรอผลสรุปอีกครั้ง” ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ระบุ