โฆษกประชาธิปัตย์ ถามแรง การมีกฎหมาย ม.112 "หนักส่วนไหน ของบิดามารดาใคร?"

โฆษกประชาธิปัตย์ ถามแรง การมีกฎหมาย ม.112 "หนักส่วนไหน ของบิดามารดาใคร?"

โฆษกประชาธิปัตย์ ถามแรง การมีกฎหมาย ม.112 "หนักส่วนไหน ของบิดามารดาใคร?"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน จะเป็นข้อเท็จจริงตั้งต้น เมื่อฝ่ายค้านกล่าวถึงเรื่องอะไร รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีสิทธิที่จะพูดชี้แจงในเรื่องนั้นได้ทุกประเด็น แต่หากการอภิปรายเกี่ยวข้องพาดพิงถึงสถาบัน หลักการคือไม่สามารถกล่าวถึงพระมหากษัตริย์โดยไม่จำเป็น และหากมีการพาดพิงถึงสถาบัน ขอสนับสนุนให้รัฐบาลชี้แจงให้ประชาชนเห็นว่ามีพรรคการเมืองใดที่เห็นด้วยกับการให้มีกลุ่มบุคคลมาก้าวล่วงสถาบัน  

ส่วน จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ในฐานะรองนายกและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ได้มีการเตรียมข้อมูลอย่างละเอียด และจะถือโอกาสชี้แจงนโยบาย รวมถึงผลการทำงานทั้งหมดที่ผ่านมาอย่างมีประสิทธิภาพ ยืดหลักซื่อสัตย์ สุจริต โดยมีการแบ่งเป็น 2 ทีม คือ ทีมสนับสนุนข้อมูล และทีมทักท้วง หากอภิปรายผิดข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ยืนยัน ไม่ใช่การตั้งองครักษ์พิทักษ์ 2 รัฐมนตรี ซึ่งเบื้องต้นจะทำหน้าที่สนับสนุนเฉพาะรัฐมนตรีของพรรค

พร้อมกันนี้ ราเมศ เปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้ฝ่ายค้านไม่มีข้อมูลพยาน หลักฐาน เพียงพอในการอภิปราย จึงมีความพยายามโยงข้อมูล ให้ผิดจากความเป็นจริง ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องให้ฝ่ายค้านอภิปรายโดยยืดหลักข้อบังคับพรรค

นอกจากนี้ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง ผลการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม ของคณะกรรมาธิการวิสามัญ ว่า พรรคเห็นด้วยกับมติของคณะกรรมาธิการที่มีมติให้ สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ สสร. มีจำนวน 200 คน มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนทั่วประเทศ ประเด็นนี้ก็ต้องถือว่าจะมีผลให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น

ส่วนผู้เชี่ยวชาญในการร่างรัฐธรรมนูญเชื่อว่าการตั้งกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญในชั้น สสร ก็สามารถให้หลายภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมได้ ที่น่าเสียดายคือในส่วนของเยาวชนเมื่อให้มีการเลือกตั้งทั้งหมด 200 คน การเข้ามาโดยการเลือกตั้งอาจจะมีความยากลำบากมากขึ้น แต่ท้ายที่สุดเชื่อว่าจะมีเยาวชนเข้ามามีส่วนร่วมอย่างแน่นอน และเห็นด้วยกับการใช้เขตจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง เพราะจะทำให้ สสร.แต่ละจังหวัดได้บุคคลที่หลากหลายมากขึ้น 

ส่วนพรรคก้าวไกลชูประเด็นแก้ ม.112 ยืนยัน พรรคไม่มีนโยบายแก้มาตรานี้ เพราะ ม.112 ไม่ได้สร้างความเสียหายหรือไม่เป็นธรรมให้กับประชาชน หากมองว่า เป็นการกระทำความผิดก็ให้ว่าไปตามกฎหมาย และเป็นการกระทำความผิดส่วนตัว ไม่ใช่กฎหมายมีปัญหา พร้อมเห็นว่า การมี ม.112 ไปหนักส่วนไหนของบิดามารดาใคร

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook