นักข่าวโต้ไม่ได้อยู่เบื้องหลัง หนุ่มกุุเรื่องร่อนทอง ญาติผู้ก่อเหตุเผย ชอบสร้างเรื่องตั้งแต่เด็ก
ใครพูดโกหก? ปมร่อนทอง จ.ราชบุรี โอละพ่ออีกครั้ง หลังนักข่าวโต้ ไม่ได้อยู่เบื้องหลัง ด้านหนุ่มกุเรื่องลั่น อยากจบชีวิต
30 ม.ค. 64 ทีมข่าวเดินทางไปที่ อ.เมืองราชบุรี เพื่อติดตามเรื่องดังกล่าวโดยได้ข้อมูลว่า ขณะนี้นายหนุ่ม ยังไม่ได้มาพบกับ นายอำเภอเมืองราชบุรี ตามนัดซึ่งทางอำเภอได้ติดต่อไปแล้ว แต่มีการแจ้งกลับมาว่า “ ตอนนี้รู้สึกเครียดมาก อยากฆ่าตัวตาย เพราะเจอกระแสต่อต้านจากสังคมเยอะ และอยากจะขอโทษชาวราชบุรี ทุกคน ที่พูดไปแบบนั้น เนื่องจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ตอนนี้ขอพักผ่อนสมอง ที่จังหวัดเพชรบุรีก่อน และยังไม่พร้อมเจอหน้าใคร และต้องขอโทษนายอำเภอราชบุรี ที่ตนไม่ได้เดินทางไปพบตามนัด ”
ด้าน พ.ต.ท.รัฐศักดิ์ อิ่มฤทธา รอง ผกก.ป. สภ.เมืองราชบุรี กล่าวว่า เบื้องต้นได้ประสานติดต่อเจ้าตัวอยู่ ทราบว่าหลบไปพักในพื้นที่ แจ้งว่าตอนนี้ระแวงกลัวถูกทำร้าย รู้สึกเครียดมาก อยากฆ่าตัวตาย เพราะเจอกระแสต่อต้านจากสังคมเยอะ ตอนนี้ขอพักผ่อนสมองก่อน และยังไม่พร้อมเจอหน้าใคร ซึ่งตำรวจเตรียมประสานเชิญมาสอบปากคำกับพนักงานสอบสวนต่อไป
ส่วนความผิดนั้น เบื้องต้น อาจจะเป็นการกระทำผิด พรบ.คอมพิวเตอร์ เข้าเครื่องอันเป็นเท็จ สร้างความตกใจให้กับประชาชน เรื่องอื่น ๆ ถ้ามีหน่วยงานใดที่ได้รับความเสียหายก็จะดำเนินการเพิ่มเติมต่อไป ซึ่งอยู่ระหว่างรอให้นายกรภัทร มีสภาพจิตใจที่ดีขึ้นก่อน เพราะทราบมาว่าเคย ป่วยซึมเศร้า หากหายดีแล้วจะเรียกมาสอบสวน เอาผิดฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบ ต่อไป
ด้านสมเกียรติ อายุ 62 ปี เป็นลุงของนายนายกรภัทร เดินทางมาเข้าพบพูดคุยกับนายทศพล เผื่อนอุดม นายอำเภอเมืองราชบุรี เปิดเผยพฤติกรรมการครูหนุ่ม เล่าว่า เป็นคนชอบสร้างเรื่อง ตั้งแต่เล็กๆ ตนเองจะรู้นิสัยดีว่าเป็นเด็กยังไง ชอบหาเรื่องเดือดร้อนมาให้ แต่น้องอาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อีกทั้งป่วยทางจิต และยังไม่ปกติ โดยแม่ของน้องเองก็ยินดีขอโทษประชาชนพร้อมยอมรับผิดชอบ เพราะลูกเป็นแบบนี้ตั้งแต่เล็ก
โดยวันนี้ (30 ม.ค. 64) แม่ของผู้ก่อเหตุ ให้ลุงเป็นตัวแทนมาดำเนินการให้ เนื่องจากแม่ทำงานต่างจังหวัดหากกลับมาก็ต้องกักตัว 14 วัน พร้อมฝากกล่าวขอโทษชาวราชบุรี ทุกคนที่แห่กันไปร่อนทอง รวมทั้งขอโทษส่วนราชการทุกส่วนที่ทำให้เดือดร้อน ทั้งหมดที่เกิดขึ้นไม่ได้มีเจตนาหลอกลวงใคร เกิดจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ของเด็กที่ป่วยทางจิตยังไม่ปกติ ซึ่งตอนนี้ตนเองก็ยังไม่สามารถติดต่อนายกรภัทรได้ทั้งทางมือถือและทางไลน์ แต่หากติดต่อได้ ก็จะพูดคุยให้เข้ามาพบกับนายอำเภอทันที
ด้านนักข่าวที่ถูกพาดพิง ว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของการกุเรื่องเจอทองในคลองชลประทานดอนแจงจังหวัดราชบุรี เจ้าตัวออกมาชี้แจงกับทางทีมข่าวว่า เรื่องราวทั้งหมด “ไม่เป็นความจริง” หลังเขาได้รับคำสั่งจากต้นสังกัดให้ลงพื้นที่ติดตามข่าว จึงเป็นคนทักแชทส่วนตัวไปเมื่อวันที่ 23 มกราคม เพื่อติดต่อขอสัมภาษณ์ (แต่ถูกกล่าวหาว่าทักไปเมื่อวันที่ 15 มกราคม) ซึ่งพอหลังจากที่ทักไปแล้ว ก็ได้ลงพื้นที่ ณ จุดร่อนทอง พร้อมสัมภาษณ์นายกรภัทร แล้วนำเสนอข่าวไปตามปกติ โดยไม่ได้มีการยุยง หรือบังคับให้สร้างเรื่องราวว่ามีคนขับสิบล้อมาบอกแต่อย่างใด
ต่อมาในวันที่ 25 มกราคม ระหว่างที่ลงพื้นที่ตรงจุดร่อนทอง มีรายการทีวีช่องหนึ่ง ติดต่อมาทางเขา ให้พาไปออกรายการ แต่ทางรายการไม่มีรถรับส่ง เลยให้เขาเป็นคนรับส่งพาไปออกรายการ โดยพานักร่อนทองชาวโคราชไปด้วยอีก 2 คน รวมกันเป็น 4 คน ซึ่งพอไปถึงสถานี ก็ได้ร่วมรายการตามปกติ โดยไม่มีการเขียนสคริปต์ใดๆ หลังจากจบรายการ ทางรายการได้โอนเงินให้เขาเป็นเงินจำนวน 3 พันบาท เป็นค่ายานพาหนะ และโอนให้กับนายกรภัทร จำนวน 2,425 บาท เป็นเงินค่าตัว (ตามเดิมคือ 2500 บาท หักภาษีไป 75 บาท เหลือเงิน 2425 ) ซึ่งทางรายการได้โอนให้กับเจ้าตัวโดยตรง ไม่ได้ผ่านบัญชีของผู้สื่อข่าวตามที่ถูกกล่าวอ้าง เพราะฉะนั้นสิ่งที่นายกรภัทรกล่าวหาว่าเขาโกงเงินค่าตัว 1 หมื่นบาท จึงไม่เป็นความจริง
- ร้านทองเช็กแล้ว ทองที่หนุ่มราชบุรีร่อนเจอจากคลองชลประทานเป็นทองแท้
- นักร่อนทองฟันธง! คลองชลประทานมีทองอยู่จริง ชาวบ้านโชคดีเจอสร้อย-แหวนฝังเพชร
- โอละพ่อ หนุ่มราชบุรียอมรับกุเรื่องร่อนเจอทองในคลองชลประทาน