แม่เชื่อ หนุ่มโคราชถูกยิงดับจากปมหึงหวง เผยเห็นลูกชายทะเลาะแฟนหนุ่มบ่อย
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า คดีเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2564 นายสิรภพ ชิตทอง อายุ 37 ปี ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงที่กลางหน้าผาก เสียชีวิตบริเวณป่าละเมาะ ริมถนนตัดใหม่ไชยมงคล-สูงเนิน บ้านหนองไทร ม.5 ต.ไชยมงคล อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยพบนายอุดมศักดิ์ กว้างพิมาย อายุ 36 ปี นั่งอยู่บนรถกระบะยี่ห้อ โตโยต้าสีขาว 4 ประตู จอดอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ และนายอุดมศักดิ์ ให้การเบื้องต้นว่า ได้คบหาเป็นแฟนกันกับผู้เสียชีวิตในลักษณะชายรักชาย มีอาชีพค้าขายออนไลน์ ก่อนที่จะมีคนติดต่อเพื่อขอซื้อปืนกับผู้เสียชีวิต จึงได้พากันนำปืนมาทดสอบยิงที่ป่าละเมาะแห่งนี้ โดยผู้เสียชีวิตได้เข้าไปจุดเกิดเหตุคนเดียว ส่วนนายอุดมศักดิ์ บอกว่าได้นั่งรออยู่ในรถ สักพักมีชาวบ้านเดินออกมาแจ้งว่านายสิรภพ ถูกยิงเสียชีวิตแล้ว จึงได้รับโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบนั้น
ล่าสุด วันนี้ (31 มกราคม 2564) เวลา 10.30 น. ครอบครัวของนายสิรภพ ผู้เสียชีวิต ได้นำศพมาจากโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เพื่อมาจัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพตามประเพณี ที่ศาลาบำเพ็ญกุศลศพ3 วัดวิสุทธิศรีสุมังคลาราม (วัดหนองไผ่ล้อม) ต.หนองไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยจะมีการจัดพิธีรดน้ำศพ เวลา 16.00 น. หลังจากนั้นมีกำหนดจะจัดพิธีสวดอภิธรรมศพ เป็นเวลา 3 คืน และจะจัดพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 16.00 น. ที่ฌาปนสถานวัดวิสุทธิศรีสุมังลาราม (วัดหนองไผ่ล้อม) ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจของครอบครัวเป็นอย่างมาก
นางนงลักษณ์ ชิตทอง อายุ 63 ปี แม่ของนายสิรภพ ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ครอบครัวของตนเองมีลูกชายอยู่ 2 คน คนที่เสียชีวิตเป็นคนโต ส่วนคนเล็กอายุ 30 ปี ทั้งนี้นายสิรภพ ลูกชายคนโตเป็นคนที่มีนิสัยร่าเริง มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีกับทุกคน ไม่เคยไปมีเรื่องกับใคร กระทั่งได้มาคบหากับนายอุดมศักดิ์ เป็นเวลา 7 เดือนแล้ว ซึ่งช่วงหลังๆ เริ่มมีการทะเลาะกันบ่อยครั้ง เท่าที่ทราบจะเป็นเรื่องของความหึงหวง โดยนายอุดมศักดิ์ เคยมาทะเลาะกันกับลูกชายของตนถึงที่บ้านด้วย แต่ตนเองก็ห้ามปรามไว้ทุกครั้ง ดังนั้นส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะมีประเด็นอื่นที่จะทำให้ลูกชายของตนเองต้องถูกยิงในครั้งนี้ ตนเองจึงเชื่อว่ามูลเหตุน่าจะมาจากเรื่องความหึงหวง แต่ก็ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ก่อน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็กำลังเร่งสอบปากคำ และกำลังรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อที่จะหาคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว ทั้งนี้ตนเองจะไม่ให้อภัยผู้ก่อเหตุแน่นอน อยากให้ตำรวจจับมาดำเนินคดีและได้รับการลงโทษให้ถึงที่สุด เพื่อให้สมกับกรรมที่ทำไว้กับลูกชายของตนเอง
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง พ.ต.อ.ขุนศึก เศรษฐชัย ผู้กำกับการ สภ.โพธิ์กลาง ได้รับการเปิดเผยว่า คดีนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดออกไป ทั้งประเด็นหึงหวง ประเด็นความขัดแย้งส่วนตัว และประเด็นฆ่าตัวตาย โดยตำรวจได้นำตัวนายอุดมศักดิ์ เพื่อนสนิทที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ มาสอบปากคำ ตรวจร่างกายหาคราบเขม่าดินปืน และส่งปืนของกลางไปตรวจสอบลายนิ้วมือแฝง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานหาสาเหตุที่แท้จริง โดยจะเร่งติดตามคดีและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย