โชเฟอร์รถตู้ช็อก! เป็นกลุ่มเสี่ยงเพราะหมอนวดนั่งไปหาดใหญ่ รายได้เหลือเดือนละ 3,000

โชเฟอร์รถตู้ช็อก! เป็นกลุ่มเสี่ยงเพราะหมอนวดนั่งไปหาดใหญ่ รายได้เหลือเดือนละ 3,000

โชเฟอร์รถตู้ช็อก! เป็นกลุ่มเสี่ยงเพราะหมอนวดนั่งไปหาดใหญ่ รายได้เหลือเดือนละ 3,000
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เปิดใจคนขับรถตู้ สุไหงโก-ลก-หาดใหญ่ หลังต้องเป็นกลุ่มเสี่ยงจากผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มาใช้บริการ

วันนี้ (31 ม.ค.) เพจเฟซบุ๊ก สวท.สุไหง-โกลก เปิดใจ นายเอ (นามสมมติ) พนักงานขับรถตู้ สุไหงโก-ลก-หาดใหญ่ ภายหลังทราบว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นผู้โดยสารเที่ยวที่ตนเป็นผู้ขับรถ โดยระบุว่า วันที่ 27 มกราคม 2564 เวลาประมาณ 09.00 น. เป็นคิวของตนที่จะขับรถตู้จากสุไหงโก-ลก ไปหาดใหญ่ วันนั้นมีผู้โดยสารที่ขึ้นที่คิว จำนวน 9 คน โดย 3 คนเป็นกลุ่มที่มี 1 คนติดเชื้อโควิด-19 และระหว่างทางรับผู้โดยสารอีก 4 คน รวม 13 คน โดยตลอดเส้นทางยืนยันว่าทุกคนสวมหน้ากากอนามัย และผู้ติดเชื้อไม่ค่อยได้พูดจากับเพื่อนๆ อีกทั้งระหว่างที่แวะปั๊มน้ำมันจุดพักรถ ทั้ง 3 คนไม่ได้ลงจากรถ จากนั้นได้ลงที่ บขส.หาดใหญ่ เมื่อเวลาประมาณ 12.30-13.00 น. โดยผู้โดยสารกลุ่มผู้ติดเชื้อเปรยว่าอยากเดินทางไปสนามบินหาดใหญ่ แต่สุดท้ายก็เหมารถตู้จากหาดใหญ่ไปสถานีขนส่งหมอชิต

ช่วงเวลาที่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขว่ามีผู้โดยสารในรถตู้ที่ตนเองขับติดเชื้อโควิด-19 ยอมรับว่า รู้สึกตกใจและเครียดมาก ไม่คิดว่าตนเองจะกลายเป็นกลุ่มเสี่ยงจากผู้ติดเชื้อโควิด-19 สิ่งที่ตามมาคือ แล้วหลังจากนี้ตนเองต้องทำอย่างไร ปากท้องคนในครอบครัว ภรรยา และลูกๆ รวม 6 ชีวิตจะอยู่อย่างไร จึงวอนภาครัฐช่วยเข้ามาช่วยเหลือในระหว่างที่ตนต้องหยุดงานและกักตัว 14 วันเพื่อติดตามอาการ เพราะมีตนเป็นเสาหลักเพียงคนเดียวของครอบครัว ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ รายได้ของตนลดลงมาก ปัจจุบันมีรายได้เพียง 3,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น

เมื่อต้องกลายเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้เห็นเลยว่ายังมีคนที่ไม่รับผิดชอบต่อส่วนรวมอีกมากที่พยายามฝ่าฝืนกฎระเบียบและมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันโควิด-19 ทั้งในระดับพื้นที่และระดับประเทศ ทั้งที่การลักลอบเดินทางกลับจากประเทศมาเลเซียอย่างผิดกฎหมายเป็นการทำผิด พ.ร.บ.คนเข้าเมือง และที่สำคัญที่สุดคือในประเทศมาเลเซียมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นจำนวนมาก อีกทั้งในพื้นที่ชายแดนที่รัฐกลันตัน ซึ่งติดกับจังหวัดนราธิวาสมีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นทุกวัน จึงมีความเสี่ยงสูงมากที่อาจมีผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 ลักลอบเข้ามา

ตนจึงเห็นด้วยอย่างยิ่งหากจะมีการล็อกดาวน์พื้นที่เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มาจากประเทศมาเลเซีย เพราะหากยังมีผู้ที่ทำพฤติกรรมเช่นนี้ก็จะส่งผลกระทบในระยะยาวกับจังหวัดนราธิวาส และประเทศไทย

ทั้งนี้ มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 พนักงานขับรถตู้และรถตู้ที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยสารไปหาดใหญ่ได้กักตัวและหยุดเดินรถพร้อมนำรถฆ่าเชื้อป้องกันโควิด-19 และเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จะเข้าไปฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อบริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook