ศาลยกฟ้อง แนวร่วม นปช. คดีฆ่า "พล.อ.ร่มเกล้า" ชี้พยานโจทก์ไม่น่าเชื่อถือ

ศาลยกฟ้อง แนวร่วม นปช. คดีฆ่า "พล.อ.ร่มเกล้า" ชี้พยานโจทก์ไม่น่าเชื่อถือ

ศาลยกฟ้อง แนวร่วม นปช. คดีฆ่า "พล.อ.ร่มเกล้า" ชี้พยานโจทก์ไม่น่าเชื่อถือ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีคนร้ายขว้างระเบิดใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่ทหาร ในการ สลายชุมนุม ทางการเมืองวันที่ 10 เม.ย. 2553 เป็นเหตุให้ พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม หรือ เสธ.เปา อดีตรองเสนาธิการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์, ส.ท.ภูริวัฒณ์ ประพันธ์, ส.ท.อนุพงศ์ เมืองอำพัน, ส.อ.อนุพนธ์ หอมมาลี และพลทหารสิงหา อ่อนทรง (ยศ-ตำแหน่งขณะเกิดเหตุ) เสียชีวิต

ล่าสุดวันนี้ (1 ก.พ. 2564) ที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้เบิกตัว นายสุรชัย เทวรัตน์ หรือ “หรั่ง” และ นายสุขเสก พลตื้อ หรือ “เสก” จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครมายังศาลอาญา เพื่อฟังคำพิพากษาในคดีฆ่า พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม กับลูกน้อง ที่พนักงานอัยการคดีพิเศษ 1 และ นางนิชา หิรัญบูรณะ ภรรยา พล.อ.ร่มเกล้า ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุขเสก นางพนกมล บัวฉัตรขาว หรือ นางกนกพร ศิริพรรณาภิรัตน์ อดีตผู้ดำเนินรายการทีวีสถานีประชาชนเอเชียอัพเดต และนายสุรชัย เทวรัตน์ แนวร่วม นปช. ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าและสนับสนุนให้ฆ่าผู้อื่น ฯ พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ ส่วนนางพรกมลที่ได้รับการประกันตัวก็เดินทางมาศาลด้วยเช่นกัน

โจทก์ฟ้องระบุพฤติการณ์ความผิดสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 15 พ.ย. 2552 - 20 พ.ค.2553 กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้ร่วมกันชุมนุมที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อขับไล่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น ให้ลาออกจากตำแหน่ง จนวันที่ 7 เม.ย. 2553 นายอภิสิทธิ์ ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตกรุงเทพมหานคร และออกคำสั่งจัดตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เพื่อปฏิบัติการขอคืนพื้นที่ บริเวณ ถ.ราชดำเนินกลางตั้งแต่แยกคอกวัวมุ่งหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

กระทั่งวันที่ 10 เม.ย.2553 จำเลยที่ 1 และ 3 กับพวก ร่วมกันมีลูกระเบิดขว้างชนิดสังหารแบบ M67 คนละ 3 ลูก ซึ่งมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้สนับสนุนด้านการเงิน และจัดหาระเบิดให้ โดยพวกจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้อื่นด้วยการขว้างระเบิดสหาร 2 ลูกใส่เจ้าหน้าที่ทหารขณะปฏิบัติหน้าที่บริเวณหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา ถนนดินสอ เป็นเหตุให้ พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม รองเสนาธิการกองพลทหารราบที่ 2 รอ. กับนายทหาร รวม 5 นาย เสียชีวิต และมีนายทหารอีกหลายนายได้รับบาดเจ็บสาหัส คดีนี้พวกจำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลได้อ่านคำพิพากษาที่มีการบรรยายพิเคราะห์พยานหลักฐานที่โจทก์และจำเลยนำสืบอย่างละเอียดแล้ว คำเบิกความพยานโจทก์มีข้อพิรุธ อ้างเป็นผู้ติดตามจำเลยแต่ไม่มีเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ ไม่รู้จักกลุ่ม นปช. ไม่มีแรงจูงใจทางการเมือง เชื่อว่าให้การทั้งที่ไม่รู้เห็น แต่ได้รับประโยชน์ตอบแทนจากการเข้าโครงการคุ้มครองพยาน ประจักษ์พยานโจทก์จึงไม่น่าเชื่อถือ ไม่มีน้ำหนักรับฟังได้ และศาลพิจารณาคำฟ้องจำเลยเปรียบเทียบกับคดี นปช. ก่อการร้าย ซึ่งเป็นบุคคลเดียวกัน มูลเหตุช่วงเวลาเดียวกัน ถือเป็นการฟ้องซ้อน พิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 1-3

เฟซบุ๊ก Nicha Hiranburana Thuvatham ของ นางนิชา หิรัญบูรณะ ภรรยา พล.อ.ร่มเกล้า ได้โพสต์ข้อความหลังศาลมีคำพิพากษา ระบุว่า "ขอบคุณทุกท่านที่ส่งกำลังใจมาให้ในวันอ่านคำพิพากษาคดีพลเอกร่มเกล้าในวันนี้ค่ะแม้ศาลชั้นต้นจะมีคำพิพากษายกฟ้องแต่จากคำพิพากษาก็เป็นที่ประจักษ์ว่ามีกลุ่มคนที่กระทำต่อเจ้าหน้าที่ทหารจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตโดยใช้อาวุธสงครามร้ายแรงกับเจ้าหน้าที่จริง. มีการโยนระเบิด M67 จากบ้านไม้ถนนดินสอมายังกลุ่มเจ้าหน้าที่ทหาร จึงไม่ใช่การชุมนุมที่สงบและปราศจากอาวุธตามที่กล่าวอ้างมาตลอด"

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook