เชฟรอน-เอ็กซอน 2 ยักษ์น้ำมัน คุยควบรวมกิจการ หวังรอดเงื้อมมือโควิด-19
เดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นอล สื่อด้านธุรกิจจากสหรัฐ รายงานโดยอ้างคำให้สัมภาษณ์จากแห่งข่าวที่ใกล้ชิดกับเหตุการณ์ว่า ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ 2 แห่ง คือ เอ็กซอนโมบิล คอร์ป และเชฟรอน คอร์ป หารือกันเมื่อปีที่แล้วว่าจะควบรวมกิจการกัน
แหล่งข่าวเผยว่านายไมค์ เวิร์ธ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของเชฟรอน และนายแดร์เรน วูดส์ ซีอีโอของเอ็กซอน หารือกันถึงเรื่องดังกล่าว หลังจากบริษัททั้ง 2 แห่ง เผชิญกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ทำให้ความต้องการน้ำมันและก๊าซธรรมชาติทั่วโลกลดลงอย่างหนัก ซึ่งส่งผลต่อการแสการเงินของบริษัททั้ง 2 แห่ง
อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวเผยว่า การพูดคุยดังกล่าวยังเป็นอยู่ในขั้นเริ่มต้นเท่านั้น และยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ หลังจากนั้น
หากรวมมูลค่าตลาดของทั้ง 2 บริษัทเข้าด้วยกัน ก็จะพบว่ามีสูงกว่า 350,000 ล้านดอลลาร์ และถ้าหากควบรวมกันจริงๆ ก็จะเป็นบริษัทน้ำมันใหญ่อันดับ 2 ในแง่ของทุนในตลาดและการผลิต ซึ่งก่อนโรคโควิด-19 แพร่ระบาด ทั้งเอ็กซอนและเชฟรอน ผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติรวมกันได้ถึง 7 ล้านบาร์เรล (834.68 ล้านลิตร) ต่อวัน เป็นรองเพียงบริษัท ซาอุดี อารามโค
ถึงอย่างนั้น การรวบรวมบริษัทน้ำมัน 2 รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐนี้ อาจเผชิญกับการตรวจสอบการผูกขาดตลาดจากรัฐบาลสหรัฐได้ ขณะเดียวกันนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ ก็พูดชัดเจนว่าต้องการลดการใช้น้ำมันลง เพื่อบรรเทาผลกระทบจากภาวะภูมิอากาศโลกเปลี่ยนแปลง และนายไบเดนยังบอกว่าตนต้องการผลักดันให้สหรัฐ "เปลี่ยนผ่านออกจากอุตสาหกรรมน้ำมัน"