ท้องถิ่นรับลูกมหาดไทย พร้อมชะลอเรียกคืนเบี้ยสูงอายุ แต่เผยฟ้องศาลบางรายไปแล้ว

ท้องถิ่นรับลูกมหาดไทย พร้อมชะลอเรียกคืนเบี้ยสูงอายุ แต่เผยฟ้องศาลบางรายไปแล้ว

ท้องถิ่นรับลูกมหาดไทย พร้อมชะลอเรียกคืนเบี้ยสูงอายุ แต่เผยฟ้องศาลบางรายไปแล้ว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในพื้นที่หลายแห่งทั่วประเทศ มีการเรียกเก็บเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุคืนย้อนหลัง เนื่องจากมีรายชื่อไปทับซ้อนกับผู้สูงอายุที่ได้รับเงินบำนาญพิเศษมาแล้ว โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งพบว่ามีผู้สูงอายุจำนวน 610 ราย ที่ถูก อปท. เรียกเบี้ยยังชีพคืนย้อนหลัง

ต่อมาเมื่อวานนี้ (1 ก.พ.) พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ให้นโยบายไปยัง อปท. ทั้ง 7,850 แห่งทั่วประเทศเจรจากับผู้สูงอายุหรือพิจารณาชะลอการดำเนินการเรียกเงินคืนออกไปก่อน เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับประชาชน ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ช่วงเช้าวันอังคาร (2 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่สำนักงานเทศบาลตำบลจอหอ อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา เพื่อไปสอบถามถึงแนวทางการดำเนินการอย่างไรต่อไป ภายหลังจากพบว่าในพื้นที่รับผิดชอบของเทศบาลตำบลจอหอ มีผู้สูงอายุที่ถูกเรียกเงินเบี้ยยังชีพคืนย้อนหลังรวมทั้งหมด 13 ราย

เทศบาลจอหอพบ 13 รายถูกเรียกคืน

นายสุวโรจน์ คงสงวนวงษ์ ปลัดเทศบาลตำบลจอหอ รักษาราชการแทนนายกเทศมนตรีตำบลจอหอ (ซึ่งเพิ่งหมดวาระไป) ได้รับการเปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ทราบข่าวว่าทาง รมว.มหาดไทย ได้มีนโยบายดังกล่าว ทางเทศบาลตำบลจอหอ ก็เตรียมที่จะลงพื้นที่ไปทำความเข้าใจกับผู้สูงอายุที่ถูกเรียกเบี้ยยังชีพคืนย้อนหลัง ซึ่งในพื้นที่ ต.จอหอ นั้น มีผู้สูงอายุที่ถูกเรียกเงินคืนย้อนหลังทั้งหมดจำนวน 13 ราย โดยแยกออกเป็น 3 กลุ่มคือ 

  • กลุ่มที่ 1 มีจำนวน 6 ราย ซึ่งมีการทำสัญญารับสภาพหนี้ และทำการผ่อนชำระหนี้คืนมาแล้วจนเหลืออยู่เพียง 2 งวดสุดท้าย
  • กลุ่มที่ 2 มีจำนวน 3 ราย ที่มาละเบียนรับเบี้ยยังชีพแล้ว แต่มาทราบภายหลังว่าตนเองไม่มีสิทธิ์รับ จึงขอสละสิทธิ์ไม่รับเงินเบี้ยยังชีพตั้งแต่แรก
  • และกลุ่มที่ 3 มีจำนวน 4 ราย ซึ่งไม่ประสงค์จะทำสัญญารับสภาพหนี้ และขอให้เทศบาลฯ ส่งฟ้องศาลแขวงนครราชสีมา

พร้อมชะลอหนี้ แต่บางรายไม่ทัน ฟ้องศาลไปแล้ว

นายสุวโรจน์ กล่าวอีกว่า ทางนายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ทำหนังสือด่วนที่สุด ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เมื่อวันจันทร์ (1 ก.พ.) ให้จังหวัดแจ้งมาถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง พิจารณาดำเนินการ 2 ข้อ คือ ให้ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนผู้สูงอายุว่าทุกฝ่ายอยู่ระหว่างการหาแนวทางแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน และกรณีที่ยังไม่ได้ดำเนินการทางกฎหมาย ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นชะลอดำเนินคดีไว้ก่อน

ปลัดเทศบาลตำบลจอหอ เผยต่อไปว่า บ่ายวันอังคาร (2 ก.พ.) ตนก็จะได้ลงพื้นที่ไปชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้สูงอายุที่ได้รับความเดือดร้อน โดยผู้สูงอายุ 6 รายที่ผ่อนชำระเงินเบี้ยยังชีพ ขณะนี้เหลืออยู่เพียงแค่ 2 งวดเท่านั้น ซึ่งมีกำหนดชำระในวันที่ 8 ก.พ. นี้ ก็อาจะต้องรอฟังความชัดเจนจากกรมการปกครองส่วนท้องถิ่นก่อนว่า ถ้าชะลอการผ่อนชำระไว้ก่อน จะผิดสัญญาที่ทำไว้หรือไม่ ถ้าไม่ผิดสัญญาทางเทศบาลตำบลจอหอ ก็พร้อมที่จะชะลอออกไปให้ได้เลย

ส่วนอีก 4 รายที่ส่งฟ้องศาลไปแล้วนั้น นายสุวโรจน์ ให้ความเห็นว่า ก็ต้องอยู่ที่ดุลพินิจของศาลว่าจะพิจารณาอย่างไร ซึ่งอยู่นอกเหนือจากอำนาจของเทศบาลตำบลจอหอ ทั้งนี้ทางเทศบาลตำบลจอหอ ยืนยันว่าจะดำเนินการตามความเหมาะสมเพื่อไม่ให้ผู้สูงอายุได้รับความเดือดร้อน ตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทยต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook