นายกฯ รับปาก! แก้ปัญหาผู้สูงอายุถูกเรียกเบี้ยคืน ห่วงเสนอข่าวรัฐประหารเมียนมา ทำขัดแย้ง

"บิ๊กตู่" รับปากจะดูแลแก้ไขปัญหากรณีผู้สูงอายุถูกเรียกคืนเบี้ยยังชีพ พร้อมกับแสดงความเป็นห่วงสื่อเกี่ยวกับการนำเสนอข่าวรัฐประหารในเมียนมา อยากให้ระมัดระวังที่สุด เพราะอาจเกิดความขัดแย้งและผลเสียต่อผลประโยชน์ประเทศ

วันนี้ (2 ก.พ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์ผ่านสื่อโซเชียลว่า

เรื่องเบี้ยผู้สูงอายุนั้น ทางกระทรวงมหาดไทยได้แจ้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายให้ชัดเจนก่อน และให้ชะลอการเรียกคืนหรือฟ้องร้องเอาไว้ก่อนแล้ว ตอนนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังตรวจสอบและแก้ไขความคลาดเคลื่อนของข้อมูลต่างๆ กันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงพัฒนาสังคมที่ดูแลเรื่องผู้สูงอายุ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เป็นคนจ่ายเงิน และกรมบัญชีกลางที่ดูเรื่องการเบิกจ่ายให้ถูกต้องตามกฎหมาย ทุกฝ่ายกำลังคุยกันว่าจะมีทางออกอย่างไร

ขอให้คุณตาคุณยายไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมรับปากจะดูแลให้ ผมเข้าใจความรู้สึกของท่านดี ท่านไม่ได้ทำอะไรผิด ทางเจ้าหน้าที่ก็ทำตามระเบียบ อย่างไรก็ดี ทางออกมีอยู่แล้วโดยไม่มีใครต้องเดือดร้อน รอสักหน่อยนะครับ และไม่ต้องกังวลว่าจะต้องไปหาเงินมาใช้คืนหลวงหรือจะต้องขึ้นศาล ผมจะจัดการให้ทุกอย่างเรียบร้อยครับ #ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

ขณะที่หลังจากประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสร็จสิ้น นายกฯ ประยุทธ์ กล่าวในระหว่างแถลงข่าวว่า การรัฐประหารในเมียนมานั้น ขอสื่อมวลชนทุกฝ่ายเสนอข่าวระมัดระวังที่สุด ไม่อยากให้เกิดเป็นผลเสียเรื่องผลประโยชน์เศรษฐกิจและประชาชนของประเทศไทย ในฐานะที่เป็นประเทศเพื่อนบ้านร่วมกัน ขอให้เป็นเรื่องของอาเซียน เพราะไม่อยากให้เกิดความขัดแย้ง ให้เป็นไปตามหลักการของอาเซียน ส่วนเรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ได้แต่งตั้งให้ รมว.คลัง เป็นประธานเจรจา ช่วยเหลือนักธุรกิจของเราด้วยแล้ว

ส่วนมาตรการช่วยเหลือประชาชนด้านเศรษฐกิจจากผลกระทบของโควิด-19 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ให้กระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลัง สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ร่วมกันดำเนินการอยู่แล้ว ก็จะยังมีการเก็บตกมาตรการช่วยเหลือในส่วนที่ประชาชนยังไม่ได้รับการช่วยเหลือต่อไปอย่างต่อเนื่อง