คณบดีศิริราช เผยทั่วโลกฉีดวัคซีนโควิดแตะ 100 ล้านโดส ภาพรวมป่วย-เสียชีวิต ลดลง
คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เผยขณะนี้ทั่วโลกฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบ 100 ล้านโดสแล้ว ส่วนประเทศไทยอยากจะให้ศึกษาและฉีดเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในประเทศ
วันนี้ (2 ก.พ.) ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยในการแถลงข่าวทางเพจเฟซบุ๊ก มหาวิทยาลัยมหิดล ถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ของโลก หลังมีการฉีดวัคซีนไปเมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคม 2563 จนถึง 31 มกราคม 2564 พบว่า ทั่วโลกฉีดวัคซีนโควิด-19 ไปแล้วรวม 100 ล้านโดส (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มกราคม)
ส่วนใหญ่ที่ฉีดมากที่สุดตอนนี้ ได้แก่ วัคซีนชนิด mRNA คือ ฉีด 2 เข็ม เข็มแรก ฉีดสร้างภูมิคุ้มกัน ผ่านไป 3 อาทิตย์ ฉีดอีกเข็ม และรอ 1 สัปดาห์ เบื้องต้นมีการรวบรวมผลข้างเคียง และประสิทธิผลของวัคซีน ว่าป้องกันอะไรได้บ้าง โดยภาพรวมของอัตราการเสียชีวิตและการป่วยนั้น พบว่าเริ่มลดลงเรื่อยๆ อย่างเช่นประเทศอังกฤษ ฉีดเข็มแรก วันที่ 8 ธันวาคม จากนั้น 1 เดือนผ่านไป พบว่าผู้ป่วยลดลง จากเดิมวันละ 4-5 หมื่นคน ล่าสุดเหลือเพียง 1-2 หมื่นคนแล้ว ส่วนเสียชีวิตก็เริ่มลดลง
ขณะที่สหรัฐอเมริกา ฉีดเข็มแรก เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พบว่า อัตราการติดเชื้อต่อวัน ลดลงชัดเจน จาก 2-3 แสนคนต่อวัน เหลือไม่ถึง 1 แสนคนต่อวัน ส่วนอัตราการเสียชีวิตยังลดลงไม่ชัดเจน แต่มีแนวโน้มว่าลดลง
ปัจจุบันนี้ หลายประเทศมีการนำวัคซีนโควิดมาฉีดหลายเทคโนโลยี เพราะหากมีชนิดเดียวอาจควบคุมไม่ได้มากนัก การฉีดวัคซีนนั้นก็เพื่อลดอัตราการระบาด ลดความรุนแรง และเสียชีวิต ส่วนภูมิคุ้มกันของแต่ละคน ยอมรับว่าสามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ แต่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าผู้ป่วยจะไม่มีอาการหรือเสียชีวิต ถึงแม้ว่าจะมีการฉีดวัคซีน แต่ก็ยังต้องป้องกันตัวเอง สวมหน้ากาก ล้างมือ รักษาระยะห่างเหมือนเดิม การฉีดวัคซีน ถ้าเกิน 50% ก็ถือว่าได้ประสิทธิภาพแล้ว แต่ที่ต้องยึดถืออย่างเคร่งครัด คือ เรื่องความปลอดภัย
ขณะนี้ถึงแม้ว่าวัคซีนโควิดจะยังไม่เข้ามาในประเทศไทย แต่เราสามารถป้องกันตัวเองได้อย่างดีเยี่ยม ขอย้ำว่าหากวัคซีนเข้ามาแล้ว ถ้าฉีดน้อยจะไม่เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ดังนั้นจึงต้องฉีดกันมากๆ