คุณตาวัย 83 หอบเงินครึ่งแสนจ่าย อบต. หลังทราบข่าวได้ซ้ำซ้อนเงินบำนาญลูกชาย

คุณตาวัย 83 หอบเงินครึ่งแสนจ่าย อบต. หลังทราบข่าวได้ซ้ำซ้อนเงินบำนาญลูกชาย

คุณตาวัย 83 หอบเงินครึ่งแสนจ่าย อบต. หลังทราบข่าวได้ซ้ำซ้อนเงินบำนาญลูกชาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายทวี พูนกระโทก อายุ 83 ปี ชาว ต.ละลมใหม่พัฒนา อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา เดินทางเข้าไปติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ละลมใหม่พัฒนา เพื่อต้องการที่จะจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่ตนเองได้รับมาเกือบ 7 ปี หลังจากที่ได้รับเงินบำนาญพิเศษจากกรณีที่บุตรชาย ซึ่งเป็นข้าวราชการตำรวจ ที่เสียชีวิตไปแล้วเมื่อปี 2557 แต่เพิ่งจะมาได้รับเงินเมื่อเดือน พ.ย. 2563 

ชายสูงอายุรายนี้เผยว่าหลังจากได้ติดตามข่าวสารผ่านทางสื่อมวลชน พบว่ามีปัญหาผู้สูงอายุได้รับเบี้ยยังชีพ ซ้ำซ้อนกับเงินบำนาญพิเศษของบุตรหลายราย และจะต้องนำเบี้ยยังชีพที่ได้รับกลับไปคือรัฐ จึงเดินทางเข้าไปสอบถามกับนายนำ ปลอดกระโทก นายก อบต. ละลมใหม่พัฒนา และเจ้าหน้าที่ เพื่อสอบถามรายละเอียด และต้องการจะคืนเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่ได้รับซ้ำซ้อนกับเงินบำนาญพิเศษของบุตรชาย คือ ด.ต.สกุล พูนกระโทก ผู้บังคับหมู่ป้องกันและปราบปราม สภ.โชคชัย ผู้ล่วงลับ

นายทวีเผยว่า ด.ต.สกุล ลูกชาย ที่เสียชีวิตไประหว่างไปปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจ กองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2557 หรือเกือบ 7 ปีก่อน ในวัย 44 ปี ด้วยอุบัติเหตุ โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ให้สิทธิรับเงินบำนาญพิเศษแก่ นายทวี พูนกระโทก ผู้เป็นบิดา ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค. 2557 แต่เพิ่งจะได้รับเงินจริงในครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2563 จำนวนเงินรอบแรก 246,730.32 บาท และรอบที่สอง ในวันที่ 23 ธ.ค. 2563 จำนวน 501,548.38 บาท ซึ่งเป็นเงินค้างจ่ายมาตั้งแต่ 18 พ.ค. 2557 และล่าสุดเมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2564 ก็เริ่มได้รับเงินบำนาญพิเศษเป็นปัจจุบันเดือนละ 10,000 บาท ซึ่งหลังจากนี้จะได้รับเงินเดือนละ 10,000 บาททุกเดือน

นายทวี พูนกระโทก กล่าวว่า ตนเองได้ทราบข่าวจากทางสื่อมวลชนผ่านทางโทรทัศน์ ว่ามีกรณีที่ผู้สูงอายุที่ได้รับเงินเบี้ยยังชีพ ซ้ำซ้อนกับสวัสดิการของรัฐ จะต้องจ่ายเงินคืนให้กับทางรัฐ จึงเดินทางมาติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลละลมใหม่ เพราะตนเองก็ได้รับเงินบำนาญพิเศษจากบุตรชายที่เสียชีวิต เพื่อต้องการที่จะคืนเงินผู้สูงอายุที่ได้รับมากลับคืนภาครัฐ เพราะขณะนี้ตนเองก็มีเงินที่ดีรับความช่วยเหลือจากส่วนใหม่นี้แล้ว จึงไม่อยากที่จะให้เกิดปัญหาตามมาและเพื่อต้องการลดภาระของภาครัฐส่วนหนึ่งด้วย

สำหรับผลการตรวจสอบกรณีของคุณตาทวีนั้น พบว่าได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุมาตั้งแต่ 2541 กระทั่งทางกรมบัญชีกลางมีการตรวจสอบพบว่าได้รับเงินซ้ำซ้อนกับกรณีการได้รับเงินบำนาญพิเศษของบุตรชายเมื่อเดือน พ.ย. 2563 จึงสั่งระงับการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และต้องให้คืนเงินเบี้ยยังชีผู้สูงอายุเริ่มตั้งแต่งวดเดือน มิ.ย. 2557 มาจนถึงงวดเดือน ต.ค. 2563 ระยะเวลาเกือบ 7 ปี รวมเป็นเงิน 57,600 บาท 

นายทวี เผยว่าตนยินดีที่จะจ่ายเงินคือให้ทั้งหมดภายในวันเดียว เจ้าหน้าที่จึงอำนวยความสะดวกด้วยการนำคุณตาทวี ไปเบิกเงินที่ธนาคาร และรับเงินส่วนนี้คืน ก่อนที่จะได้ดำเนินการตามระเบียบขั้นตอนต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook