"ศรีสุวรรณ" ค้านสุดตัว ชี้ ร่าง ก.ม.ทำแท้งเป็นแผลทางใจ ทำลายชีวิต
เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย นำคณะหมอสูตินารี ร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน คัดค้านร่างกฎหมายอนุญาติทำแท้ง
ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย พร้อมด้วยคณะของแพทย์หญิงทางเวชกรรมและสูตินารีแพทย์ เดินทางมายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้ใช้อำนาจตาม ม.231 ของรัฐธรรมนูญในการเสนอเรื่องพร้อมความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย กรณีการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ 2560 ม.26 ประกอบ ม.4 และ ม.77 วรรคสอง หรือไม่
ทั้งนี้หากนำกฎหมายดังกล่าวที่ผ่านความเห็นของ สส. และ สว.แล้วมาบังคับใช้ ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมจำต้องปฏิบัติงานเพื่อยุติชีวิตทารกที่มีขนาดใหญ่ ที่มีอวัยวะภายในและภายนอกครบถ้วนแล้ว แม้ในทางกฎหมายจะยังไม่ถือว่ามี "สภาพบุคคล" แต่ในทางการแพทย์ตามศัพภวิทยา (Embryology) ระบุว่า "เด็กอายุครรภ์ 3 เดือนหรือ 12 สัปดาห์นั้น มีอวัยวะต่าง ๆ ครบถ้วนแล้ว มีอวัยวะเพศชัดเจน มีหัวใจเต้นเร็ว มีการเคลื่อนไหวของร่างกาย
เนื่องจากระบบประสาททำงานแล้ว มิใช่เป็นเพียงก้อนเลือดอย่างที่หลายคนอาจเข้าใจ การทำแท้งทารถที่มีอายุครรภ์ดังกล่าว จึงชัดเจนว่าเป็นการทำลายมนุษย์ ซึ่งอาจเป็นบาดแผลในจิตใจของแพทย์ผู้กระทำและมารดาไปตลอดชีวิต ซึ่งแทพย์ทุกคนมีหน้าที่สำคัญในการธำรงไว้ซึ่งจริยธรรมทางวิชาชีพเวชกรรม ซึ่งเป็นมโนธรรมชั้นสูง" อีกทั้ง ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ยึดมั่นในศีล 5 ข้อเป็นหลักนำทางชีวิต และข้อที่หนักและสำคัญที่สุดคือ ศีล ข้อที่หนึ่ง เรื่องฆ่าสัตว์ตัดชีวิต หากละเมิด ย่อมมีรู้สึกขัดแย้งภายใน ความเชื่อทางศาสนา ศีลธรรม บาปบุญ ต่อตัวเองและครอบครัว เป็นปัจเจกบุคคล จะล้มล้างไม่ได้ จึงเป็นร่างกฎหมายที่ขัดหรือแย้งต่อ ม.26 ประกอบ ม.4 ของรัฐธรรมนูญ 2560 โดยตรง ศรีสุวรรณ กล่าว