คนงานแทบช็อก เจอชิ้นส่วนทารกในท่อระบายน้ำ ข้างคลินิกเก่าที่ปิดไปแล้ว

คนงานแทบช็อก เจอชิ้นส่วนทารกในท่อระบายน้ำ ข้างคลินิกเก่าที่ปิดไปแล้ว

คนงานแทบช็อก เจอชิ้นส่วนทารกในท่อระบายน้ำ ข้างคลินิกเก่าที่ปิดไปแล้ว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันที่ 5 ก.พ. พ.ต.ท สัมพันธ์ พงษ์พิพัฒน์ สว สอบสวน สภ. อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยาได้รับแจ้งพบชิ้นส่วนศพทารก ภายในท่อน้ำระบายน้ำทางเข้าหมู่บ้าน แห่งหนึ่ง ม.9 ต. อุทัย อ.อุทัยจ.พระนครศรีอยุธยา ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลอุทัย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานพระนครศรีอยุธยา มูลนิธิร่วมกตัญญู ไปให้การสนับสนุนที่เกิดเหตุ

พบว่าด้านหน้าของหมู่บ้าน เป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น พบว่าช่างกำลังปรับปรุงท่อระบายน้ำ ภายในบ่อพักท่อระบายน้ำ พบชิ้นส่วนศพทารก เป็นท่อนแขน ลำตัว และชิ้นส่วนอื่นๆ อายุครรภ์ประมาณ 10 สัปดาห์

สอบถาม นายบุญธรรม เมืองกลาง อายุ 44 ปี คนงานที่มาปรับปรุงท่อระบายน้ำ ทราบว่า มาทำการปรับปรุงเดินท่อระบายน้ำใหม่ ด้านหลังอาคารพาณิชย์ ได้ 3 วัน จนเมื่อช่วงสายตรวจสอบว่าน้ำไหลปกติอุดตันหรือไม่จึงไปเปิดท่อพักดู เอาไม้เขี่ยถึงกับตกใจ พบว่าเป็นชิ้นส่วนของทารก จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ

แพทย์ที่ชันสูตรชิ้นส่วนทารกให้ข้อมูลว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้นชิ้นส่วนของทารก ไม่สามารถระบุได้ว่ามีชิ้นส่วนอะไรบ้างและเพศอะไร ที่เห็นชัดเจนเป็นชิ้นส่วนของท่อนแขนโดยมีอายุครรภ์ประมาณ 10 สัปดาห์ซึ่งจะต้องส่งชิ้นส่วนทั้งหมดไปชันสูตรอย่างละเอียดครั้งที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวพิสูจน์หลักฐาน พร้อมด้วย นายสันติ โฉมยงค์ เภสัชกรชำนาญการประจำกลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เข้าตรวจสอบอาคารพาณิชย์ ซึ่งอยู่ติดกับบ่อพักท่อระบายน้ำ โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไป ที่ด้านหน้าตึกมีตัวหนังสือติดว่าเป็นคลินิกเวชกรรม สภาพเก่า ประตูม้วนปิดเปิดเอาไว้ เปิดขึ้นด้านเดียวที่กระจก ติดเบอร์โทรศัพท์เอาไว้ ภายในพบว่าเคยเปิดให้บริการเป็นคลินิก รักษาโรคทั่วไป

ตรวจสอบที่ชั้นสองพบว่ามีอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์หลายรายการ เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บพยานหลักฐาน ลายนิ้วมือแฝง ตรวจหาดีเอ็นเอ วัตถุพยานต่างๆ ไว้เป็นหลักฐาน จากนั้น ควบคุมตัวหญิงสาว ซึ่งเป็นคนที่อาศัยอยู่ในอาคารพาณิชย์ ไปทำการสอบสวน ที่ สภ.อุทัย

นายสันติ โฉมยงค์ เภสัชกรชำนาญการประจำกลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าอาคารพาณิชย์ห้องนี้เคยขออนุญาตเปิดเป็นคลินิก แล้วมีการถูกร้องเรียน ถูกถอนใบอนุญาตไป ต้องตรวจสอบย้อนหลังกลับไปว่า มีการเปลี่ยนมือคนดูแลจากใครไปถึงใครบ้าง ในเบื้องต้นอาจจะเข้าข่ายความผิดเปิดสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook