สธ.เผยพบหญิงชราป่วยติดเตียง ติดเชื้อโควิด-19 เชื่อมโยงตลาดคลองเตย

สธ.เผยพบหญิงชราป่วยติดเตียง ติดเชื้อโควิด-19 เชื่อมโยงตลาดคลองเตย

สธ.เผยพบหญิงชราป่วยติดเตียง ติดเชื้อโควิด-19 เชื่อมโยงตลาดคลองเตย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายแพทย์จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค แถลงข่าวสถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศไทยว่า บ่ายนี้มีรายงานพบผู้ป่วยติดเตียงเพศหญิงอายุ 95 ปี มีโรคประจำตัว โรคไต ความดันโลหิตสูง ติดเชื้อโควิด-19 จากผู้ดูแลชาวเมียนมา ซึ่งขณะนี้พบการติดเชื้อ 4 ราย ข้อมูลสอบสวนเบื้องต้นอาจมีความเชื่อมโยงกับชุมชนตลาดคลองเตย ซึ่งเป็นสถานที่ตรวจพบการติดเชื้อเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา จึงอาจมีความเชื่อมโยงจากกลุ่มนี้ รายละเอียดต่างๆ ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค ดังนั้น ผู้ดูแลผู้ป่วยติดเตียง ผู้มีโรคประจำตัว ต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อ และขอให้นายจ้างที่ผู้สูงอายุผู้ป่วยโรคเรื้อรังอยู่กับบ้าน และมีการจ้างแรงงานต่างชาติมาทำงาน ขอให้พาไปตรวจหาเชื้อ และกำชับควบคุมแรงงานต่างด้าวในช่วงนี้งดการเดินทางไปรวมกลุ่มกับเพื่อนเพื่อลดความเสี่ยง

นายแพทย์จักรรัฐ กล่าวว่า สำหรับช่วงเทศกาลตรุษจีน ในช่วงวันซื้อ/วันไหว้ที่มีการพบปะหาสู่กันในหมู่ญาติ มี 3 ประเด็นที่ต้องระวัง คือ การไปซื้อของที่ตลาด มีผู้คนจำนวนมากขอให้สวมหน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ ผู้สูงอายุผู้มีโรคประจำตัวขอให้อยู่กับบ้านและให้ลูกหลานไปซื้อแทน , การแจกอั่งเปาอาจใช้ระบบออนไลน์ เพื่อลดความเสี่ยงการสัมผัสร่วมซองอั่งเปาหรือเงิน และ การรวมญาติรับประทานอาหารด้วยกันที่บ้าน ขอให้มีการเว้นระยะห่าง งดดื่มสุรา เนื่องจากเป็นญาติและคนสนิททำให้การครองสติลดลง และลดการพูดคุยเสียงดัง ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงในการแพร่เชื้อในครอบครัวและนำไปสู่ครอบครัวอื่น ส่วนวันเที่ยวที่มีการไปสถานที่ท่องเที่ยวหรือไหว้พระไหว้เจ้า ขอให้หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีความแออัด ควรรอให้มีคนจำนวนไม่มาก หรือไปสถานที่อื่นที่ไม่แออัดแทน เมื่อเข้าไปแล้วมีการเว้นระยะห่างจากคนข้างหน้า และสวมหน้ากากตลอดเวลา

 

 

สธ.เผย ประชาชน “การ์ดเริ่มตก” หลังผ่อนปรน

นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมการป้องกันตนเอง มีประชาชนร่วมตอบแบบสอบถาม 56,201 ตัวอย่าง และตอบแบบสอบถามออนไลน์ 7,243 ตัวอย่าง พบประชาชนมีพฤติกรรมการป้องกันตนเองในระดับที่ดีมาก ในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ ในเดือน ธันวาคม 2564 ส่วนการสำรวจครั้ง

ล่าสุด เมื่อวันที่ 25-31 มกราคม 2564 หลังเริ่มมีการผ่อนปรนมาตรการต่างๆ พบ “การ์ดเริ่มตก” ในทุกกิจกรรม แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ ที่ดีโดยสวมหน้ากากอนามัยร้อยละ 93.7 การล้างมือบ่อยๆ ร้อยละ 88.4 การกินอาหารร้อนใช้ช้อนกลางส่วนตัว ร้อยละ 87.9 การเว้นระยะห่างระหว่างผู้อื่นไม่น้อยกว่า 2 เมตร ร้อยละ 77 มีการรวมกลุ่มทางสังคมและการเดินทางออกนอกจังหวัดเพิ่มขึ้น สำหรับการสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับความต้องการฉีดวัคซีน พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามออนไลน์

ส่วนใหญ่คิดว่าการฉีดวัคซีน จะช่วยป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่บุคคลรอบข้างได้ ส่วนผลสำรวจจาก อสม. พบว่า เหตุผลที่อยากฉีดคือเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงด้านสุขภาพมีความเสี่ยงด้านอาชีพ และเห็นด้วยว่าบุคลากรทางการแพทย์เป็นกลุ่มแรกที่สมควรได้รับวัคซีน ทั้งนี้ ยังมีประชาชนจำนวนหนึ่งระบุไม่ต้องการฉีดวัคซีน เนื่องจากยังไม่มั่นใจในความปลอดภัยของวัคซีน ผลข้างเคียงจากการรับวัคซีน ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะเสียชีวิตหรือป่วยอย่างรุนแรง สามารถป้องกันตัวเองดีแล้ว และไม่เชื่อว่าวัคซีนสามารถป้องกันโรคโควิด-19 ได้

ดังนั้น จึงต้องเร่งสร้างความเข้าใจให้ประชาชนมากขึ้น ส่วนการรับรู้เกี่ยวแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ”และ“หมอชนะ” ส่วนใหญ่รู้จักแต่ใช้งานอยู่ที่ร้อยละ 50 ปัจจัยที่เลือกใช้คือ มีการแจ้งเตือนระดับความเสี่ยง มีความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล และใช้งานสะดวก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook