แม่สอด น่ากังวล! พบผู้ติดเชื้อลาม 7 ครอบครัว รวม 11 ราย เร่งสอบสวนโรค-ค้นหาผู้สัมผัส

แม่สอด น่ากังวล! พบผู้ติดเชื้อลาม 7 ครอบครัว รวม 11 ราย เร่งสอบสวนโรค-ค้นหาผู้สัมผัส

แม่สอด น่ากังวล! พบผู้ติดเชื้อลาม 7 ครอบครัว รวม 11 ราย เร่งสอบสวนโรค-ค้นหาผู้สัมผัส
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ศบค.-สาธารณสุข ประสานเสียงย้ำเตือนการพูดคุยใกล้ชิดยังมีความเสี่ยงทำให้โควิดแพร่ระบาด หลังพบเคสที่ จ.ตาก ชายเมียนมา อายุ 75 ติดเชื้อไปแล้ว 7 ครอบครัว รวม 11 ราย และผู้ป่วยติดเตียงวัย 95 ในกรุงเทพฯ ซึ่งคาดว่าติดเชื้อจากผู้ดูแลชาวเมียนมา 3 คน

พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยถึงสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ใน จ.ตาก ว่า กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข อยู่ระหว่างสอบสวนโรค หลังพบชาย อายุ 75 ปี ติดเชื้อใน อ.แม่สอด โดยพบว่ามีการติดเชื้อใน 7 ครอบครัว และมีผลตรวจยืนยันออกมาแล้ว 11 ราย โดยหลังจากนี้จะมีการสอบสวนโรคเพิ่มขึ้นเพื่อค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูง กลาง และต่ำต่อไป

นอกจากนี้ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. ยังได้ยกตัวอย่างเคสผู้ป่วยโควิด-19 ในกรุงเทพฯ ซี่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง อายุ 95 ปี พบว่า มีลูกจ้างเมียนมา 3 คนเป็นผู้ดูแล

“สิ่งที่ต้องย้ำคือ หากบ้านใดที่มีแรงงานต่างด้าว ไม่ว่าจะอาศัยในบ้าน หรือไปกลับ ก็ต้องเฝ้าระวังการติดเชื้อ และนำเชื้อเข้ามาในบ้าน อาจต้องพูดคุยกันว่า ตอนนี้มีการระบาดโควิดอยู่ ให้แรงงานเฝ้าระวังตัวเอง ไม่เข้าพื้นที่เสี่ยง หรืองดการปาร์ตี้สังสรรค์กับเพื่อนในช่วงวันหยุดก่อน เพราะนอกจากติดเชื้อแล้วยังมีโอกาสแพร่มาให้คนในบ้าน ที่อาจมีความเสี่ยงอาการรุนแรงหรือเสียชีวิตได้” พญ.พรรณประภา กล่าว

ข้อมูลข้างต้นสอดคล้องกับที่กระทรวงสาธารณสุขแสดงความเป็นห่วง โดย นพ.เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กล่าวในระหว่างแถลงสถานการณ์โควิดประจำวันว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขได้รับรายงานมีผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง ที่ไม่ได้ออกไปนอกบ้านติดเชื้อโควิด-19 โดยกรณีแรกเป็นชายอายุ 95 ปี ป่วยติดเตียง พบติดโรคจากลูกจ้างแรงงานต่างชาติ 3 คน ที่จ้างมาดูแลเดินทางไป-กลับทุกวัน

กรณีที่ 2 ที่ จ.ตาก เป็นผู้สูงอายุชายอายุ 75 ปี สัญชาติเมียนมา ติดเชื้อจากสมาชิกครอบครัว และญาติเข้า-ออกในบ้าน ขณะนี้พบการติดเชื้อขยายวงไปแล้ว 11 ราย อยู่ระหว่างสอบสวนเพิ่มเติม

ดังนั้น จึงขอเน้นย้ำให้คนในครอบครัวช่วยกันดูแลเฝ้าระวังในกลุ่มลูกจ้างแรงงาน คนดูแล และลูกหลานที่เข้า–ออกบ้านเป็นประจำ ต้องเข้มมาตรการส่วนบุคคล สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่มีการพูดคุยสัมผัสใกล้ชิดหรือปฏิบัติงานในบ้าน และสื่อสารกับลูกจ้างไม่ให้ไปในพื้นที่เสี่ยง รวมทั้งงดพบปะกับกลุ่มเพื่อนแรงงานต่างด้าว เพื่อลดการนำเชื้อมาติดให้กับคนในบ้าน

ทั้งนี้ สัปดาห์หน้าจะเข้าสู่เทศกาลตรุษจีน ตามธรรมเนียมจะมีการรวมญาติ การใกล้ชิดกันอาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่เชื้อในครอบครัวได้ ขอให้รักษาระยะห่างกับผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค เมื่อกลับบ้านให้รีบอาบน้ำชำระร่างกาย การร่วมรับประทานอาหาร ควรแยกสำรับหรือใช้ช้อนกลางส่วนตัว สวมหน้ากากอนามัยเมื่อพูดคุยกัน จะช่วยป้องกันผู้สูงอายุในบ้าน สำหรับยุค New Normal รวมญาติออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชันทางโทรศัพท์มือถือ หรือการแจกอั่งเปาออนไลน์ เป็นทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยลดความเสี่ยงการสัมผัสและการแพร่กระจายเชื้อได้

สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลก ข้อมูล ณ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 มีผู้ที่ได้รับการฉีดแล้วกว่า 119 ล้านโดส ใน 67 ประเทศ พบอาการไม่พึงประสงค์หลังการฉีดวัคซีนเพียงเล็กน้อยซึ่งมีโอกาสเกิดได้กับวัคซีนทุกชนิด และยังไม่พบข้อกังวลที่จะทำให้หยุดฉีดวัคซีนโควิด-19 ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าการเลือกวัคซีนของประเทศไทย ผู้เชี่ยวชาญได้พิจารณาถึงเทคโนโลยี และความปลอดภัยของวัคซีนเป็นหลัก

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook