ยายวัย 70 ปี ถูกฟ้องเรียกคืนเบี้ยคนชรา จุดธูปไหว้ศาลให้ช่วย หากรอดจะโกนหัวแก้บน
วันนี้ (7 ก.พ.64) ภายหลังจากที่คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ มีมติให้ชะลอการเรียกคืนเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ที่เกิดปัญหาซ้ำซ้อนกับเงินบำนาญพิเศษเอาไว้ก่อน เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับผู้สูงอายุในหลายจังหวัดทั่วประเทศ ทั้งจะมีการเสนอปรับปรุงแก้ไขระเบียบให้ผู้สูงอายุบางกลุ่มสามารถรับสิทธิซ้ำซ้อนได้ อาทิ กลุ่มที่ได้รับบำนาญพิเศษจากทายาทตามกฎหมายเพราะถือว่าเหมือนได้รับมรดกไม่ใช่เงินจากสิทธิของตัวเอง
ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางยังบ้านนางประกอบ แฟ้นประโคน อายุ 70 ปี ชาว ต.บ้านกรวด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้สูงอายุที่ถูกทางเทศบาลบ้านกรวดปัญญาวัฒน์ ยื่นฟ้องศาลจังหวัดนางรอง เรียกเก็บเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุคืนย้อนหลังเป็นเวลาเกือบ 9 ปี รวมยอดเงิน 58,800 บาท พร้อมดอกเบี้ยอีกร้อยละ 7.5 ต่อปี เนื่องจากเจ้าหน้าที่แจ้งว่ายายประกอบ ได้รับเงินบำนาญพิเศษของ ลูกชายซึ่งเป็นอาสาสมัครทหารพรานที่เสียชีวิตในหน้าที่ ตั้งแต่ปี 2542 แล้ว จึงเป็นการรับเงินซ้ำซ้อนกับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
ซึ่งจากการสอบถามยายประกอบ ก็บอกว่า ขณะนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่จากเทศบาลมาแจ้งหรือมีหนังสือว่าจะชะลอการเก็บเงินเบี้ยผู้สูงอายุคืนแต่อย่างใด มีเพียงผู้แทนจากอำเภอ และทหาร มาเยี่ยมให้กำลังใจ นำสิ่งของมามอบ และสอบถามรายละเอียดเท่านั้น จึงยังรู้สึกกังวลอยู่ เพราะในวันที่ 26 เม.ย.2564 ที่จะถึงนี้ยังต้องเดินทางไปศาลตามนัดเหมือนเดิม
ที่ผ่านมาเทศบาลก็ยังยืนกรานจะเรียกเก็บเงินคืนทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ยโดยไม่ให้ผ่อนชำระ แต่หากทางรัฐบาลสามารถช่วยเหลือทั้งการยกเลิกเก็บเงินเบี้ยคนชราคืนทั้งหมด ก็จะดีใจมากเพราะตัวเองและลูกหลานคงไม่มีปัญญาหามาคืนให้ได้ ลำพังหากินไปวันๆ ก็ยังลำบาก เพราะทุกวันนี้ตนเองก็มีแค่เงินบำนาญที่ลูกชายเสียชีวิตเดือนละ 10,000 บาทเท่านั้น
จากนั้นยายประกอบ พร้อมพี่สาวและพี่เขย ก็ได้จุดธูปกราบไหว้ศาลตา-ยายหน้าบ้าน เพื่อบนบานตามความเชื่อโดยยายประกอบ บอกว่าหากรัฐสามารถช่วยเหลือไม่เก็บเงินเบี้ยผู้สูงอายุคืนได้จริง และให้ได้รับสิทธิเบี้ยคนชราคืนเหมือนเดิมได้ ตนเองก็จะโกนหัวเพื่อแก้บน เพื่อให้หมดทุกข์หมดเคราะห์ตามความเชื่อ
อัลบั้มภาพ 8 ภาพ