กราดยิงโคราช ครบรอบ 1 ปี เปิดใจ "น้องเนย" หนุ่มบิ๊กไบค์ฮีโร่ เหมือนตายแล้วเกิดใหม่
กราดยิงโคราช ครบรอบ 1 ปี เปิดใจ "น้องเนย" หนุ่มบิ๊กไบค์ฮีโร่ ร่างกายยังไม่เต็มร้อย เสียไต 1 ข้าง ลำไส้ยังอยู่นอกร่างกาย
(8 ก.พ.64) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 899/48 หมู่บ้านศิริสุข 1 วิลเลจ ต.หนองจะบก อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านของ นายจิรัฐิติกาล นอบไทย หรือ น้องเนย อายุ 27 ปี หนุ่มบิ๊กไบค์ที่ประสบเหตุการณ์ จ่าคลั่งกราดยิง บริเวณหน้าศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ขณะกำลังจะเข้าไปทำงานที่ร้านภายในศูนย์การค้า โดยน้องเนย ถูกจ่าคลั่งใช้อาวุธปืนสงครามยิงที่บริเวณท้องและแขนซ้าย ขณะเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บที่บริเวณด้านหน้าศูนย์การค้า
โดยน้องเนยได้รับบาดเจ็บสาหัสกระสุนปืนทำลายอวัยวะภายในบริเวณช่องท้องและแขนเส้นเอ็นขาดนอนเป็นเจ้าชายนิทราอยู่ประมาณ 1 สัปดาห์ ภายในห้องไอซียู แพทย์พยาบาลโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาพยายามช่วยเหลือชีวิตและรักษาอาการบาดเจ็บ อีกทั้งพ่อแม่ ญาติพี่น้องและคนไทยทั้งประเทศต่างส่งกำลังใจให้จนในที่สุดปาฏิหาริย์ก็มีจริง น้องเนยรู้สึกตัวและอาการบาดเจ็บเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้น้องเนยจะต้องเสียไตไป 1 ข้าง และแขนไม่มีแรงเพราะเอ็นขาด การขับถ่ายต้องผ่านถุงพลาสติก ลำไส้อยู่นอกร่างกาย แต่ก็อดทนและพยายามช่วยเหลือตนเองและฝึกทำกายภาพบำบัด
- หวังปาฏิหาริย์ "น้องเนย" หนุ่มบิ๊กไบค์เหยื่อกราดยิง ตัดไตทิ้ง ม้ามเสีย และอาจถูกตัดแขน
- ภาพล่าสุด "น้องเนย" หนุ่มบิ๊กไบค์เหยื่อกราดยิง ต้องทำกายภาพอย่างน้อย 1 ปี
จนมาถึงวันนี้ครบรอบ 1 ปี ร่างกายน้องเนยฟื้นกลับมาแล้วประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ โดยแพทย์ รพ.มหาราชนครราชสีมา นัดผ่าตัดครั้งใหญ่เอาลำไส้เก็บเข้าท้องในเดือนเมษายนนี้ จนถึงขณะนี้น้องเนยยังไม่สามารถทำงานได้เพราะร่างกายไม่แข็งแรง แต่ก็ช่วยเหลือตัวเองได้ ขับรถยนต์ได้ และไปทำกายภาพบำบัดทุกวันจันทร์ ไม่เป็นภาระของพ่อและแม่ที่ต้องไปทำงานทุกวัน
น้องเนย ฝากขอบคุณแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ของ รพ.มหาราชนครราชสีมา ทุกคน รวมถึงกำลังใจของพี่น้องชาวไทยที่รักษาเขาจนกลับมาได้เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ถึงแม้ร่างกายจะไม่ 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม แต่ก็จะสู้ต่อไป ไม่อยากจะนึกถึงวันที่เกิดเหตุเพราะทุกอย่างยังอยู่ในความทรงจำคิดถึงวันนั้นทีไรก็บั่นทอนจิตใจ วันนี้คิดอย่างเดียวอยากให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงในเร็ววัน เพื่อจะได้ออกไปทำงานหาเงินช่วยพ่อแม่ไม่อยากให้เป็นภาระของท่าน ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกและขอให้เป็นครั้งสุดท้ายที่เกิดกับประเทศไทย
ส่วนการช่วยเหลือจากกองทัพเรื่องการบรรจุเข้ารับราชการทหาร น้อยเนยกล่าวว่า ตนเองไม่สามารถเป็นทหารได้เพราะร่างกายไม่แข็งแรง ไตถูกตัดไป 1 ข้าง ถือว่าเป็นผู้พิการ จึงได้ขอทางกองทัพบกช่วยเหลือโดยให้น้องชายเข้ารับการบรรจุแทน ซึ่งขณะนี้ทางกองทัพภาคที่ 2 ได้รับหลักฐานเอกสารของน้องไปหมดแล้ว และได้เสนอทางผู้บังคับบัญชาจนได้รับอนุมัติ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอคำสั่งบรรจุแต่งตั้ง ตนต้องขอขอบพระคุณทางกองทัพบกที่ไม่ทอดทิ้งผู้ที่ได้รับผลกระทบและดำเนินช่วยเหลือตามที่ได้เคยประกาศไว้