"แอน จักรพงษ์" ฉะแหลก 5 หัวข้อ ถึงคุณ ณ. 10 ปีแห่งการเป็นเพื่อน วันนี้เหมือนโดนแทงข้างหลัง

"แอน จักรพงษ์" ฉะแหลก 5 หัวข้อ ถึงคุณ ณ. 10 ปีแห่งการเป็นเพื่อน วันนี้เหมือนโดนแทงข้างหลัง

"แอน จักรพงษ์" ฉะแหลก 5 หัวข้อ ถึงคุณ ณ. 10 ปีแห่งการเป็นเพื่อน วันนี้เหมือนโดนแทงข้างหลัง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ขอออกมาแถลงข่าวปิดฉากดราม่าระดับบิ๊กบอส! อย่างเป็นทางการ สำหรับ แอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ หรือ แอน JKN นักธุรกิจสาวชื่อดัง หลังมีประเด็นร้อนกับ คุณ ณ. พิธีกรและเจ้าของเวทีประกวดนางงาม จนกลายเป็นเกาเหลาชามโตที่คนบนโลกออนไลน์พากันให้ความสนใจ

โดยงานนี้ แอน จักรพงษ์ ได้ใช้พื้นที่บนแฟนเพจเฟซบุ๊ก annejkn.official ไลฟ์สดเป็นเวลากว่า 36 นาที เพื่อ ชี้แจง 5 หัวข้อที่เป็นประเด็นดราม่า ตั้งแต่ ผลประโยชน์ร่วมกัน, Public Speaker, จ่ายเงินล่าช้า, การดูแลศิลปินที่เดินทางมาร่วมงาน และการโพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดีย

พร้อมกันนั้น แอน จักรพงษ์ ยังได้ตบท้ายด้วยการตอบคำถามที่หลายคนสงสัยด้วยว่า หลังจากนี้เจ้าตัวและ คุณ ณ. จะสามารถกลับมาเป็น "เพื่อน" กันอีกครั้งได้หรือไม่?

สิ่งที่แอนจะพูดในวันนี้ แอนไม่อยากให้มองว่ามันเป็นการโต้ตอบ แต่ให้มองว่าเป็นการสรุปความละกัน ซึ่งแอนจะสรุปแยกออกเป็น 5 หัวข้อ ดังนี้

ข้อที่ 1 เรามีผลประโยชน์ร่วมกัน อันนี้คือคำพูดของคุณ ณ. นะคะ ซึ่ง เรามีผลประโยชน์ร่วมกัน มันหมายถึงการลงทุนร่วมกัน การเป็นพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจ แต่สำหรับแอน แอนคือลูกค้าค่ะ และลูกค้าก็คือผู้อุปการะคุณ ฉะนั้นคำว่ากตัญญูสำคัญมากค่ะที่ต้องมี การที่เราเป็นผู้มีอุปการะคุณ และเราก็จ่ายเงินไปหลายล้านบาทในช่วงระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ดิฉันไปออกรายการไม่เคยฟรี ไป 7 เทปดิฉันก็จ่ายเงินหมด และที่สำคัญการจัดประกวดต่างๆ เราก็ไป

ฉะนั้นทุกสิ่งทุกอย่างมันก็คือการอุดหนุน และก็อยากจะฝากเอาไว้ว่า การทำธุรกิจจะคิดว่ามันเป็นผลประโยชน์ที่ได้และจบไปเป็นช่วงๆ ฉากๆ โดยไม่คิดถึงระยะยาวมันเป็นไปไม่ได้ ซึ่งแอนเป็นคนที่มีปณิธานตั้งอยู่เสมอว่า เราคบกันวันนี้ถึงแม้ไม่ได้ทำงานร่วมกัน แต่วันหน้าถ้ามีโอกาสเราก็อาจจะกลับมาทำงานร่วมกันอีกครั้งก็ได้ ฉะนั้นแอนจะไม่ตัดใครเด็ดขาด หรือไม่รู้สึกว่าคนนั้นคนนี้หมดประโยชน์ แต่แอนจะรู้สึกเสมอว่าคนคนนี้เขามีพระคุณ จะมากหรือน้อยเขาก็คือผู้มีอุปการะคุณเราค่ะ ความกตัญญูต้องมาค่ะ

ข้อที่ 2 คือหัวข้อที่ว่าด้วย คุณ ณ. เป็น Public Speaker จึงต้องใช้พื้นที่สื่อในการเล่าข่าว อันนี้ก็ดีนะคะไม่มีใครว่า ก็ทำไปเถอะ ซึ่งแอนเองก็มีสำนักข่าวของแอนเหมือนกัน คือเราก็รู้ค่ะว่าทำงานก็ทำไป แต่มันก็มีคำว่า 'ต้องดูจังหวะและโอกาสที่เหมาะสม' จะเล่าข่าวก็เล่าไปเถอะค่ะ และแอนก็ยอมรับไปแล้วว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้วกระแสของแอนเยอะมากจริงๆ ถ้ายิ่งเป็นนักเล่าข่าวก็ยิ่งต้องเจ็บกระแสที่ดังเป็นอันดับต้นๆ มาเล่าข่าวอยู่แล้วอันนี้แอนเข้าใจ แต่ทีนี้การเล่าที่ผิดจังหวะก็คือ แอนไลฟ์สดขอโทษไปแล้วกับสิ่งที่ทำ เพราะแอนไม่ได้มีเจตนาจริงๆ เราพลาดอะไรไปเราขอโทษ

แต่พอแอนขอโทษไปแล้วทำไมต้องมาซ้ำเติมกันอีกคะ โดยการปล่อยข่าวในวันรุ่งขึ้นว่า ผมขอแบนคนนี้ ศัลยกรรมเปลี่ยนได้เฉพาะภายนอกแต่ไม่สามารถเปลี่ยนนิสัยและความคิดได้ ซึ่งแอนรู้สึกตกใจมากว่าทำไมมันถึงเกิดการซ้ำเติมกันในสังคม โดยเฉพาะจากคนที่เป็นเพื่อน เป็นคนที่ทำงานมาด้วยกันและรู้จักกันมาเป็นสิบปี นั่นคือสิ่งที่แอนตกใจค่ะ ซึ่งถ้าคุณเป็นเพื่อนเป็นลูกค้าเขาคุณจะรู้สึกยังไง

ฉะนั้นข้อที่ 1 และข้อที่ 2 เคลียร์จบแล้วนะคะ จะบอกว่าได้ผลประโยชน์ร่วมกันแล้วก็จบ ไม่มีใครเขาเปิดบริษัทมาแล้วพูดกันอย่างนั้นค่ะ เพราะมันเท่ากับว่าอายุของบริษัทคุณก็จะไม่ยาว คุณต้องมองอะไรแบบระยะยาวและเก็บความสัมพันธ์เอาไว้ ไม่ใช่มองแค่ผลประโยชน์เป็นครั้งๆ ส่วนข้อที่ 2 ที่ทำหน้าที่เป็น Public Speaker ในการรายงานข่าว อันนี้ก็ทำได้เลย แต่เราก็จะต้องพูดเป็นกลาง และที่สำคัญก็คือในเมื่อคนเขาขอโทษไปแล้วจะมาซ้ำเติมทำไม โดยเฉพาะประโยคที่บอกว่า ศัลยกรรมเปลี่ยนได้เฉพาะภายนอก แต่นิสัยและความคิดเปลี่ยนไม่ได้ นี่คือเพื่อนเหรอคะ? นี่คือเราเคยเป็นลูกค้าเขาหรือเปล่า? เราทำอะไรให้โกรธแค้นกันเหรอคะ?

และดิฉันขอพูดชัดๆ เลยว่า คนล้มอย่าข้ามค่ะ ดิฉันขอโทษไปแล้ว จะซ้ำเติมกันให้ตายเลยใช่ไหม มันคืออะไร

IG annejkn.officialแอน จักรพงษ์

ข้อที่ 3 การจ่ายเงินช้า JNK ไม่ได้จ่ายเงินช้านะคะ เราอุดหนุนคุณมาโดยตลอด และถ้าคุณไม่พอใจจริงๆ เราทำการค้ามา 4 ปีคุณก็คงเลิกตั้งแต่ปีที่ 1 แล้ว แต่เพราะบริษัทคุณเนี่ยเอาจริงๆ ดิฉันต้องพูดแบบเปิดใจ คือพยายามอยากจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ แต่ทั้งบริษัทมันมีคุณรันอยู่คนเดียวคือ คุณ ณ. ฉะนั้นการมาวางบิลเก็บเงินมันมีกระบวนการค่ะ มันมีวันวางบิล และเอกสารต้องครบ หลังจากนั้นก็ค่อยมารับเช็คอีกที แต่ถ้าหากเอกสารคุณไม่ครบหรือคุณพลาดอะไรไป ก็เท่ากับคุณไม่ทัน คุณก็ต้องมาวางบิลเดือนถัดไปค่ะ ซึ่งเรื่องพวกนี้คนทำงานฟังแอนเข้าใจแน่นอนด้วยเหตุด้วยผล คือเอกสารคุณไม่ครบ ฉะนั้นเขาก็ต้องให้คุณมาวางบิลในเดือนถัดไป มันเป็นกฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ ของบริษัทมหาชน ถ้าอยากจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ต้องเข้าใจว่ามันมีวันวางบิลและวันรับเช็ค

ฉะนั้น คุณ ณ. มันก็ไม่ใช่ความโกรธแค้นที่จะมาบอกว่า 'ทำไมไม่เร่งเงินให้ผม' ถ้าอย่างนั้นทีหลังมาขอยืมเงินแอนส่วนตัวแอนยังสะดวกซะกว่า อันนี้บอกเลย แต่ถ้าเป็นในนามบริษัทแอนทำให้ไม่ได้จริงๆ เพราะมันมีกฎเกณฑ์ของมันอยู่ ดังนั้นอย่าเก็บเป็นความเจ็บแค้นเลยค่ะ อย่าติดใจถือเป็นสาระเลย ถ้าคุณจะเข้าบริษัทมหาช คุณต้องเข้าใจกฎเกณฑ์ และที่สำคัญเลยนะดิฉันก็จะไม่มาพูดเรื่องนี้ให้สาธารณชนฟังด้วยว่าลูกค้าจ่ายเงินเป็นยังไง มีนิสัยเป็นยังไง เพราะลูกค้าอย่างดิฉันก็จะไม่มานั่งพูดเหมือนกันว่า เรตติ้งของคุณเวลาไปสัมภาษณ์ก็ไม่เห็นจะดีเลย ขายของก็ไม่เห็นจะได้ ศิลปินของคุณทำงานก็อย่างนั้นอย่างนี้ คือเรายังไม่เคยพูดออกสื่อเลยเพราะเราให้เกียรติ

ข้อที่ 4 ที่คุณบอกว่าศิลปินของคุณมางาน คือดิฉันมีงานทุกปี งาน JKN Mega Showcase และนางงามทั้งหลายของคุณก็มาตั้งแต่ปี 2017-2019 ซึ่งคุณก็มาบอกว่าต้อนรับไม่ดี อันนี้เดี๋ยวคุณจะถูกเข้าใจผิดและคนอื่นจะไม่กล้าใช้งานศิลปินคุณนะ เพราะเขาจะคิดว่าเรื่องมาก ดิฉันขอแนะนำว่าเรื่องนี้ไม่ควรพูดเลย เพราะเราก็ดูแลศิลปินทุกเบอร์เหมือนกันหมด คือมันไม่ควรเอามาคุยเลยค่ะ มันจะทำให้ลูกค้าทุกคนคิดว่าคุณเรื่องมาก และต่อไปก็จะไม่อยากจ้างศิลปินในสังกัดคุณอีก ฉะนั้นเรื่องนี้มันจึงเป็นเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง จะพูดไปทำไม เจ้าของงานก็ให้เกียรติทุกคนเต็มกำลังแล้วค่ะเท่าที่จะทำได้ ช่วยกันถ่อมเนื้อถ่อมตัวและทำให้งานของลูกค้าผ่านพ้นไปดีกว่า ดีกว่าต้องมาคิดว่าทำไมไม่ดูแลฉันให้ดีอย่างนั้นอย่างนี้ เพราะศิลปินเบอร์ใหญ่กว่านั้นก็ไม่มีใครพูดอะไรค่ะ

ข้อที่ 5 เกี่ยวกับการโพสต์ทางโซเชียลทีเดีย อันนี้พูดแบบกันเองนะคะ แค่เขาคนเดียวเลยคือ คุณ ณ. ที่มาเป็นเปาบุ้นจิ้นทำให้ดิฉันวืดไปเลย ทำให้ดิฉันรู้สึกว่าโดนแทงข้างหลัง ทั้งๆ ที่คนคนนี้คือเพื่อนเรา เราอุปถัมภ์กันมาตั้งนาน เรารู้จักกันมาตั้งเป็น 10 ปี คุณแม่ดิฉันเขาก็รู้จัก คือมันเกิดอะไรขึ้นเหรอ ถ้าปฏิบัติตามหน้าที่สื่อจริงๆ เรื่องนี้มันก็ควรต้องจบ ไม่ควรซ้ำเติม

วันนั้นดิฉันรู้สึกผิดหวังและวืดจริงๆ ค่ะ ดิฉันจึงต้องเรียน คุณ ณ. ทางอินสตาแกรม ซึ่งต้องบอกว่ามันเป็นข้อความที่ฉันส่งหาแค่คุณเขาคนเดียว ไม่ได้บอกถึง LGBTQ+ ทั้งประเทศ ดังนั้นดิฉันจึงอยากให้ทุกคนดึงสติกลับมาหน่อยค่ะ คือเรื่องนี้ดิฉันรู้สึกผิดหวังและสูญเสียคนที่เป็นสุภาพบุรุษที่เป็นเพื่อนดิฉัน ดิฉันจึงคิดว่าความแมนของเขาหายไปไหน มันเหมือนถูกหักหลังค่ะ ฉะนั้นดิฉันจึงต้องโพสต์กลับค่ะ

ถ้าเป็นเงินคุณคุณจะรู้สึกอย่างไร คุณจ่ายเงินไป คุณรู้สึกดีกับเขา แต่คุณถูกเขาชกหน้า มันคือการทรยศหักหลังไหมคะ มันเป็นความรู้สึกที่แย่ ใครไม่ตอบกลับก็บ้าแล้วค่ะอย่าโลกสวยกันเลย ก็ให้รู้กันบ้างว่าดิฉันก็ข้ามเพศนักเลง หัวใจนักเลง ถ้าอยากจะชกดิฉัน ดิฉันก็ชกกลับ หาเรื่องก่อนนี่ถ้าอย่างนี้

ฉะนั้นมันคือความโกรธค่ะ มันคือความไม่แฟร์ที่มันเกิดขึ้นกับเรา และดิฉันก็ไม่อยากให้คุณผู้ชมหรือกลุ่ม LGBTQ+ เข้าใจดิฉันผิด เพราะนี่คือข้อความที่ส่งหา คุณ ณ. เท่านั้น ถ้าคุณเสียหน้าบ้างคุณจะรู้สึกอย่างไร แต่ดิฉันเสียทั้งหน้า เสียทั้งเงิน เสียทั้งความรู้สึก LGBTQ+ กลับมาตั้งสติก่อนค่ะ อย่าตกเป็นเครื่องมือของคนที่ปั่นกระแสให้เกิดความโกรธเกลียด ซึ่งการปั่นกระแสดังกล่าวก็ไม่ได้เกี่ยวกับทาง คุณ ณ. แต่เป็นมือที่สามที่ใช้การวิวาทกันของเราทั้งคู่มาเป็นประโยชน์เพื่อให้เกิดการโกรธเกลียด โดยดิฉันก็อยากจะถามเหมือนกันค่ะว่า ดิฉันเขียนตรงไหนเหรอที่บอกว่า 'เรียน LGBTQ+ ทั่วโลก' หรือ 'ข้ามเพศแล้วนิพพาน' ดิฉันเขียนว่า 'เรียน คุณ ณ.' ไปอ่านดูค่ะ วิเคราะห์ก่อนวิจารณ์ค่ะ เรื่องแค่นี้ต้องวิเคราะห์กันเป็น

ซึ่งดิฉันไม่ได้เจ็บปวด แต่ดิฉันแคร์ ดิฉันเป็นห่วง เป็นห่วงอนาคตของคนรุ่นใหม่ที่ไม่ได้วิเคราะห์ก่อนวิจารณ์ มันจะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศของเรา จะมีเหยื่อของสังคมอีกกี่คนที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ทั้งๆ ที่เขาบริสุทธิ์ไม่ได้ทำอะไรเลย พวกเราจะช่วยกันทำร้ายทำลายกันอีกเยอะไหมคะ จะซ้ำเติมกันอีกเยอะไหมคะ กราบขอตรงนี้เลยค่ะอย่าให้มีอีกเลยในสังคมไทย และดิฉันก็จะลดลงเช่นกันในหลายๆ เรื่อง ดิฉันก็ต้องส่องกระจกมองตัวเองเหมือนกัน งดแล้วคุยเรื่องความร่ำรวย เปิดบ้าน เปิดทรัพย์สิน เปิดรถ ลดเรื่องวัตถุนิยม ซึ่งมันก็ต้องมีการปรับกันใหม่ และแอนก็ต้องขอประทานโทษตรงนี้เลยด้วย แอนไม่เคยเหยียด แอนอยากให้ทุกคนเห็นว่าแอนต่อสู้ เป็นแรงบันดาลใจ เป็นแรงผลักดัน ให้ทุกคนทำงานอย่างเข้มแข็ง และเรื่องไหนที่แอนทำแล้วและมันสร้างแรงผลักดันให้คุณได้แอนก็ดีใจค่ะ

เท่านี้แหละค่ะ 5 หัวข้อ จากนี้แอนก็จะขอปิดการพูดคุยเรื่องนี้จากทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งจาก คุณ ณ. และจากแอน พอเถอะเพราะเดี๋ยวมันจะไปกันใหญ่ เราต่างคนต่างไปทำมาหากินเถอะค่ะ

สุดท้ายคำถามจากนักข่าวที่ส่งมาถามว่า แอนจะคบกับเขาต่อไหม? หรือจะทำงานร่วมกันกับเขาอีกไหม? อันนี้แอนจะพูดสั้นๆ ให้คิดกันเองนะคะว่า หากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคุณ และคุณเป็นแอน คุณจะอยากคบเขาเป็นเพื่อน อยากจะอุดหนุนเขาในฐานะที่เป็นลูกค้าต่อไหมคะ ถามใจคุณเอง แอนไม่ตอบ ขอบคุณค่ะ

อัลบั้มภาพ 25 ภาพ

อัลบั้มภาพ 25 ภาพ ของ "แอน จักรพงษ์" ฉะแหลก 5 หัวข้อ ถึงคุณ ณ. 10 ปีแห่งการเป็นเพื่อน วันนี้เหมือนโดนแทงข้างหลัง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook