#ม็อบ10กุมภา รวมตัวเคาะหม้อแยกปทุมวัน จวกรัฐบาลช่วยแรงงานแบบขอไปที
ผู้ชุมนุมรวมตัวเคาะหม้อบริเวณลานหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร แยกปทุมวัน เมื่อช่วงเย็นวันพุธ (10 ก.พ.) เพื่อต่อต้านรัฐบาลและวิจารณ์การเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ไม่เพียงพอและสร้างภาระทางเศรษฐกิจให้กับประชาชน
นางสาวธนพร วิจันทร์ ผู้นำเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวระหว่างการชุมนุมว่า แรงงานเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบกลุ่มแรกๆ จากการที่รัฐบาลสั่งปิดธุรกิจและปิดกั้นการเดินทาง โดยอ้างว่าเพื่อควบคุมโรคโควิด-19 แต่ที่ผ่านมา รัฐบาลกลับให้ประชาชนลงทะเบียนเพื่อชิงโชครับเงินเยียวยา และจำนวนเงินก็ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพนัก จึงมองว่ารัฐบาลไม่จริงใจที่จะช่วยเหลือแรงงาน
ผู้นำแรงงานรายนี้ บอกอีกว่า แรงงานทุกอาชีพมีความสำคัญต่อประเทศทั้งสิ้น พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทำงานแทนแรงงานได้หรือไม่ มากวาดถนนแทนแรงงานได้หรือไม่ และถ้าทำไม่ได้ เหตุใดจึงไม่ช่วยเหลือแรงงานให้มากกว่านี้
นางสาวธนพร มองว่า โควิด-19 ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้แรงงานต้องตกงาน แต่ก่อนจะมีโรคระบาดก็มีแรงงานจำนวนมากถูกเลิกจ้างและตกเงิน เพราะการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ไม่มีประสิทธิภาพ
การชุมนุมดังกล่าว ยังมีการปราศรัยโจมตีรัฐบาลอีกหลายเรื่อง ทั้งประเด็นเสรีภาพในการแสดงออก การจับกุมแนวร่วมผู้ชุมนุมหลายคนตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา เรื่อยไปจนถึงการเจรจาซื้อวัคซีน
การเคาะหม้อเพื่อขับไล่รัฐบาลเป็นวิธีการที่ผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐประหารในเมียนมาใช้ตลอดกว่า 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากกองทัพยึดอำนาจรัฐบาลที่มีนางออง ซาน ซูจี เป็นผู้นำ เมื่อวันที่ 1 ก.พ. หลายคนมีความเชื่อในแง่โหราศาสตร์ว่า การเคาะหม้อจะเป็นการขับไล่สิ่งชั่วร้ายออกไปได้ด้วย