"เสรีพิศุทธ์" ชี้ "สิระ" จงใจขุดคดีบ้านรุกแม่น้ำ อีกฝ่ายลั่น ไม่เผาผี ขอตามจองเวรทุกชาติ
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงกรณีที่กรมป่าไม้ดำเนินคดีกับตนเองฐานความผิดสร้างบ้านรุกล้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ว่า เป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างตนกับ สิระ เจนจาคะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และไปสมคบคิดกับบรรดาพวกนักร้อง และกรมป่าไม้ เนื่องจากนายสิระ โดนตนเองฟ้องร้องอยู่หลายคดี ประกอบกับ สิระ พยายามทำผลงาน เรียกเงินจากพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันว่าคดีดังกล่าว อัยการเคยยกฟ้องไปแล้วเมื่อปี 2552 กรณีที่ตนไม่ได้ขออนุญาตกรุงเทพฯในการก่อสร้างท่าเรือ เนื่องจากเข้าใจว่าจะต้องขออนุญาตเพียงกรมเจ้าท่าเท่านั้น
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังตั้งข้อสังเกตว่าการดูแลการรุกล้ำแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นอำนาจของหน่วยงานใด กรมป่าไม้มีสิทธิ์อะไรมาดำเนินคดีกับตน ทั้งที่เรื่องของการก่อสร้างท่าเทียบเรือเป็นอำนาจหน้าที่ของกรมเจ้าท่า มิเช่นนั้นโรงแรมต่างๆรวมถึงสะพานข้ามแม่น้ำและสภาก็คงผิดกันหมด เพราะไม่ได้ขออนุญาตกรมป่าไม้เลย
"แบบนี้ก็ต้องแจ้งความดำเนินคดีกับชวนด้วยสิ เพราะก่อสร้างสภาได้ขออนุญาตกรมป่าไม้หรือไม่ คำว่าป่าหมายถึงที่ดินไม่ได้หมายถึงแม่น้ำ เพราะพวกนี้มันโง่ไง เรื่องนี้มันขาดอายุความไปแล้ว ไม่เข้าหรอ" เสรีพิศุทธ์ ระบุ
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ตนลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งจังหวัดนครศรีธรรมราช เขต 3 เสร็จสิ้นกลับมาก็จะพิจารณาดำเนินคดีกับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ รวมถึงขณะนี้ตนได้ดำเนินการส่งเรื่องถึงคณะรัฐมนตรี ให้เรียกคืนเครื่องราช สิระ เนื่องจากเคยติดคุกมาก่อน
พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า หากเป็นสมัยตนหนุ่มๆ พวกนี้ไม่เหลือแน่ ไปถามความหมายของวีรบุรุษนาแก ได้เลยว่าตนได้ฉายามาได้อย่างไร สิระกับตนเป็น ส.ส. ที่ศีลไม่เสมอกันตนเป็น ส.ส. ที่ควบตำแหน่งอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่สิระ เป็น ส.ส.ที่เคยเป็นอดีตนักโทษ พวกไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาก่อนจะเตือนว่าปลายปีนี้เจออีกคดีแน่
ส่วนที่กรรมาธิการกฎหมายเตรียมเรียกตนเองไปชี้แจงเรื่องนี้นั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ไม่ไป กรรมาธิการการกฎหมายไม่มีอำนาจในการตรวจสอบในเรื่องนี้ เพราะกรรมาธิการของตนเคยตรวจสอบและดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว ในทางตรงกันข้ามตนจะตั้งคณะกรรมการสอบ สิระ แทนที่หยิบเรื่องนี้เข้ามาพิจารณา
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังเปิดเผยว่า คดีที่ตนเองฟ้องสิระ กรณีนำสื่อมวลชนขึ้นเรือไปดูบ้านพักของตน ตอนนี้ศาลนัดพิจารณาคดีนี้ในเดือน ก.ย.แล้ว
สิระ ปฏิเสธร่วมมือกรมป่าไม้
สิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐกล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุว่าตนร่วมมือกับกรมป่าไม้ รื้อคดีบ้านพักริมน้ำเจ้าพระยา โดยตั้งคำถามกลับว่าการพูดเช่นนี้เป็นการหมิ่นประมาทหรือไม่ การพูดอะไรออกมา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์จะต้องรับผิดชอบ เพราะตนทำหน้าที่กรรมาธิการฯกฎหมาย สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งรับเงินจากภาษีของประชาชน
ดังนั้นมีคนร้องเรียนเข้ามา ก่อนจะดำเนินการได้ตรวจสอบแล้วว่าเรื่องอยู่ในอำนาจจึงนำมาพิจารณาในชั้นกรรมาธิการฯ ยืนยันไม่ใช่เรื่องส่วนตัว คณะกรรมาธิการไม่ใช่ของตนคนเดียว แต่ประกอบด้วย ส.ส.จากฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล 15 คน เมื่อกรรมาธิการเห็นควรให้บรรจุตนก็ต้องดำเนินการ และไม่ได้สมทบคิดกับกรมป่าไม้รื้อคดีนี้ขึ้นมา ซึ่งการที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ บอกว่าตนทำเรื่องนี้เพราะต้องการเรียกรางวัลจากพรรคพลังประชารัฐ อาจเข้าข้ายหมิ่นประมาทตนเอง เพราะตนทำตามหน้าที่ และไม่ใช่การฟ้องร้องกันไปมา แต่เป็นเรื่องของการปกป้องสิทธิ์ตัวเอง
ส่วนจะเป็นเรื่องส่วนตัวหรือไม่นั้น ต้องให้ประชาชนตัดสินเรื่องนี้ถือเป็นประโยชน์ส่วนรวมหรือไม่ ส่วนเรื่องคดีความ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ต้องเข้ามาชี้แจงกับกรรมาธิการฯ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีการกระทำผิดหรือไม่ แต่การไม่มาชี้แจงถือเป็นการไม่ยอมรับการตรวจสอบและไม่ให้เกียรติกรรมาธิการ ทั้งที่ตนเองก็เป็นกรรมาธิการฯ ป.ป.ช. ซึ่งเชิญบุคคลอื่นมาชี้แจง และทุกคนก็ให้เกียรติมาชี้แจงเพราะถือเป็นการตรวจสอบจากนิติบัญญัติ แต่หากครั้งนี้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไม่มาชี้แจง ก็จะถือเป็นบรรทัดฐานว่าครั้งต่อไปกรรมาธิการป.ป.ช. เชิญใครมาชี้แจง ก็ไม่จำเป็นต้องมาก็ได้
เมื่อถามย้ำว่าเคยติดคุกตามคำกล่าวอ้างของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จริงหรือไม่ สิระ กล่าวว่า เขาก็ยังหาหลักฐานไม่ได้ว่าตนเคยถูกดำเนินคดี หากตนผิดจริงก็ยินดีให้ตรวจสอบ แต่หากไม่ใช่ตามนั้นตนก็ต้องปกป้องสิทธิ์ตัวเอง คนที่พูดต้องรับผิดชอบ
“ผมประกาศไว้เลย ฝากถึงม่านด้วย ในเมื่อลักษณะของท่านเป็นการจองเวรจองกรรมผมแบบนี้ ประกาศ ผมตายไม่ต่องมาเผาผีผม ท่านตายผมก็จะไม่ไปเผาผีท่าน และผมจะทำในลักษณะเดียวกันกับที่ท่านทำกับผม ทุกภพทุกชาติไป ขอให้เจอกันทุกภพทุกชาติไป และผมจะทำกับท่านทุกชาติไป” สิระ กล่าว