บุชชมไทยพาโลกพ้นเศรษฐกิจถดถอย

จอร์จ ดับเบิลยู บุช ออกปากชมไทยและเอเชียว่าช่วยนำเศรษฐกิจโลกหลุดพ้นจากภาวะถดถอย แต่เตือนเรื่องการใช้มาตรการกีดกันทางการค้า

อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช แห่งสหรัฐ ได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมเวิลด์ โนว์เลดจ์ ฟอรัม ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันพุธ (14 ต.ค.) ว่าเศรษฐกิจเอเชียช่วยฉุดเศรษฐกิจโลกให้หลุดพ้นจากภาวะถดถอย พร้อมกล่าวชมจีน เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน ญี่ปุ่น และไทย ว่ามีเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ดีเพราะนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอันชาญฉลาด

บุชยังกล่าวด้วยว่า เศรษฐกิจเอเชียกำลังเป็นตัวจักรสำคัญสำหรับการเติบโตในอนาคต โดยตัวเขามองในแง่ดีว่าทุกอย่างจะต้องดีขึ้นกว่าเดิม

อย่างไรก็ตาม อดีตผู้นำสหรัฐได้แสดงความเป็นห่วงเรื่องที่มีการใช้มาตรการกีดกันทางการค้ามากขึ้นในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ โดยตัวเขาเชื่อมั่นอย่างแน่นแฟ้นว่า หนทางที่ดีที่สุดไม่ใช่แค่กระตุ้นการเติบโตเท่านั้น แต่ยังต้องรับมือกับความยากจนบนโลกด้วยการค้าเสรี

พร้อมกันนี้ บุชได้สนับสนุนให้สหรัฐติดต่อสัมพันธ์กับประเทศในเอเชียต่อไปเพราะความสัมพันธ์ทวิภาคีกับประเทศอย่างจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้นั้นเป็นจุดศูนย์กลางด้านความมั่นคงของสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม ความเห็นของบุชนั้นแตกต่างจากนายพอล ครุกแมน นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง จากมหาวิทยาลัยปรินซ์ตัน เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ประจำปีที่แล้วที่เตือนว่า เศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ และว่าเร็วเกินไปที่เกาหลีใต้จะอ้างว่าฟื้นตัวอย่างรวดเร็วแล้ว พร้อมเตือนว่าปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญอย่างการถีบตัวขึ้นของการค้าโลกนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ยั่งยืน

ในคราวเดียวกันนี้ อดีตผู้นำสหรัฐยังเร่งผลักดันให้นานาประเทศที่กำลังทำการเจรจาต่อรองกับเกาหลีเหนือ ร่วมมือกดดันให้เกาหลีเหนือยุติโครงการนิวเคลียร์ โดยบอกว่าเกาหลีเหนือกำลังทดสอบกระบวนการการเจรจา 6 ฝ่าย และพยายามหาจุดอ่อนของกระบวนการดังกล่าวอย่างแน่นอน ดังนั้น สมาชิกของการเจรจา 6 ฝ่ายจะต้องไม่ยินยอมให้เกาหลีเหนือทำเช่นนั้น

นอกจากนี้ อดีตผู้นำสหรัฐยังเชื่อว่า วิธีที่ดีที่สุดที่จะนำสันติภาพกลับคืนมาสู่คาบสมุทรเกาหลี คือการใช้การทูตจากหลายฝ่ายผ่านทางการเจรจา 6 ฝ่าย และมั่นใจว่า ปัญหาประเด็นดังกล่าวจะสามารถแก้ไขได้อย่างสันติ หากจีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น รัสเซีย และสหรัฐ ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่ายังมีหนทางที่ดีกว่ารออยู่

ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2545 ขณะนายบุช ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี เกาหลีเหนือเคยถูกจัดให้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มประเทศ "อักษะแห่งปีศาจ" แต่หลังจากนั้นในปีถัดมา บุช ก็เห็นชอบในการจัดการเจรจา 6 ฝ่ายขึ้น เพื่อโน้มน้าวให้เกาหลีเหนือยุติโครงการนิวเคลียร์ โดยแลกเปลี่ยนกับความช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง และผลประโยชน์ทางการทูต