ไม่ใช่ครั้งแรก! แม่เดือดลูกสาว 7 ขวบ พัฒนาการช้า ถูกครูตบหน้าบวมจนต้องเอกซเรย์สมอง

ไม่ใช่ครั้งแรก! แม่เดือดลูกสาว 7 ขวบ พัฒนาการช้า ถูกครูตบหน้าบวมจนต้องเอกซเรย์สมอง

ไม่ใช่ครั้งแรก! แม่เดือดลูกสาว 7 ขวบ พัฒนาการช้า ถูกครูตบหน้าบวมจนต้องเอกซเรย์สมอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม่โวยลูกสาว 7 ขวบ พัฒนาการช้า ถูกครูตบหน้าจนต้องเข้า รพ. ครั้งแรกเคยให้อภัย เพราะครูมากราบขอโทษบอกจะไม่ทำอีก

(12 ก.พ.64)  นายอำเภอนางรอง  จังหวัดบุรีรัมย์  ได้มอบหมายให้นายจักร์กฤษ ร่วมกูล ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง  พร้อมด้วยนายจักรพงษ์ บุราสิทธิ์ ปลัดอำเภอฝ่ายความเป็นธรรม ,ผู้อำนวยการกลุ่มการศึกษา ร่วมกับผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในตำบลหนองยายพิมพ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังจากมีผู้ปกครองรายหนึ่งโพสต์ภาพพร้อมข้อความว่าลูกสาวถูกครูตบหน้า จนต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยมีข้อความว่า

“ให้โอกาสครูครั้งแรกมากราบขอโทษ แม่ก็ให้อภัยแล้วสัญญาว่าจะไม่ทำอีก แล้วมาขอร้องให้ลูกไปโรงเรียนเพราะเห็นว่าแม่แก่มากแล้วมันลำบากหลายอย่างเลยให้อภัยไป แต่มาวันนี้ยังตบอีกจนรอบนี้เข้าโรงพยาบาลนางรองแล้วต้องไปเอกซเรย์สมองที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์อีก เห็นเป็นคนจนๆ แล้วไม่ช่วยเหลือแล้ว  รังแกยังไงก็ได้ถึงชีวิตแม่คนนี้จะไม่มีเงินทองมากมาย  แต่แม่จะช่วยลูกถึงที่สุด...เดี๋ยวจะได้รู้กัน”

จากการลงพื้นที่ตรวจสอบยังบ้านของผู้ปกครองที่โพสต์  คือ น.ส.แวว (นามสมมติ) อายุ 30 ปี  ก็ให้ข้อมูลว่า  ด.ญ.เอ (นามสมมติ) ลูกสาวของตนเองอายุ 7 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป. 1  โรงเรียนแห่งหนึ่งในตำบลหนองยายพิมพ์  ปัจจุบันอยู่กับยาย ส่วนตนเองไปทำงานที่จังหวัดชลบุรี  เมื่อวันที่  9  ก.พ. ที่ผ่านมา  แม่ได้โทรศัพท์ไปบอกว่าลูกสาวถูกครูที่โรงเรียนตบหน้าอย่างแรง  จนหน้าบวมแดง  ตาข้างขวาปิด  และมีอาการปวดศีรษะ จนต้องนำตัวส่งไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลนางรอง นอนรักษาอยู่ 1 คืน หมอก็ให้ยากลับมาพักฟื้นต่อที่บ้าน ซึ่งตนตกใจและเป็นห่วงลูกมากจึงรีบเดินทางกลับมาที่บ้าน  พอมาเห็นสภาพลูกซึ่งยังอยู่ในอาการหวาดกลัวพอสอบถามก็บอกว่าถูกครูตบหน้าไม่อยากจะไปโรงเรียน

แม่ยังบอกด้วยว่า ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลูกถูกครูทำร้ายด้วยการใช้มือตบหน้า เพราะเมื่อประมาณวันที่ 5 ก.พ. ที่ผ่านมา ลูกสาวก็ถูกครูคนดังกล่าวตบหน้าจนต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุอะไร หรืออาจจะเป็นเพราะลูกสาวของตนเป็นเด็กที่พัฒนาการช้าอาจจะทำอะไรไม่ทันเพื่อนอาจจะทำให้ครูโมโหหรือไม่ เพราะตนก็ไม่อยากคาดคั้นลูกมาก แต่ครูก็ได้มาขอโทษ และรับปากว่าจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก  ซึ่งตนก็ให้โอกาสและไม่อยากให้เป็นเรื่องเป็นราว เพราะตนเองก็เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนนี้   

พอมาเกิดครั้งที่สองซ้ำอีกตนยอมรับว่าเสียใจและสงสารลูกมาก ซึ่งล่าสุดทางปลัดอำเภอ และ ผอ.โรงเรียน ลงมาเยี่ยมน้องที่บ้านและสอบถามรายละเอียดด้วยตัวเอง โดย ผอ. ก็ได้กล่าวขอโทษพร้อมยืนยันจะตั้งกรรมการสืบข้อเท็จจริง  เกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นและจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย และรับปากว่าจะไม่ให้เกิดกรณีแบบนี้ขึ้นอีก เมื่อทาง ผอ.รับปากด้วยตัวเอง ตนก็จะให้โอกาสทางโรงเรียนอีกครั้งจะยังไม่เอาเรื่องกับครูคนดังกล่าว    เพราะก็ยังอยากให้ลูกไปเรียนเหมือนเด็กคนอื่นๆ และไม่อยากให้เรื่องบานปลาย  แต่ก็อยากฝากให้ทางโรงเรียนดูแลลูกให้ดีกว่านี้ อย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ไม่งั้นคงจะไม่ให้อภัยอีกเป็นครั้งที่สามแล้ว   

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook