“บิ๊กแป๊ะ” ประกาศลงชิงผู้ว่าฯ กทม.ปัด ”ประวิตร” หนุน

“ถาวร” ควง “บิ๊กแป๊ะ” ลงพื้นที่ กทม. ตะวันออก เปิดตัวชิงผู้ว่าฯ กทม. ลั่นเป็นพวกกัน ไม่เกี่ยว ปชป.

นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. และคณะลงพื้นที่เขตมีนบุรี หนองจอก ลาดกระบัง มอบทุนการศึกษา มอบอุปกรณ์การกีฬา และถุงยังชีพ โดยมีประชาขนในพื้นที่ให้การต้อนรับ และถือเป็นการเปิดตัวเตรียมลงชิงตำแหน่ง ผู้ว่าฯ กทม. โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้เดินสายลงพื้นที่พบปะประชาชนฝั่ง กทม. ตะวันออกมาตั้งแต่ปีที่แล้ว

ทั้งนี้ นายถาวร ได้ฝาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ กับชาวมีนบุรี หนองจอก ลาดกระบัง พิจารณา ไว้ในอ้อมใจ เพื่อทำงานรับใช้ ชาว กทม. โดยต้องแยกเรื่องความสัมพันธ์ ระหว่างพรรคการเมืองกับเรื่องส่วนตัวในการสนับสนุน พล.ต.อ.จักรทิพย์ และในการลงพื้นที่ เขตหนองจอก เพราะตนคุ้นเคยกับ นายศิริพงษ์ ที่สนใจกีฬา และทำกิจกรรมในพื้นที่มาตลอด ขณะที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ก็สนใจกีฬา เพราะเล่นลักบี้มาก่อน ส่วนตนก็เล่นฟุตบอลจึงมีความคุ้นเคยกัน เมื่อมีกิจกรรมกีฬาไม่ว่าจะเป็นว่าพรรคใด หากเป็นพรรคพวกเป็นเพื่อนกัน ก็จะมาร่วมกันเสมอ ดังนั้น ต้องแยกเรื่องกีฬากับการเมือง ส่วนอนาคตเมื่อถึงเลือกตั้ง กทม. จะสนับสนุน พล.ต.อ.จักรทิพย์ หรือไม่นั้น นายถาวร กล่าวว่า ตนสนับสนุนทุกคนที่เป็นคนดี และมั่นใจว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์เป็นคนดี แต่เมื่อไหร่ที่ พรรคประชาธิปัตย์ มีมติส่งผู้สมัครในนามพรรค ก็จะต้องอยู่กับพรรคและทำตามมติพรรค แต่ขณะนี้เป็นเรื่องของพี่น้องพ้องพี่ เมื่อมีกิจกรามตรงไหนก็ไปทำร่วมกัน เพราะขณะนี้คณะกรรมการบริหารพรรคยังไม่มีมติจึงบอกไม่ได้ว่าจะส่งผู้สมัครหรือไม่ เพราะตนไม่ใช่ กรรมการบริหารพรรค

“จักรทิพย์” ตัดสินใจแล้วลงชิงผู้ว่า กทม. แต่ยังไม่ได้พร้อม 100 % ปัดขัดแย้ง “ทยา ทีปสุวรรณ” ชี้เป็นเรื่องของพรรคพลังประชารัฐ

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ได้รับเชิญจากนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมให้มาร่วมงานแข่งขันชกมวย เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. ปีที่แล้ว และเล็งเห็นว่า เยาวชนควรมีอุปกรณ์กีฬา จึงยินดีที่ได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนเครื่องกีฬาซึ่งทำแบบนี้มาตลอดในระหว่างดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อประสานระหว่างตำรวจกับประชาชน เช่นเดียวกับวันนี้ ที่อยากสนุบสนุนให้เยาวชนมีอุปกรณ์กีฬาได้ใช้ออกกำลังกาย ขอให้ทุกคนดูแลสุขภาพ พร้อมยอมรับว่า ตัดสินใจแล้วว่าจะลงสมัครชิงผู้ว่า กทม. และจากนี้ ถ้ามีเวลาก็จะลงพื้นที่พบประชาชน แต่ยังไม่ได้พร้อม 100 % ส่วนที่มีการส่ง สคส.ให้ชาว กทม. เป็นการสวัสดีปีใหม่

สำหรับกระแสข่าวที่ออกมาว่า มีความความขัดแย้งกับ นางทยา ทีปสุวรรณ ภรรยานายณัฏฐพลที่ประกาศตัวชิงผู้ว่าฯ กทม. เช่นเดียวกัน เพราะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประขารัฐ สนับสนุนตนนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องของ พปชร. ไม่เกี่ยวกับตน เพราะตนไม่ใช่สมาชิกแต่ยอมรับ มีความสนิทใกล้ชิด กับ พล.อ.ประวิตร เพราะเป็นผู้บังคับบัญชา สมัยตนดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. จะให้บอกว่า ไม่รู้จักก็จะเป็นการเนรคุณแต่ตนไม่ได้ไปขอให้สนับสนุน ซึ่งหากขอ พล.อ ประวิตร ต้องอึดอัด เพราะนายณัฏฐพลยังเป็นรัฐมนตรีอยู่ ยืนยันตนไม่เคยทำความเดือดร้อนให้ผู้ใหญ่และถ้าแพ้ก็ไม่เสียใจ แต่คงขาดโอกาสที่จะช่วยเหลือชาว กทม. เท่านั้นเอง เพราะยังมีความรู้ความสามารถที่จะช่วยพัฒนา กทม.

 “จักรทิพย์” เร่งฟอร์มทีม ปัดตอบ “ทยา” ร่วมด้วย รับเสียเปรียบไม่มีพื้นฐานการเมืองมาก่อน รอเปิดตัวย้ำนโยบายไม่ขายฝัน

พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงอนาคตจะเห็นนางทยา ทีปสุวรรณ ภรรยานายณัฎฐพลที่ประกาศตัวชิงผู้ว่าฯ กทม. มาร่วมทีม โดยอาจจะเป็นรองผู้ว่าฯ กทม. หรือไม่ ตนมีประสบการณ์น้อยในสนามการเมือง แต่สมการการเมืองเป็นได้ทุกอย่าง ไม่สามารถวิเคราะห์อนาคตได้ เช่นเดียวกับที่มองว่า ตนและทยามีฐานคะแนนเดียวกัน แล้วจะตัดตะแนนกัน ตนไม่มีประสบการณ์ด้านการเมือง ได้ยินแต่คนพูดต้องไปถามกูรูทางการเมือง ตนไม่ทราบ ตนทำหน้าที่ของตน เพราะตนอาจจะแพ้ หรือสอบตกก็ได้ เพราะเป็นสินค้าใหม่ที่ประชาชนต้องพิจารณาหยิบมาใช้ ซึ่งประชาชนอาจจะไม่หยิบมาใช้ก็ได้

ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ อยู่ระหว่างฟอร์มทีมผู้ว่า กทม. ส่วนจะเห็นทยามาร่วมทีมหรือไม่ ตนเองไม่มีสิทธิ์มีเสียงใน พปชร. แต่สามีนางทยา ยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่ ซึ่งตนเสียเปรียบที่สุด เพราะไม่มีพื้นฐานการเมืองมาก่อน รับราชการตำรวจมาตลอดชีวิต แต่รู้ปัญหารู้ความต้องการของชาว กทม. และรู้ว่าจะแก้ไขยังไง ที่ผ่านมาตนลงพื้นที่มาตลอด แต่ยังไม่สามารถวิเคระห์ได้ว่า ชาว กทม. สนับสนุนตนหรือไม่ พร้อมยอมรับเป็นไปได้ คน กทม. อาจจะเบื่อตำรวจ เพราะผู้ว่าฯ คนปัจจุบัน ก็เป็นตำรวจและอยู่มา 4 ปีแล้ว แต่จุดขายของตนเป็นตำรวจที่มีคุณงามความดีที่ประชาชนเห็นผลงาน จึงขออย่ามองเหรียญด้านเดียว เพราะรัฐบาลเองก็มีทั้งตำรวจ ทหารและพลเรือน ส่วนจะเปิดตัวเป็นทางการเมื่อไหร่ ต้องรอทำนโยบาย ซึ่งจะจับต้องได้ ไม่ขายฝัน รวมถึงเรื่องการประชาสัมพันธ์ ก็จะทำผ่านโซเชียลมีเดียเพื่อเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่น