#ม็อบ13กุมภา ตีหม้อไล่ตำรวจ "ไมค์" ประกาศวันนี้ไม่มีคำสั่งถอย ไม่หวั่นสลายการชุมนุม
#ม็อบ13กุมภา ตีหม้อไล่ตำรวจ "ไมค์" ประกาศวันนี้ไม่มีคำสั่งถอย หมดเวลากลัว หมดเวลาถอย ไม่หวั่นสลายการชุมนุม
(13 ก.พ.64) บรรยากาศบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กลุ่มราษฎร เดินทางมารวมตัวเพื่อทำกิจกรรม “นับ 1 ถึงล้าน คืนอำนาจให้ประชาชน” ช่วยกันรื้อเอาสิ่งแปลกปลอมออกไป เอาประชาธิปไตยคืนมา โดยกิจกรรมหลักของวันนี้คือการเขียนข้อความแสดงความรู้สึก อาทิ สิ่งที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลและอยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ลงบนผ้าสีแดงขนาดใหญ่เพื่อจะนำป้ายผ้าดังกล่าวไปห่มบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ระหว่างนั้นตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ อ่านประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงสั่งให้ผู้ชุมนุมยุติการรวมกลุ่ม เนื่องจากเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค ทำให้มวลชนก็พากันโห่ไล่พร้อมเคาะหม้อส่งเสียงดังจนเจ้าหน้าที่ต้องร่นถอยกำลังออกไปเพื่อลดการเผชิญหน้า
ด้าน นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ เดินทางมายังอนุสาวรีย์ฯพร้อมประกาศว่าหากมีการสลายการชุมนุม ตอนนี้หมดเวลากลัว หมดเวลาถอย มีแต่จะสู้เท่านั้น วันนี้จะไม่มีคำสั่งถอยจากตนเด็ดขาด ใครพร้อมเป็นแนวหน้าก็เตรียมตัว หากจะมีอะไรเกิดขึ้น ขอให้ฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐเป็นผู้กระทำก่อน ไม่ให้เสียความชอบธรรมในการขับเคลื่อน ประชาธิปไตย อย่าให้ฝ่ายราษฎรเริ่มก่อน ให้จองต้นไม้กัน แล้วจะขนมาวางบนทางเท้า ไม่ให้ปิดบังโบราณสถานที่สร้างโดยคณะราษฎร พร้อมเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวแกนนำทั้ง 4 คน ที่ยังถูกคุมขังอยู่เรือนจำเพราะมองว่าการทำดังกล่าวเป็นการกลั้นแกล้งทางการเมือง และเจตนาของมวลชนคือต้องการให้มีการยกเลิก ม.112 โดยทางกลุ่มผู้ชุมนุมมีการทำร่าง พ.ร.บ. จัดทำแผนต่างๆเพื่อเสนอเข้าไปสู่ระบบรัฐสภา
ไมค์ ภาณุพงศ์ กล่าวด้วยว่า ในการทำกิจกรรมตนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงใดๆ และไม่ว่าจะเป็นฝั่งไหนก็ตามไม่ควรสร้างสถานการณ์ โดยเฉพาะการปาระเบิด หรือประทัด การทำให้เกิดเสียงดังต่างๆ เพราะในที่ที่คนอยู่จำนวนมาก ไม่ควรทำเพราะประชาชนจะได้รับอันตรายได้
สำหรับสภาพการจราจรบนถนนราชดำเนินกลางมุ่งหน้าสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ขณะนี้ถูกปิดทุกช่องทาง รถที่มุ่งหน้าเข้ามาต้องวนกลับไปฝั่งสนาม