เด็กสาว 17 ใช้ยาเหน็บทำแท้ง ซ่อนศพทารกในห้องนอน สุดท้ายตกเลือดโทรให้พ่อช่วย
เด็กสาว 17 ท้องใกล้คลอด ใช้ยาเหน็บทำแท้งจนทารกไหลออกมาก่อนซ่อนศพในห้องนอน สุดท้ายตกเลือดหนักโทรให้พ่อมาช่วย
(13 ก.พ.64) เมื่อเวลา 22.00 น. พ.ต.ท.ศุภชัย เพ็ชรสกุล พนักงานสองสวน สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ว่าได้รับผู้ป่วยรายหนึ่ง ที่มีอาการตกเลือดอย่างรุนแรง ภายในช่องคลอดมีรกเด็กติดอยู่ ซึ่งผู้ป่วยรายดังกล่าวได้ให้การรับสารภาพว่า ได้ใช้ยาเหน็บเพื่อทำแท้ง จนเด็กได้หลุดออกมาเสียชีวิต และได้นำศพเด็กยัดใส่ไว้ในกล่องพลาสติกภายในห้องนอน จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพร้อมแพทย์และหน่วยกู้ภัยสายชล มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์
เมื่อไปถึงที่เจ้าหน้าที่พบว่าเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ปลูกอยู่ริมคันคลองชลประทานชุมพร โดยตัวบ้านแบ่งแยกซอยห้องออกเป็น 3 ห้องเล็กๆ โดยห้องที่เกิดเหตุ เป็นห้องด้านหลังสุดของบ้าน โดยภายในห้อง เจ้าหน้าที่พบบนที่นอนเต็มไปด้วยเลือด ส่วนพื้นห้องมีกองเลือดกระจัดกระจาย
โดยใต้ราวผ้าที่ตั้งอยู่ติดฝาผนังห้อง แขวนเสื้อผ้าชุดนักศึกษาของวิทยาลัยอาชีวะแห่งหนึ่งในจังหวัดชุมพร พบกล่องพลาสติกสีแดง วางอยู่ในลักษณะปิดฝา เจ้าหน้าที่จึงได้เปิดดูพบศพทารกเพศชาย ถูกห่อด้วยผ้าขนหนูจึงได้นำออกมาทำการชันสูตรเบื้องต้นพบว่า ทารกอยู่ในสภาพสมบูรณ์ มีอวัยวะครบ 32 ที่บริเวณหน้าท้องมีสายสะดือยาวกว่า 50 ซม. สภาพเพิ่งถูกตัดด้วยของมีคม คาดอายุครบกำหนดใกล้คลอดแล้ว ซึ่งทางแพทย์จึงได้นำศพของทารกไป รพ.ชุมพรเพื่อทำการชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง
จากการสอบสวน ชายอายุ 38 ปี เจ้าของบ้าน ทราบว่า ตนเองมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ทำงานกลับบ้านไม่ค่อยแน่นอน บางวันก็เย็น บางวันก็มืดค่ำ และเมื่อวานที่ผ่านมา ตนเองได้รับโทรศัพท์จากลูกสาว อายุ 17 ปี ซึ่งอยู่กับยาย ว่าให้ไปรับกลับบ้านเพราะทะเลาะกับยาย ซึ่งตนเองก็ต้องขับรถไปรับกลับมาบ้าน โดยไม่ได้ถามทะเลาะกันเรื่องอะไร
นายโชคชัย ได้ให้การว่า จนมาวันนี้ ขณะที่ตนเองกำลังทำงานอยู่ ลูกสาวก็โทรศัพท์มาหา และบอกว่า เลือดไหลออกจากช่องคลอดมาก ตนเองตกใจก็รีบกลับมาดู ก็พบลูกเลือดไหลออกมาเต็มที่นอนและพื้นห้อง ตนเองจึงได้โทรศัพท์ไปยัง 1669 เพื่อให้มารับตัวลูกสาวส่งโรงพยาบาล ซึ่งตนเองก็ได้เดินทางตามไปด้วย
จนกระทั่งมารู้เรื่องจริงจากแพทย์ว่าลูกสาวท้องและได้ใช้ยาเหน็บทำแท้ง จนทารกไหลออกมาเสียชีวิตดังกล่าวซึ่งตนเองยอมรับว่าไม่รู้เลยว่าลูกสาวท้องและท้องกับใคร เพราะไม่มีอาการบ่งบอกออกมา และลูกสาวก็ยังใช้ชีวิตเป็นปกติ ไปเรียนปกติแทบทุกวัน
ด้านทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำนายโชคชัย ผู้เป็นพ่อไว้เป็นการเบื้องต้น ซึ่งต้องรอผลจากทางแพทย์ ซึ่งก็ทราบว่าเด็กสาวอาการตอนนี้ปลอดภัยแล้ว แต่ต้องนอนรักษาตัวและให้แพทย์ดูอาการอีกประมาณ 3 วัน ในการดำเนินคดีจะต้องนำเอาหลักฐานยาที่พบในห้องให้ฝ่ายวิทยาการแพทย์ตรวจ รวมทั้งผลการพิสูจน์การตายของทารกประกอบการดำเนินคดีด้วย