“ณัฏฐพล” มั่นใจ ผ่านศึกซักฟอกฉลุย หลังเคลียร์ใจพรรคร่วม
“ณัฏฐพล” มั่นใจหลังเคลียร์ใจพรรคร่วม ผ่านศึกซักฟอกฉลุย
นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงภาพรวมการซักซ้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ 2 วันที่ผ่านมาของพรรคร่วมรัฐบาลว่า ในส่วนพรรคร่วมทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ มีความเข้าใจซึ่งกันและกันในข้อมูลต่างๆ ที่เตรียมอภิปรายครั้งนี้ โดยมั่นใจว่าฝ่ายรัฐบาลจะตอบข้อสงสัย ข้อกังวลข้อและข้อเคลือบแคลงใจของฝ่ายค้านได้อย่างแน่นอน ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่ปรากฏตามข่าวรัฐบาลก็มีความมั่นใจอยู่แล้ว ซึ่งจากการที่ได้มาเก็งข้อสอบกันก็ที่แต่ละกระทรวงมองเห็นปัญหา หรือมีคำถามแคลงใจจากประชาชนก็เป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีต้องตอบคำถามดังกล่าว
นายณัฐพล กล่าวอีกว่า ไม่มีความกังวลถึงผลคะแนนโหวต ซึ่งเมื่อวานนี้ (13 ก.พ.) ก็มีการพูดคุยกันอีกครั้งหลังรับประทานอาหาร โดยเคลียร์ความไม่เข้าใจกันบางเรื่อง ซึ่งหลายๆ เรื่องก็มีความเข้าใจผิดและสับสนนิดหน่อย ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดาก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และเพื่อให้มีความเชื่อมั่นในตัวรัฐมนตรีและแกนนำของรัฐบาล ถือว่า เคลียร์ใจด้วยดีและเข้าใจกัน ส่วนการเคลียร์ใจในประเด็นการส่งผู้สมัครลงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อไม่ให้มีปัญหารอยร้าวระหว่างพรรคร่วมด้วยนั้น ไม่มี และไม่เกี่ยว
ขณะที่คะแนนโหวตรัฐมนตรีจะได้เท่ากันหรือไม่ นายณัฏฐพล กล่าวว่า คิดว่าวันนี้ ส.ส. ทุกคนของรัฐบาลมีความเข้าใจและ เป็นปึกแผ่น เข้าใจในการขับเคลื่อนความเป็นรัฐบาลต่อไป และเข้าใจบริบทของสถานการณ์ปัจจุบันว่าหากเราสามารถแสดงให้เห็นความเป็นปึกแผ่นของพรรคร่วมรัฐบาลได้ แม้ พปชร. เป็นพรรคใหม่ แต่ก็มีพรรคร่วมที่มีประสบการณ์มาหลายปี ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเป็นประชาธิปไตย ของประเทศไทย ที่เปิดโอกาสให้พรรคใหม่ พรรคเก่า พรรคที่มีตำนานหรือพรรคที่เกิดขึ้นมาได้ผสมผสานการทำงานเพื่อประเทศไปได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมากในการต่อสู้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และแสดงถึงระบบตรวจสอบรัฐสภาไทย
“ณัฏฐพล” มั่นใจค่าอาหารเด็กเพียงพอ
นายณัฏฐพล ทีปสุววรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์การการเพิ่มงบประมาณค่าอาหารกลางวันเด็กนักเรียนเพียง 1 บาท จาก 20 บาท เป็น 21 บาท ว่า ในเบื้องต้นอาจดูว่าเหมือนน้อย หากไปดูเนื้อในการบริหารจัดการ และได้มีการพูดคุยกับสำนักงบประมาณ ซึ่งในงบ 21 บาท ได้เปลี่ยนงบบริหารจัดการ จาก 4 บาท เป็น 2 บาท เพื่อให้มาเพิ่มในส่วนของค่าอาหารกลางวันเด็ก ซึ่งจากการคำนวณถือว่าเพียงพอ โดยวัตถุดิบค่าอาหารจะถึงเด็กนักเรียนอย่างแน่นอน ซึ่งรวมแล้วมีการเพิ่มถึง 3 บาท หรือเทียบเป็นร้อยละ 20 ซึ่งในอนาคตจะมีการเพิ่มค่าอาหารเด็กนักเรียนอย่างแน่นอน หลังจากมีการวางแผนบูรณาการกับโรงเรียนทั่วประเทศ
ทั้งนี้นายณัฏฐพล กล่าวว่า ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ก็จะทำให้ข้อมูลและภาพรวมโรงเรียนทั่วประเทศมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เห็นว่าโรงเรียนขนาดเล็กมีความจำเป็นที่จะต้องได้งบประมาณสูงถึง 30 กว่าบาท ตามสัดส่วนนักเรียน ซึ่งในปัจจุบันถ้านักเรียนจำนวน 300 กว่าคนขึ้นไปในระดับที่อยู่ 20 กว่าบาท หรือ 20 ต้นๆ ถือว่าเพียงพอ หากมีการเฉลี่ยและมีการบริหารจัดการที่ดี ซึ่งเราต้องการให้เด็กได้รับโภชนาการที่ดีขึ้นเท่าที่สามารถจะทำได้ซึ่งเป็นการบริหารภายใน เป็นการจัดการแบบขั้นบันได แต่ทั้งนี้จะต้องให้ได้ข้อมูลครบถ้วน
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา 1 ปีหลัง เรื่องการทุจริตอาหารกลางวันเด็กมีน้อยลง เพราะมีการบริหารจัดการที่มีความเข้มงวด และในทุกโรงเรียนที่ตนได้ลงไปสัมผัสดูมีการให้อาหารเด็กนักเรียนที่เพียงพอ แต่หากสามารถเพิ่มเติมได้ก็ถือว่ามีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มในอนาคต แต่ก็ต้องดูตามค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้น