ประกาศจับ "โจรนินจา" ปีนหมู่บ้านหรูฉกทรัพย์นับสิบหลัง ผู้เสียหายยอมขายบ้านทิ้ง
(14 ก.พ.64) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่หมู่บ้านหรูบนถนนบางใหญ่-บางคูลัด ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี โดยหมู่บ้านแห่งนี้เป็นโครงการหมู่บ้านหรูขนาดใหญ่ ราคาตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป โดยได้รับข้อมูลว่าตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีบ้านจำนวน 9 หลัง ถูกโจรนินจาขึ้นไปลักทรัพย์สินถึงในบ้าน โดยทิ้งรอยเท้าและร่องรอยการงัดแงะไว้ตามกำแพงและหน้าต่างชั้นบนของบ้าน ก่อนจะหลบหนีหายไปอย่างลอยนวล จนทำให้เจ้าของบ้านพักอาศัยในโครงการบางรายถึงกับทนไม่ไหว ปิดป้ายประกาศจับโจรนินจา ที่ก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์ในหมู่บ้านแห่งนี้ไปหลายหลัง และยังคงย่ามใจตระเวนก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากไม่ทิ้งหลักฐานใดๆ ให้ติดตามตัวได้ สร้างความปวดหัวให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนเจ้าของบ้านหวาดผวา ไม่กล้าทิ้งทรัพยสินมีค่าไว้ในบ้านพร้อมกับขนานนามให้คนร้ายรายนี้ว่า โจรนินจา
โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ก.พ.64 ที่ผ่านมา เจ้าของบ้านซึ่งตกเป็นผู้เสียหายรายที่ 10 ถูกโจรนินจารายนี้ขึ้นบ้าน เพื่อหวังขโมยทรัพย์สินมีค่า แต่ปรากฏว่าบ้านผู้เสียหายรายนี้ไม่มีทรัพย์สินมีค่าในบ้าน คนร้ายรายนี้จึงไม่ได้อะไรติดมือไป แต่โจรนินจารายนี้ได้ถ่ายอุจจาระในห้องน้ำทิ้งร่องรอยหลักฐานในการบุกเข้าบ้านไว้ให้ผู้เสียหายดูต่างหน้าแทน
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ลูกบ้านเกิดความไม่ปลอดภัยและหวาดระแวงกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทำได้เพียงแค่เก็บหลักฐานไปตรวจพิสูจน์เพื่อหาเบาะแสของคนร้าย แต่ยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีสร้างความมั่นใจให้กับผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านแห่งนี้ได้ ทำให้ล่าสุดเจ้าของบ้านที่ได้รับความเสียหายต้องรวมตัวลงชื่อแจ้งไปยังเจ้าของโครงการให้หามาตรการป้องกัน เพราะเนื่องจากเป็นหมู่บ้านโครงการหรูที่เสียค่าส่วนกลางปีละหลายหมื่นบาท น่าจะมีระบบป้องกันรักษาความปลอดภัยที่ดีกว่านี้ให้กับบ้านทุกหลัง เพราะแม้ว่าในปัจจุบันจะมี รปภ.ตรวจบัตรรถเข้า-ออกทุกคัน รวมทั้งมี รปภ.ขี่รถ จยย.ตระเวนตรวจตามบ้าน แต่ก็ยังเกิดเหตุมีคนร้ายตระเวนลักทรัพย์อย่างต่อเนื่องอีกนับ 10 หลัง โดยไม่สามารถจับกุมหรือติดตามคนร้ายรายนี้ได้เลย
นายต้น (นามสมมุติ) เจ้าของบ้านที่ถูกโจรนินจาย่องเข้าไปลักทรัพย์สินมีค่า เปิดเผยว่า ปกติตนทำงานในเมือง จะกลับมาพักที่บ้านหลังนี้เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ โดยก่อนหน้านี้ได้ยินข่าวลือในหมู่บ้านเดี๋ยวกับโจรนินจาที่ตระเวนขโมยย่องขึ้นบ้านมาบ้างแล้ว แต่ไม่ได้สนใจอะไร เพราะคิดว่าข้าวของทุกอย่างในบ้านตนยังอยู่ครบ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 21 ม.ค.64 เพื่อนบ้านในโครงการได้แจกใบปลิวให้ระวังโจรนินจาจะเข้ามาขโมยทรัพย์สินในบ้าน เพราะมีหลายหลังถูกปีนเข้าไปขโมยแล้ว โดยคนร้ายมีพฤติกรรมเลือกขโมยแต่ของมีค่าสินเล็กๆ ที่สามารถพกติดตัวไปได้ง่าย เช่น ทอง เครื่องประดับมีค่า นาฬิกา แต่จะไม่แตะประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ โน้ตบุ๊ก แต่อย่างใด
จากนั้นตนเริ่มมาเอะใจ จึงไปตรวจสอบกล่องใส่ทองที่เก็บไว้ในตู้ ก็พบว่าสร้อยคอทองคำ สร้อยข้อมือทองคำ เหรียญพระทองคำ พระเลี่ยมทอง และเงินในซองแต๊ะเอียอีกจำนวนหนึ่ง ได้หายไปจากกล่องเก็บแล้ว โดยคนร้ายได้วางกล่องเก็บทองไว้ที่เดิม ซึ่งถ้าตนไม่ได้เปิดออกดูก็จะไม่รู้ว่าของข้างในกล่องถูกขโมยหายไปแล้ว มูลค่าเกินแสนกว่าบาท และยังไม่มีสวี่แววว่าจะสามารถจับกุมโจรนินจาที่ก่อเหตุรายนี้มาดำเนินคดีได้เลย แม้เวลาล่วงเลยมาเป็นเดือนกว่าแล้ว แต่ยังคงมีข่าวว่าโจรนินจายังคงอาละวาดไปขึ้นบ้านหลังอื่นๆ ในโครงการอีก จนภรรยาของตนรู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน จนอยากประกาศขายบ้านหลังนี้ทิ้งเพื่อหนีโจรนินจารายนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการลงพื้นที่พบผู้เสียหายที่ถูกโจรนินทารายนี้ย่องเบาเข้าตระเวนทรัพย์สินมีค่า พบว่าพฤติกรรมของโจรนินจารายนี้ จะเลือกลงมือในบ้านพักที่ไม่มีคนอยู่อาศัยหรือเพิ่งเดินทางออกจากบ้านราวกับรู้ความเคลื่อนไหวของเจ้าของบ้านเป็นอย่างดี จากนั้นจะใช้วิธีการปีนป่ายขึ้นไปที่ชั้นสองของตัวบ้าน เพื่อหลบเลี่ยงสัญญาณกันขโมยที่บริเวณชั้นล่างของตัวบ้านที่มีติดไว้ทุกหลังอย่างเชี่ยวชาญ หากพบว่าบ้านหลังไหนมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดที่ชั้นล่างเพิ่ม โจรนินจารายนี้ก็จะทำการถอดเอาเมมโมรี่การ์ดออกไปด้วย