กระบะสุดห้าว! ขับปาดหน้าชักปืนปลอมขู่ สุดท้ายเจอตอ คู่กรณีเป็น "พันตำรวจโท"
กระบะขับปาดหน้าชักปืนปลอมขู่ สุดท้ายคู่กรณีเป็นพันตำรวจโทสั่งลูกน้องตามถึงบ้าน เผยมีปืนอยู่กับตัวแต่ไม่แลกด้วย
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่าวันนี้(18 ก.พ.64) พบผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Thitiwat.police” โพสต์ภาพและคลิปวิดีโอพร้อมบอกเล่าเรื่องราวขณะที่ขับรถยนต์ตามหลังรถกระบะที่มีการติดตั้งโครงเหล็กด้านหลังเพื่อใช้ในการขนส่งผลผลิตการเกษตร บนถนนมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ ในเขตอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งปรากฏว่าคนขับรถกระบะได้ยื่นมือที่ถือปืนอยู่ออกมานอกตัวรถลักษณะที่ทางคล้ายการข่มขู่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้จอดรถติดไฟแดงคู่กัน แล้วจังหวะออกตัวอาจจะทำให้คนขับกระบะไม่พอใจ จึงแสดงท่าทีดังกล่าว
อย่างไรก็ตามทางผู้โพสต์ที่ขับตามหลังเลือกที่จะไม่เผชิญหน้าทั้งที่มีอาวุธปืนเช่นกันและใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกภาพ พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการต่อไป และนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาโพสต์เตือนสติและเป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนน
ทั้งนี้ผู้โพสต์บรรยายข้อความว่า “เมื่อ 2 วันก่อนขับรถไปแถวอำเภอแม่แตงจอดติดไฟแดงคู่กับรถรั้วตามภาพ พอไฟเขียวปุ๊ปเราก็เร่งเครื่องออกตัวพ่อคุณก็เร่งตามเหมือนจะท้าแข่งเรา พอแซงเราได้ก็ดันมาปาดหน้าแถมชักปืน(ปลอม) ออกมาขู่เหมือนว่าจะยิงเรา, หรือให้เราหวาดกลัว แหมพ่อคุณเราก็มีปืนนะแต่ไม่แลกด้วยหรอกเลยชักโทรศัพท์มาถ่ายภาพและวิดีโอไว้ แล้วโทรหาหัวหน้าป๊อปลูกน้องเก่าที่อยู่ตู้ตำรวจทางหลวงแม่แตงให้สกัด แต่มันเลี้ยวซ้ายไปทางอำเภอพร้าวไม่อยากตามเพราะมีผู้โดยสารหลายคนเขาตกใจกลัว แล้วจึงเช็กทะเบียนรถ แล้วก็ไปสวัสดีตอนบ่ายที่บ้าน พร้อมกับประสานสืบสวนแม่แตงรบกวนอัญเชิญพ่อคุณไปที่สภ.แม่แตง ทำการตรวจฉี่ปรากฏว่าเสพยาบ้ามา (ลูกค้าเก่าสืบสวนแม่แตง) เลยถูกดำเนินคดีไปตามกฎหมาย เข็ดรึเปล่าไม่รุ้แต่ก็ไม่ควรกระทำพฤติกรรมแบบนี้ในสังคม ขอเตือน ถ้าเป็นคนอื่นมีปืนเหมือนกันอาจจะจบแบบไหนไม่อยากคิด”
ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีผู้ใช้โซเชียลมีเดียต่างพากันแชร์และแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก พร้อมทั้งชื่นชมผู้โพสต์ที่มีสติควบคุมอารมณ์ได้เป็นอย่างดี
โดยจากการตรวจสอบทราบว่ าผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Thitiwat.police” คือ พันตำรวจโทธิติวัฒน์ ชาญชัยจิรโรจน์ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ3วันก่อน ระหว่างที่ตัวเองเดินทางกลับจากไปทำธุระที่เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์นั้น ได้จอดรถติดไฟแดงคู่กับรถกระบะคันดังกล่าว พอได้สัญญาณไฟเขียวตัวเองได้ขับรถออกตัวนำรถกระบะคันดังกล่าว แต่ปรากฏว่าทำให้ทางฝ่ายคนขับรถกระบะไม่พอใจและเร่งเครื่องขับแซงแล้วปาดขับขวางหน้า พร้อมทั้งมีการยื่นมือที่ถือปืนไว้ออกมานอกรถด้วยลักษณะเหมือนเป็นการข่มขู่ ซึ่งที่จริงแล้วตัวเองมีอาวุธปืนอยู่ในรถเช่นกัน แต่ไม่ได้คิดจะตอบโต้หรือเผชิญหน้าใดๆ พร้อมทั้งเลือกที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกภาพไว้แทน และแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินการต่อไป
ขณะที่สุดท้ายทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามตัวผู้ก่อเหตุเป็นผู้ชายคนที่ขับรถกระบะ จนพบที่บ้านพักในพื้นที่อำเภอแม่แตง พร้อมตรวจสอบพบปืนที่ใช้ในวันก่อเหตุ ซึ่งปรากฏว่าเป็นปืนปลอม นอกจากนี้เนื่องจากมีท่าทางพิรุธและตรวจสอบประวัติพบเคยถูกจับกุมดำเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติด ในพื้นที่รับผิดชอบของสถานีตำรวจภูธรแม่แตงมาแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการขอตรวจปัสสาวะ ซึ่งพบว่าเป็นสีม่วงจากการเสพยาเสพติด จึงควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้เรื่องราวที่ตัวเองนำไปโพสต์นั้น เนื่องจากเห็นว่าพฤติกรรมของคนขับรถกระบะถือว่าไม่เหมาะสมและอาจจะนำไปสู่ความรุนแรงได้ เพราะในเหตุการณ์วันนี้หากเป็นคนอื่นที่มีปืนเหมือนกันแต่ไม่ใช่ตัวเองอาจจะเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้นได้ จึงหวังให้เป็นอุทาหรณ์เตือนสติคนขับขี่ใช้รถใช้ถนนร่วมกันว่าต้องมีสติและไม่ใช้อารมณ์