กู้ภัยพลาดถูกงูจงอางยาว 4 เมตร งับแขน โดนเขี้ยวแค่ถากๆ พิษเข้ากระแสเลือดสาหัส

กู้ภัยพลาดถูกงูจงอางยาว 4 เมตร งับแขนขณะกำลังจับใส่กระสอบ เผยโดนเขี้ยวแค่ถากๆ แต่อาการสาหัสหวิดดับ

(18 ก.พ.64) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ รพ.กระบี่ หลังรับแจ้งจากทีม เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิกระบี่พิทักษ์ประชา ว่ามี จนท.ของกู้ภัยออกปฏิบัติหน้าที่ไปช่วยจับงูจงอาง ที่เลื้อยเข้าไปในแคมป์คนงานก่อสร้างในพื้นที่ ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ เมื่อคืนวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา แล้วเกิดพลาดมือไปโดนคมเขี้ยวของงูจงอาง ทำให้พิษงูเข้าสู่กระแสเลือด ต้องรีบนำตัวส่งเข้าไปรักษาที่ รพ.กระบี่ โดยผู้ที่ได้รับบาดเจ็บรายดังกล่าวคือ นายวีระพันธ์ สว่างแสง อายุ 57 ปี นอนพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องผู้ป่วยศัลยกรรมชาย รพ.กระบี่

โดยเจ้าตัวเข้ารับการรักษาตั้งแต่คืนเกิดเหตุ ผ่านมาแล้วประมาณ 3 วัน พบว่าอาการบาดเจ็บเริ่มดีขึ้น แต่แขนด้านขวาที่ถูกเขี้ยวของงูจงอาง บริเวณใกล้ข้อมือ ยังมีอาการบวมทั้งแขน แพทย์ต้องผ่าตัดเปิดแผลเพื่อทำความสะอาดไม่ให้เกิดการติดเชื้อ และกำจัดพิษที่ปนอยู่ในเลือดออกมา ซึ่งตัวนายวีระพันธ์ ยังอยู่ในอาการอ่อนเพลียยังไม่พร้อมจะพูดคุย ซึ่งทางแพทย์จะทำการผ่าตัดอีกครั้งในวันที่ 19 ก.พ.นี้ เพื่อรักษาบาดแผล

สอบถามในเบื้องต้น นายวีระพันธ์ ไม่ได้ถูกงูฉกเข้าเต็มๆ แค่เพียงถูกคมเขี้ยวถากเข้าบริเวณข้อมือเป็นแผลคล้ายแผลถลอกยาวไม่ถึง 1 ซม. แต่ใกล้กันก็มีรอยคล้ายรูเขี้ยวอยู่ 1 รู คาดว่าเป็นเหตุให้พิษแล่นเข้าสู่กระแสเลือด แต่โชคดีที่ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาได้อย่างรวดเร็ว เพราะพิษของงูจงอาง อาจจะทำให้ได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

นายลายคราม สว่างแสง ลูกชายของคนเจ็บ และเป็น จนท.กู้ภัย ซึ่งเดินทางไปในคืนเกิดเหตุด้วย เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่พ่อ พร้อมด้วยตนและ จนท.กู้ภัยอีก 2 คน เดินทางไปจับงูจงอาง ที่แคมป์คนงานก่อสร้าง ซึ่งพบว่างูตัวที่ไปจับ เป็นงูจงอางที่มีขนาดใหญ่ ยาวกว่า 4 เมตร มีลำตัวอ้วน ทำให้เป็นงูที่ค่อนข้างมีกำลังมาก และดุร้าย โดยหลังจากจับงูไว้ได้แล้ว พ่อของตนกำลังนำงูใส่ลงไปในกระสอบที่ใช้ใส่งู ซึ่งจังหวะดังกล่าว งูพยายามดิ้นขัดขืนตลอดเพราะเป็นงูขนาดใหญ่ มีกำลังมาก จังหวะที่พ่อกำลังสลับมือเพื่อจะจับส่วนหัว จะนำมือออกจากกระสอบ ปรากฎว่างูสะบัดหัวหลุดและหันมาพยายามจะฉกเข้าที่มือ แต่พอของตนรีบดึงมือออกมาทำให้ไม่ถูกฉกแบบเต็มๆ แต่ถูกเขี้ยวแบบถากๆ ที่ใกล้ข้อมือ ซึ่งทีแรกก็ไม่คิดว่าจะอันตราย

แต่ระหว่างกำลังนั่งรถกลับเข้ามาที่ศูนย์กู้ภัย ปรากฎว่าพ่อเริ่มมีอาการสลึมสลือ เริ่มไม่ได้สติ การเต้นของชีพจรเริ่มตก ตนจึงรีบพาตัวพ่อไปส่งที่ รพ.กระบี่ ทันที เพื่อให้แพทย์ช่วยรักษา เนื่องจากเชื่อว่าเป็นอาการถูกพิษของงูแน่นอน ซึ่งอาการตอนแรกถือว่าน่าเป็นห่วง เพราะพิษเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้แขนเริ่มมีสภาพเป็นสีดำ เส้นเลือดที่แขนเป็นสีดำ แต่ทีมแพทย์ รพ.กระบี่ ช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ตอนนี้อาการอยู่ในขั้นปลอดภัยแล้ว

ขณะที่นายเกียรติกมล กังแฮ จนท.ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของมูลนิธิ กล่าวด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องยอมรับว่าเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิด ซึ่งต้องถือเป็นบทเรียนที่ จนท.ผู้ปฏิบัติงานทุกคนต้องจำไว้ ในการออกปฏิบัติหน้าที่จับสัตว์มีพิษ ต้องระมัดระวังตลอดเวลา โดยเฉพาะสัตว์มีพิษจำพวกงู จะมีพิษค่อนข้างรุนแรง แม้แต่ผู้ที่ผ่านการฝึกฝนในเรื่องการจับงูพิษมาแล้วอย่าง เจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บ ยังมีโอกาสพลาดได้ และที่สำคัญอยากเตือนประชาชนทั่วไป ให้คอยระมัดระวัง หากพบเห็นงูพิษ หรือสัตว์มีพิษ อย่าได้เข้าใกล้อย่างเด็ดขาด ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ที่มีความชำนาญมาช่วยจับให้

หรือหากประชาชนคนใด ถูกงูพิษฉกกัด ขอให้รีบนำตัวส่ง รพ.อย่างรวดเร็วที่สุด ที่สำคัญต้องมีสติ อย่าตื่นตกใจเพราะจะเป็นการไปกระตุ้นให้เลือดสูบฉีดทำให้พิษแล่นเข้าสู่กระแสเลือดได้เร็วขึ้น อีกอย่างที่ต้องจำให้ขึ้นใจคือ ต้องจดจำงูพิษที่ฉกกัดเราให้ดีว่าเป็นงูอะไร หากไม่รู้จักให้จดจำลักษณะเด่นของงูไว้ แล้วแจ้งให้แพทย์ หรือพยาบาลรู้ จะเป็นการรักษาได้อย่างถูกต้องที่สุด