ไอ้โหดมือหั่นขอขมารูปศพ น้องโช
ระบุชาติหน้ามีจริงขอให้เกิดมาเป็นลูกจะดูแลอย่างดีเพื่อไถ่โทษ ยันลงมือเพียงคนเดียว ปัดเป็นคำสั่งแก๊งยากูซ่า
วันนี้ (15 ต.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. ได้เดินทางมาที่ สน.ตลิ่งชัน เพื่อเรียกประชุมร่วมกับพนักงานสอบสวน ก่อนเปิดเผยว่า เมื่อเช้าตื่นขึ้นมาอ่านข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์ มีประเด็นแก๊งยากูซ่าด้วย ขอเรียนว่า สำหรับคดีนี้พนักงานสอบสวนคงจะทำการสอบสวนไปตามกระแสไม่ได้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นวันพรุ่งนี้ อาจจะมี แก๊งยามาฮ่า คาวาซากิ หรือแก๊งฮอนด้า ขึ้นมาใหม่อีก ส่วนเรื่องรอยสักนั้น ตนถามผู้ต้องหาแล้วว่าไปสักมาจากไหน เจ้าตัวก็ตอบว่า สักที่สนามหลวง และยังไม่ปรากฏว่าการฆาตกรรมนั้นไปเกี่ยวข้องกับแก๊ง ก๊วน หรือก๊ก ส่วนทางการสอบสวนยังไม่ชี้ไปตรงนั้น ถึงขณะนี้สรุปได้เลยว่ายังไม่เกี่ยวกับแก๊งไหน
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวต่อว่า ส่วนในการสอบสวนของพนักงานสอบสวนนั้น จะทำสำนวนตามพยานหลักฐานที่พบ แต่ไม่ใช่ว่าจะเชื่อคำรับสารภาพไปทั้งหมด โดยผู้ต้องหาร้องขอที่จะพูดความในใจผ่านสื่อและขอขมาศพของน้องโช แต่ไม่ประสงค์จะขอขมาศพ นางสุนันท์ ซึ่งสิ่งนี้ก็ชี้ให้เห็นว่าผู้ต้องหายังไม่หายโกรธแค้น นางสุนันท์ ซึ่งจะให้ผู้ต้องหาไปขอขมาศพคงไม่เหมาะ ทางตำรวจจะให้ขอขมากับรูปน้องโชแทน ซึ่งคดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะคัดค้านการประกันตัวอย่างแน่นอน เพราะคดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์
ส่วนพ่อของน้องโชทางเราพยายามติดต่ออยู่ แต่ยังติดต่อไม่ได้ เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าทำธุรกิจอะไร ในส่วนสาเหตุการฆ่านั้น ต้องมีส่วนมาจากการโกรธแค้นแน่นอน แต่จะประสงค์ต่อทรัพย์หรือไม่นั้น ต้องเป็นอีกประเด็นหนึ่ง
ต่อมาเวลา 11.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญ นางสุพานีย์ กาญจนชูมณ แม่ของนายศิริพงษ์ มาพบตัวนายศิริพงษ์ ที่ห้องประชุมชั้น 3 ของ สน.ตลิ่งชัน ซึ่งเมื่อทั้งคู่พบหน้ากันก็ร่ำไห้โผเข้ากอดกันทันที ก่อนที่นายศิริพงษ์ จะก้มลงกราบเท้านางสุพานีย์ โดยนางสุพานีย์ บอกกับ นายศิริพงษ์ว่า อย่าคิดมาก แม่อโหสิกรรมให้ลูก แม่จะไม่ทอดทิ้งลูกแน่นอน จะไปเยี่ยมบ่อยๆ ไม่ต้องห่วงเรื่องข้างนอก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลูกหรือเรื่องอื่น แม่จะดูแลให้ ขอให้ลูกไปใช้กรรมในคุก และอยู่ในนั้นก็ให้ทำตัวดีๆ นั่งสมาธิอุทิศส่วนกุศลให้กับคนตายด้วย
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำดอกไม้ธูปเทียนมาให้นายศิริพงษ์ไหว้ขอขมาต่อ หน้ารูปศพของน้องโช โดยนายศิริพงษ์ได้กล่าวกับรูปศพน้องโชทั้งนองตานองหน้าว่า "ข้าพเจ้านายศิริพงษ์ กาญจนนิวิฐ ได้ทำผิดต่อ น้องโช วันนี้จึงได้มาขอขมาต่อหน้าภาพถ่ายตัวแทนน้องโชที่ล่วงลับไปแล้ว น้องโชเป็นเด็กดี เป็นเด็กฉลาด เป็นเด็กน่ารัก น้องโชมีอนาคตที่ดี แต่ต้องมาจบชีวิตเพราะน้ำมือผม ถ้าชาติหน้ามีจริงก็ขอให้น้องโชให้อภัยกับลุงใหญ่ และกลับเกิดมาเป็นลูกของลุงใหญ่ เพื่อที่ลุงใหญ่จะได้ตอบแทนน้องโช เหมือนกับที่ลุงใหญ่ได้ดูแลลูกของลุงใหญ่เองในชาตินี้ ที่ลุงใหญ่ได้ดูแลเป็นอย่างดี หวังว่าวิญญาณน้องโชคงไปสู่สุขคติ ลุงใหญ่ขอโทษ และขออโหสิกรรมให้กับน้องโช"
นายศิริพงษ์ กล่าวด้วยว่า ตนรู้สึกผิดกับน้องโชที่ต้องมาโดนลูกหลงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ทำไปเพราะความโกรธแค้น และโดนกดดันมาโดยตลอด ถ้าไม่ทำก็อาจจะถูกเก็บ เมื่อสองเดือนก่อนหน้านี้ก็ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.บางบัวทอง เรื่องที่ตนโดนข่มขู่มาโดยตลอด ยืนยันว่าลงมือทำเพียงคนเดียว ไม่ใช่เรื่องชองทรัพย์ ไม่ใช่คำสั่งของแก๊งยากูซ่าเหมือนตกที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ส่วนรอยสักนั้น ตนไปสักมาจากสนามหลวง ทั้งนี้ ปกติตนเป็นคนยิงปืนแม่น แต่ที่ตัดสินใจยิงไม่ยั้งนั้น เป็นไม่ได้หันไปมอง ถ้าผมตั้งใจยิง แค่นัดเดียวคุณสุนันท์ ก็ตายแล้ว และน้องโชก็คงไม่ต้องมาเสียชีวิต ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ตนก็ไม่พบเจอคุณสุนันท์เลยดีกว่า
ด้านนางสุพานีย์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เคยเจอกับนางสุนันท์มาก่อน แต่ไม่ค่อยสนิทอะไรมาก มารู้เรื่องอีกทีก็วันที่ลูกชายโทรมาหาแล้วเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง พอตนก็รู้เรื่องก็รู้สึกตกใจและเสียใจเป็นอย่างมาก แต่ขณะนั้นกลังปฏิบัติธรรมถือศีลอยู่ จึงรับฟังรายละเอียดของเหตุการณ์ทั้งหมดไว้ได้ พร้อมขอร้องให้ลูกชายไปมอบตัวกับตำรวจ โดยลูกชายได้ฝากฝังลูกไว้กับตนด้วย ซึ่งตนก็รับปากจะดูแลให้ จากนั้นในเวลา 13.15 น.เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายศิริพงษ์ ไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดาต่อไป โดยนายศิริพงษ์ ยิ้มแย้มอย่างเห็นได้ชัด