ตำรวจหนุ่มแต่งงานซ้อน ยอมพูดแล้ว ขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียว ต้นสังกัดสั่งสอบวินัยแล้ว

ตำรวจหนุ่มแต่งงานซ้อน ยอมพูดแล้ว ขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียว ต้นสังกัดสั่งสอบวินัยแล้ว

ตำรวจหนุ่มแต่งงานซ้อน ยอมพูดแล้ว ขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียว ต้นสังกัดสั่งสอบวินัยแล้ว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีที่นางนิภาพรรณ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ถือทะเบียนสมรสเข้าไปบุกงานแต่งของบ่าวสาวคู่หนึ่ง โดยระบุว่าฝ่ายชายคือสิบตำรวจเอก อายุ 34 ปี ตำรวจ สภ.เมืองชัยนาท สามีของเธอ ที่จดทะเบียนสมรสและอยู่กันกันมา 16 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน แต่แอบมาแต่งงานกับสาวอื่น จนเกิดภาพที่มีการโต้เถียงกับฝ่ายชาย ที่เธอระบุว่าเป็นสามีแต่ฝ่ายชายและเจ้าสาวกลับทำท่าทีไม่รู้ร้อนรู้หนาว และไล่เธอออกจากงาน ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้า วันที่ 18 ก.พ. 2564 ที่ผ่านมานั้น

ล่าสุดเวลา 14.00 น. วันที่ 19 ก.พ. 2564 ทีมข่าวสามารถติดต่อพูดคุยทางโทรศัพท์กับตำรวจหนุ่มนายนี้ เนื่องจากยังไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์แบบซึ่งหน้า โดยทางตำรวจหนุ่ม เปิดเผยว่า ในเรื่องความวุ่นวายที่เกิดขึ้นทั้งหมด ตนเองที่เป็นคนผิด ตนเป็นคนก่อปัญหา ตนขอยืดอกรับผิดอย่างลูกผู้ชาย และขอร้องว่าอย่าไปโทษหรือด่าฝ่ายเจ้าสาว เพราะเค้าไม่รู้เรื่องอะไรด้วย ถ้าอยากด่า อยากโทษ ให้มาด่ามาโทษตนพียงคนเดียว เพราะทุกวันนี้ทุกคนก็เครียดและอับอายมากพอแล้ว

ส่วนในเรื่องที่จะกลับไปคืนดีหรือปรับความเข้าใจกับภรรยาหรือไม่ ได้รับคำตอบว่าเมื่อเหตุการณ์บานปลายมาขนาดนี้ ตนเองขออยู่เป็นคนกลาง อยู่ตรงกลาง เลือกที่จะไม่อยู่กับใครทั้งสิ้น ส่วนลูกสาวทั้ง 2 ตน ตนเองยืนยันว่าจะส่งเสียเลี้ยงดูอย่างดีตามหน้าที่ของพ่ออย่างสุดกำลัง

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ทางร้ายทองในห้างสรรพสินค้าในเมืองชัยนาท ที่เจ้าสาวตามคลิปทำงานอยู่ ได้มีคำสั่งพักงานพนักงานรายดังกล่าวโดยไม่มีกำหนดมีผลตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา เป็นที่เรียบร้อย

อีกด้านหนึ่ง ทีมข่าวอีจันได้เดินทางไปยัง สภ.เมืองชัยนาท เพื่อสอบถามความคืบหน้า โดย พ.ต.อ.ปฏิกรณ์ หาญหัตถกิจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองชัยนาท ยังขอไม่ให้สัมภาษณ์ แต่เปิดเผยข้อมูลสั้นๆว่า วันนี้ ตำรวจหนุ่มคนที่เป็นข่าวดังกล่าว วันนี้ลาราชการ ไม่ได้เดินทางมาทำงาน และขณะนี้ได้รับทราบเพียงข้อมูลจาก การนำเสนอข่าวเท่านั้น ยังไม่มีข้อมูลอะไรมาก

ขณะเดียวกันหน่วยงานต้นสังกัด คือ สภ.เมืองชัยนาท ได้มีการตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว หลังจากนี้ก็จะเรียกฝ่ายชายที่เป็นตำรวจ และฝ่ายหญิงซึ่งเป็นภรรยาที่มีทะเบียนสมรส มาสอบสวนข้อเท็จจริง ตรวจสอบเอกสาร ใบทะเบียนสมรส เรื่องนี้ไม่ใช่คดีอาญา แต่เป็นความผิดทางวินัย ต้องดูว่าเข้าระเบียบข้อไหน ถึงขั้นจะไล่ออกจากราชการหรือไม่ แต่หากถามว่าผิดหรือไม่ ตอบได้เลยว่าผิด แล้วขั้นตอนจากนั้นก็จะรายงานให้ผู้บังคับบัญชาได้รับทราบต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook