อดีตพระแสบ เอาบัญชีเจ้าอาวาสไปสมัครแอปฯ ผูกเบอร์ตัวเอง แอบโอนเงินไปร่วมล้านบาท
หลวงพ่อเจ้าอาวาส วัดอู่ยา ช้ำใจถูกอดีตพระลูกวัดที่ลาสิกขาไปแล้ว ใช้เอกสารหลวงพ่อสมัครแอปฯ ธนาคาร โอนเงินของหลวงพ่อและเงินกฐินเกือบล้านบาท ที่เตรียมจ่ายค่าก่อสร้างพระหลวงพ่อโสธรสันติสุข เนื้อทองเหลืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไปจนเกลี้ยง เหลือติดบัญชีแค่ 14 บาท
ที่ จ.สุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุพรรณบุรี รับแจ้งจาก นายณัฐธัญพงศ์ จิตต์ใจฉ่ำ กำนันตำบลดอนกำยาน ว่า เจ้าอาวาสวัดอู่ยาถูกอดีตพระลูกวัดใช้แอปฯ โอนเงินจากบัญชีหลวงพ่อไปกว่าล้านบาท หลังรับแจ้ง ร.ต.อ.ศุภกร สุดอารมณ์ รอง สวป.สภ.เมืองสุพรรณบุรี นำกำลังเข้าตรวจสอบร่วมกับนายก อบต.ดอนกำยาน กรรมการวัดอู่ยา และผู้ใหญ่บ้าน พบหลวงพ่อพระครูวิมลปริยัตยาภรณ์ (หลวงพ่อทองสุขอินทร์ประเสริฐ) อายุ 89 ปี เจ้าอาวาส พระมหากมลกตปฺโญ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส และพระลูกวัดกำลังนั่งจับกลุ่มคุยกันอยู่ในศาลา
จากการสอบถามพระสมภพกิตติภฺโท พระลูกวัดเล่าว่า เมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา อาตมาและคนขับรถวัดได้พาเจ้าอาวาส ไปเบิกเงินที่ธนาคารกรุงไทย ต้องการเบิกเงินจำนวน 890,000 บาทเพื่อจะนำไปจ่ายค่าก่อสร้างหลวงพ่อพุทธโสธรสันติสุข เนื้อทองเหลืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แต่ต้องตกใจแทบช็อก เมื่อได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ธนาคารว่า ไม่สามารถถอนเงินจำนวนดังกล่าวได้ เนื่องจากเงินถูกถอนออกไปผ่านทางแอปฯ มือถือไปหมดแล้วเหลือเงินอยู่ในบัญชีแค่ 14 บาทเท่านั้น
พระสมภพกิตติภฺโท ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ธนาคารว่า หลวงพ่อเจ้าอาวาส ไม่ได้ใช้แอปฯ หลวงพ่อเล่นโทรศัพท์ไม่เป็น เจ้าหน้าที่ธนาคารบอกว่า มีคนใช้แอปฯ เบิกเงินหลวงพ่อไปหมดแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารจึงตรวจสอบข้อมูลให้ พบว่ามีคนใช้แอปฯ โอนเงินจากบัญชีส่วนตัวของหลวงพ่อ ครั้งแรก 200,000 บาท จากนั้นมีการโอนต่อเนื่องครั้งละ 100,000 บาท เรื่อยมา ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นเงินกฐินที่ญาติโยมร่วมกันทำบุญจำนวน 890,000 บาท ที่หลวงพ่อได้นำมาฝาก รวมกับบัญชีส่วนตัวที่ใช้รับเงินกิจพัฒน์ อีกเดือนละ 3,000 บาท ตั้งแต่ปี 2560 ก็ถูกโอนออกไปจนหมดบัญชี
เมื่อสืบสาวราวเรื่อง ย้อนไปเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2560 หลวงพ่อได้ไปเบิกเงินจำนวน 15,000 บาท ที่ธนาคารกรุงไทย โดยมี นายธนากร ธนประณีต อดีตพระลูกวัดอู่ยา ซึ่งบวชอยู่ที่วัดอู่ยามากว่า 5 ปี จนได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นถึงพระมหา ขณะที่บวชอยู่วัด เป็นพระที่ขยันช่วยงานวัดทุกอย่าง ปรนนิบัติหลวงพ่อจนได้รับความไว้วางใจ ต่อมาได้คบหากับหญิงสาวคนหนึ่ง กระทั่งตกลงแต่งงาน จึงลาสิกขา
หลังจากลาสิกขาได้ไม่นานก็พาหลวงพ่อไปเบิกเงินขณะที่ทำเรื่องเบิกเงินอยู่ธนาคาร ได้มาขอเอกสารบัตรประจำตัวหลวงพ่อ อ้างว่าทางธนาคารขอ จากนั้นได้ไปสมัครแอปฯ ธนาคาร โดยผูกหมายเลขบัญชีกับเบอร์โทรศัพท์ของตัวเอง หลังจากนั้นก็แอบโอนเงินเดือนของหลวงพ่อเรื่อยมา โดยที่หลวงพ่อไม่ได้เฉลียวใจ
กระทั่งเมื่อวันที่ 18 ก.พ.64 หลวงพ่อได้ไปเบิกเงินจำนวน 890,000 บาท เพื่อนำมาจ่ายค่าก่อสร้างพระพุทธโสธร ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเกือบ 2,000,000 บาท และได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ธนาคารว่าเงินไม่เหลือแล้ว จึงเรียกกรรมการวัด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต. มาร่วมหารือกันว่าจะทำอย่างไรดี
ล่าสุด พระมหากมลกตปฺโญ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส ได้โทรศัพท์ติดต่อไปที่ นายธนากร ธนประณีต หรือเจ เจ้าตัวยอมรับว่าเป็นคนโอนเงินหลวงพ่อไปจริง แต่จะขอผ่อนจ่ายให้เดือนละ 10,000 บาท แต่ทางวัดไม่ยอม จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจให้ติดตามตัวมาดำเนินคดี
สำหรับเงินจำนวนกว่า 1,350,000 บาทที่นายธนากร ใช้แอปฯ โอนจากบัญชีของหลวงพ่อไปเข้าบัญชีตัวเอง ก่อนจะเบิกออกไป ได้นำไปเป็นค่าสินสอดขอสาวแต่งงาน และนำไปดาวน์บ้านและรถยนต์ป้ายแดง ขณะนี้นายธนากร หรือเจ ได้ไปทำงานอยู่ที่โรงงานแห่งหนึ่งในเขต จ.ปทุมธานี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามตัวมาสอบสวนดำเนินคดีต่อไป