"ส.ส.เจี๊ยบ" ฟ้องกลับ "แรมโบ้" ใช้ ม.112 ปิดปากฝ่ายค้าน ทั้งที่มีอำนาจตรวจสอบตาม รธน.

"ส.ส.เจี๊ยบ" ฟ้องกลับ "แรมโบ้" ใช้ ม.112 ปิดปากฝ่ายค้าน ทั้งที่มีอำนาจตรวจสอบตาม รธน.

"ส.ส.เจี๊ยบ" ฟ้องกลับ "แรมโบ้" ใช้ ม.112 ปิดปากฝ่ายค้าน ทั้งที่มีอำนาจตรวจสอบตาม รธน.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย วิโรจน์ ลักขณาอดิศร​ โฆษกพรรค แถลงต่อสื่อมวลชนจากกรณีที่ สุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เตรียมดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 รวมถึงใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ต่อ อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล กรณีอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และใช้ถ้อยคำล้อเลียนสถาบันพระมหากษัตริย์ในเฟซบุ๊ก

อมรัตน์ กล่าวว่า จากที่ตนได้อภิปรายนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการทำหน้าที่ตามปกติในฐานะสมาชิกผู้แทนราษฎรพรรคร่วมฝ่ายค้าน ในการอภิปรายเพื่อตรวจสอบถ่วงดุลการทำงานของฝ่ายรัฐบาล ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ โดยจากข้อหาที่สุภรณ์ กล่าวอ้างว่าตนหมิ่นประมาทต่อ พล.อ.ประยุทธ์ และไปดำเนินคดีที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท. )

ทั้งนี้ อมรัตน์ มั่นใจว่าตนไม่มีเคยมีการโพสต์ล้อเลียนตามที่ สุภรณ์ กล่าวหา โดยตนได้ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของพรรคก้าวไกล พร้อมจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด เนื่องจากกรณีนี้เป็นการกระทำที่ใช้อคติของสุภรณ์ อย่ามากลั่นแกล้งรังแกกันในการใช้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ในการปิดปาก ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้านและประชาชนผู้เห็นต่าง และหลังจากนี้ตนจะรอตรวจสอบหนังสือคำร้องของสุภรณ์จากทาง ปอท. อีกครั้ง เพื่อความแน่ชัด และให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการทางคดีอย่างถึงที่สุด

ขณะที่ วิโรจน์ กล่าวว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นนั้น เป็นการกลั่นแกล้งในการใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ในการปิดปาก ส.ส.ฝ่ายค้าน ซึ่งอันที่จริงแล้วสิ่งที่ ส.ส.อมรัตน์ ปฏิบัติ เป็นหน้าที่ของ ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ตามญัตติที่เสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร และตามรัฐธรรมนูญ โดยเบื้องต้นฝ่ายกฎหมายของพรรคก้าวไกลได้ตรวจสอบ มีความเห็นว่าเป็นการตีความโดยใช้อคติของสุภรณ์ผู้ไปร้อง ซึ่งหลังจากนี้ต้องดูว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจรับคำร้องหรือไม่ และทางฝ่ายกฎหมายของพรรคจะดำเนินคดีต่อไป

อย่างไรก็ตาม วิโรจน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ทีมกฎหมายพรรคก้าวไกลจะดำเนินคดีต่อ สุภรณ์ ในข้อหาแจ้งความเท็จและหมิ่นประมาทตามมาตรา 177 และฝากถึงเจ้าหน้าตำรวจที่รับคำร้อง หากตรวจสอบแล้วว่าไม่เข้าข่ายว่าผิดตามที่สุภรณ์ร้องทุกข์ และหากเจ้าหน้าที่ยังดำเนินคดีต่ออมรัตน์ ทางฝ่ายกฎหมายพรรคก้าวไกลพร้อมดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เเละ 200 ในข้อหาจงใจใช้คดีอาญาเพื่อกลั่นแกล้งให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดต้องรับโทษ โดยจะฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook