ไทม์ไลน์ "กระเป๋ารถเมล์" สาย A3 สนามบินดอนเมือง-สวนลุมพินี ติดเชื้อโควิด

ไทม์ไลน์ "กระเป๋ารถเมล์" สาย A3 สนามบินดอนเมือง-สวนลุมพินี ติดเชื้อโควิด

ไทม์ไลน์ "กระเป๋ารถเมล์" สาย A3 สนามบินดอนเมือง-สวนลุมพินี ติดเชื้อโควิด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(19 ก.พ.64) คณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ออกประกาศแจ้งว่า จากการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุกในกลุ่มพนักงาน ขสมก. ณ อู่รังสิต เขตการเดินรถที่ 1 จังหวัดปทุมธานีพบว่า พนักงานเก็บค่าโดยสาร (กระเป๋ารถเมล์) รถปรับอากาศสาย A3 สนามบินดอนเมือง – สวนลุมพินี ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งรายละเอียดของประเทศทั้งหมดเป็นดังนี้

ตลอดระยะเวลาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 ที่ผ่านมา ขสมก. ได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามแนวทางปฏิบัติการป้องกันของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข อย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด

แต่ทั้งนี้ ขสมก. ขออภัยที่ต้องแจ้งให้ทราบว่า เนื่องจากเมื่อวานนี้ (18 ก.พ.) เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ได้นำรถพระราชทานเข้ามาตรวจเชิงรุก เพื่อหา เชื้อโควิด – 19 ให้กับพนักงานองค์การจำนวน 600 คน ณ อู่รังสิต เขตการเดินรถที่ 1 ปรากฏว่า

เมื่อวันนี้ (19 ก.พ.) เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ได้แจ้งให้เขตการเดินรถที่ 1 ทราบว่า ตรวจพบพนักงานเก็บค่าโดยสารรถปรับอากาศ สาย A3 (ปฏิบัติหน้าที่เก็บค่าโดยสารช่วงกะบ่าย) เพศหญิง จำนวน 1 คน ซึ่งมีที่พักอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านกฤษณา 1 ตำบลบางปรอก อำเภอเมืองฯ จังหวัดปทุมธานี ติดเชื้อโรคดังกล่าว จึงให้พนักงานรออยู่ที่บ้าน เพื่อให้รถพยาบาลนำไปรักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

ต่อมาเมื่อเวลา 16.30 น. วันนี้ ขสมก. ได้รับทราบข้อมูลดังกล่าว จากผู้อำนวยการเขตการเดินรถที่ 1 จึงได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 ดังต่อไปนี้

เปิดไทม์ไลน์ “กระเป๋ารถเมล์” ติดโควิด-19
1.ขสมก. ได้มีการแจ้งกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อแจ้งรายละเอียด กระเป๋ารถเมล์ ที่ ติดโควิด-19 ตามแนวทางปฏิบัติกรณีพบผู้ติดเชื้อฯ โดยได้ประสานเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดปทุมธานี

2.พนักงานผู้ติดเชื้อได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ โควิด-19 อย่างเคร่งครัด โดยสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาขณะปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ รวมทั้ง มีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ก่อนปฏิบัติหน้าที่ทุกครั้ง ซึ่งอุณหภูมิร่างกายของพนักงาน ตั้งแต่วันที่ 11 – 18 กุมภาพันธ์ 2564 อยู่ที่ 36.5 องศาเซลเซียส โดยไทม์ไลน์ของพนักงานสรุปได้ ดังนี้

  • 11 กุมภาพันธ์ 2564 ปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสารธรรมดา สาย 95 ก หมายเลข 1 – 50119 ตั้งแต่เวลา 13.30 – 16.30 น. หลังเลิกงานได้ไปที่ตลาดพรพัฒน์ และกลับที่พักอาศัย
  • 12 กุมภาพันธ์ 2564 ปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสารปรับอากาศ สาย 510 หมายเลข 1 – 70257 ตั้งแต่เวลา 13.15 – 20.35 น. หลังเลิกงานได้ไปที่ตลาดพรพัฒน์ และกลับที่พักอาศัย
  • 13 กุมภาพันธ์ 2564 ปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสารปรับอากาศ สาย A3 หมายเลข 1 – 70305 ตั้งแต่เวลา 13.40 – 21.55 น. หลังเลิกงานได้ไปที่ตลาดพรพัฒน์ และกลับที่พักอาศัย
  • 14 กุมภาพันธ์ 2564 ปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสารปรับอากาศ สาย A3 หมายเลข 1 – 70305 ตั้งแต่เวลา 14.20 – 22.40 น. หลังเลิกงานได้ไปที่ตลาดพรพัฒน์ และกลับที่พักอาศัย
  • 15 กุมภาพันธ์ 2564 ปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสารปรับอากาศ สาย A3 หมายเลข 1 – 70305 ตั้งแต่เวลา 13.30 – 22.20 น. หลังเลิกงานได้กลับที่พักอาศัยทันที
  • 16 กุมภาพันธ์ 2564 วันหยุดประจำสัปดาห์ พนักงานผู้ติดเชื้อได้พักผ่อนอยู่ที่บ้าน
  • 17 กุมภาพันธ์ 2564 ปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสารปรับอากาศ สาย A3 หมายเลข 1 – 70305 ตั้งแต่เวลา 14.15 – 22.20 น. หลังเลิกงานได้กลับที่พักอาศัยทันที
  • 18 กุมภาพันธ์ 2564 ได้รับการตรวจหาเชื้อไวรัส โควิด -19 หลังจากนั้นได้ปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสารปรับอากาศ สาย A3 หมายเลข 1 – 70305 ตั้งแต่เวลา 13.30 – 21.15 น. หลังเลิกงานได้กลับที่พักอาศัยทันที
  • 19 กุมภาพันธ์ 2564 ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ว่าพนักงานเป็นผู้ติดเชื้อ จึงให้ไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

3.พนักงานผู้ติดเชื้อได้ปฏิบัติหน้าที่ในช่วงกะบ่าย ซึ่งเป็นกะสุดท้ายของแต่ละวัน จึงไม่มีพนักงานขับรถคนใดนำรถไปขับต่อ อีกทั้ง เมื่อพนักงานขับรถนำรถกลับเข้าอู่เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจในแต่วัน จะมีการฉีดพ่นทำความสะอาดภายในรถโดยสารทันทีด้วยผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 70% จึงมั่นใจได้ว่ารถโดยสารขององค์การมีความสะอาด ปลอดภัยจากเชื้อไวรัส โควิด-19

นอกจากนี้ องค์การได้พักการใช้งานรถโดยสาร จำนวน 3 คัน ที่พนักงานผู้ติดเชื้อได้ปฏิบัติหน้าที่ ได้แก่ รถโดยสารธรรดา สาย 95 ก หมายเลข 1 – 50119, รถโดยสารปรับอากาศ สาย 510 หมายเลข 1 – 70257 และรถโดยสารปรับอากาศ สาย A3 หมายเลข 1 – 70305 เป็นระยะเวลา 3 วัน เพื่อทำการฉีดพ่นทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคภายในรถ รวมถึง อู่จอดรถ และท่าปล่อยรถโดยสาร

4.ขสมก. ได้มีการตรวจสอบ พบว่าพนักงานขับรถโดยสาร จำนวน 3 คน ปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสารคันเดียวกับพนักงานผู้ติดเชื้อ จึงให้พนักงานขับรถโดยสารดังกล่าว หยุดงานไปพบแพทย์ เพื่อตรวจหาเชื้อไวรัส โควิด-19 หากได้ผลเป็นประการใดจะแจ้งให้ทราบต่อไป

ทั้งนี้ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 ได้แก่ การสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาขณะปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร การล้างทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ การฉีดพ่นทำความสะอาดภายในรถโดยสารด้วยแอลกอฮอล์ ทั้งก่อนและหลังนำรถออกวิ่งให้บริการประชาชน

ประกาศ ณ วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook