พี่สาวโย ยศวดี รับชะตาท้องโย้ ผู้ชายไม่รับผิดชอบ
เอ - อัญชลี และโย - ยศวดี ร่วมเปิดใจถึงกรณีที่นางแบบคนพี่ ตั้งท้องได้ 4 เดือนครึ่ง
เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 15 ต.ค. ในงานอมาตย์ นิมิตภาคย์ ฉลอง 25 ปีชีวิตช่างภาพ จัดนิทรรศการ ภาพถ่าย The Naked Faces ที่ห้างเซน คู่นางแบบพี่น้อง เอ - อัญชลี หัสดีวิจิตร และ โย - ยศวดี หัสดีวิจิตร ร่วมเปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นางแบบคนพี่ เอ-อัญชลี ตั้งท้องได้ 4 เดือนครึ่ง โดยว่าที่คุณแม่ กล่าวว่า "ตอนนี้ถึงเวลาที่เอจะต้องเป็นคุณแม่ที่ต้องรับผิดชอบลูกคนเดียว"
นางแบบสาวคนพี่กล่าวว่า คนที่เอคบตอนนั้นเขาทำงานอยู่ที่รีสอร์ตภาคใต้ เคยเป็นข่าวออกมา ต่อมาเริ่มมีปัญหากัน และตอนนี้แยกทางกันเรียบร้อยแล้ว เราต้องยอมรับและรับผิดชอบในสิ่งที่มันเกิดขึ้นด้วยตัวของเราเอง ตอนนี้เตรียมตัวเป็นคุณแม่เหมือนกับคุณแม่คนอื่นๆ ทั่วไป ก็มีไปฝากท้องและอัลตราซาวด์แล้วเป็นผู้หญิง
ผู้สื่อข่าวถามว่า คุณพ่อเด็กทราบหรือเปล่าว่าตั้งท้อง นางแบบสาวกล่าวว่า เขาทราบดีทุกอย่าง ตนไม่โกรธ เพราะใครทำดีก็ได้ดี ตอนนี้เอทำดีที่สุดแล้ว เราเป็นลูกผู้หญิงคนหนึ่ง ถ้าเราจะต้องมารับผิดชอบสิ่งดีๆ ที่กำลังจะเกิดมาถือว่าเขามีค่ามหาศาล เอดูแลเขาได้ และยอมรับที่จะดูแลเขา จะเอาประสบการณ์ทุกอย่างสอนเขาให้ความรักเขามากที่สุด อยากให้เขาเป็นเด็กที่โตมาแล้วมีครบทุกอย่าง
"อย่าพูดถึงเรื่องเก่าดีกว่าค่ะ ต่อไปเอก็จะดูแลลูกของเอให้ดีที่สุด โดยที่มีโย มีคุณแม่ มีเพื่อนๆ ทุกคนที่ให้กำลังใจเอ เอรู้สึกว่าแค่นี้ก็พอแล้ว"
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า แม่ว่าอย่างไรบ้าง เอกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า "แม่ก็ให้กำลังใจ สุดท้ายครอบครัวของเราก็ต้องดูแลกันเอง และให้กำลังใจกัน แม่บอกสู้นะ"
ด้านน้องสาว โย - ยศวดี กล่าวว่า พี่และผู้ชายคนนี้คบกันมา 2 ปี แต่เลิกกันไปไม่กี่อาทิตย์เอง เรื่องนี้จริงๆ มันเป็นเรื่องของคนสองคน แต่ว่าพอมาถึงจุดหนึ่ง เราต้องเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงฝ่ายเดียว คำถามต่อไปก็คือผู้ชายไม่รับผิดชอบเหรอ ผู้ชายมีตัวตนหรือเปล่า โยว่าคนที่รู้ดีที่สุดคือตัวเขาสองคน แต่โยถือว่าพี่สาวโยเข้มแข็ง และทำดีที่สุดแล้ว โดยมีโยยืนอยู่ข้างๆ
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า ฝ่ายชายไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ เลยหรือ โยกล่าวทันทีว่า "ถึงตอนนี้ก็พูดได้อย่างนั้น"
ถามต่อว่า ให้กำลังใจพี่สาวอย่างไรบ้าง โยกล่าวว่า "ตอนแรกพี่เอค่อนข้างแย่ มันเพิ่งเกิดขึ้นกะทันหัน ที่อยู่ดีๆ มีอันต้องเปลี่ยนแผน แต่เราก็ต้องยอมรับการที่จะมีน้อง เป็นการตกลงใจของคนสองคนที่เขาอยากจะมี แต่เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งคิดจะไปก็ไปเฉยๆ โดยที่ไม่ได้คิดถึงจิตใจเขา โยว่าถึงตอนนี้พี่เอทำดีที่สุดแล้ว ให้ทุกคนเข้าใจตรงนี้ว่า สิ่งที่ถูกต้องบางครั้งก็ไม่ถูกต้องเสมอไปโลกของเราก็เป็นแบบนี้ แต่เราก็ได้ทำดีที่สุดสำหรับชีวิตใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นแค่นั้นเพียงพอ"