ชาวบ้านเก็บ "อ้วกวาฬ" ได้ริมหาดหัวไทร มั่นใจเป็นของแท้ หวังขายได้ราคางาม

ชาวบ้านเก็บ "อ้วกวาฬ" ได้ริมหาดหัวไทร มั่นใจเป็นของแท้ หวังขายได้ราคางาม

ชาวบ้านเก็บ "อ้วกวาฬ" ได้ริมหาดหัวไทร มั่นใจเป็นของแท้ หวังขายได้ราคางาม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2564 ที่หาดริมทะเล ท้องที่หมู่ 8 ตำบลหน้าสตน อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช มีรายงานว่าชาวบ้านในพื้นที่ได้เดินเล่นริมหาดแล้วพบกับ "อ้วกวาฬ" หรือที่เรียกอีกชื่อว่า "อำพันทะเล" ขนาดใหญ่อีกครั้ง หลังจากที่ผู้สื่อข่าวเข้าติดตามข้อมูลพบว่าผู้ที่พบอ้วกวาฬรายนี้คือ นางศิริพร เนียมรินทร์ อายุ 49 ปี ชาวตำบลหน้าสตน อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเมื่อรู้ว่ามีผู้สื่อข่าวเข้าติดตามข้อมูลนางศิริพร ได้นำเอาอ้วกวาฬ หรือที่เรียกอีกชื่อว่า อำพันทะเล ขนาดใหญ่ออกมาให้บันทึกภาพ

สำหรับก้อนวัตถุที่ถูกเชื่อว่าเป็นอ้วกวาฬ หรืออำพันทะเล ก้อนนี้มีขนาดใหญ่กว้างประมาณ 1 ฟุต ยาวประมาณ 2 ฟุตเศษมีทรงรี เนื้อคล้ายไขมันจับตัวมีกลิ่นคาวเล็กน้อย บางส่วนมีร่องรอยถูกเฉือนไปเล็กน้อยนางศิริพรระบุว่า ญาติได้เฉือนไปเก็บไว้เป็นที่ระลึก และระบุว่าเมื่อนำไปลนไฟก้อนวัตถุที่พบจะละลายเหมือนไขมันแต่เมื่อเย็นตัวลงจะจับตัวเป็นก้อนแข็งอีกครั้ง

นางศิริพร เนียมรินทร์ เจ้าของอ้วกวาฬก้อนนี้ระบุว่า ช่วงมรสุมที่กำลังพัดแรงราวต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้ไปเดินสำรวจริมหาดห่างออกไปจาบ้านประมาณ 500 เมตร พบก้อนอ้วกวาฬก้อนนี้ถูกคลื่นซัดมาติดชายหาด หลังจากนั้นจึงเก็บกลับมาไว้ที่บ้าน คนเฒ่าคนแก่ที่เคยเห็นระบุว่าเป็นอ้วกวาฬ หรือที่เรียกว่าอำพันทะเลอย่างแน่นอน เป็นสิ่งที่มีค่าหาได้ยากและมีราคาสูง น้ำหนักที่ชั่งได้หนักถึง 6.9 กิโลกรัม ครั้งแรกที่พบมีกลิ่นคาวคล้ายหมึก หรือปลาน้ำลึก แต่หลังจากนำมาเก็บไว้กลิ่นคาวเริ่มหายไป แต่ยังคงหลงเหลือกลิ่นอ่อนๆ

นางศิริพร ยังระบุด้วยว่าย่านตำบลริมทะเลของอำเภอหัวไทร ทั้งตำบลเกาะเพชร และตำบลหน้าสตน มีชาวบ้านริมทะเลพบก้อนวัตถุที่เชื่อว่าเป็นอ้วกวาฬ หลายรายอยากให้นักวิชาการหรือผู้ที่มีความรู้เข้าตรวจสอบวัตถุเหล่านี้ เบื้องต้นนั้นทราบว่าไม่มีบริษัทผู้รับซื้อในประเทศไทย ซึ่งหากเป็นวัตถุมีค่าจริงและสามารถประสานให้ผู้ซื้อมาเสนอราคาซื้อกับชาวบ้านพร้อมที่จะขายให้ จะสามารถช่วยสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านที่หาสิ่งของเหล่านี้ที่มากับคลื่นลมได้

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าช่วงฤดูมรสุมที่ผ่านมาได้มีการค้นพบวัตถุชนิดเดียวกันหลายครั้งโดยเฉพาะอำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช ยาวไปจนถึงอำเภอระโนด อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ต่างมีข้อมูลตรงกันว่าเป็นวัตถุที่มีค่าราคาแพงตกกิโลกรัมละกว่า 1 ล้านบาท แต่ในประเทศไทยยังไม่มีผู้ซื้ออย่างเป็นทางการ

อัลบั้มภาพ 7 ภาพ

อัลบั้มภาพ 7 ภาพ ของ ชาวบ้านเก็บ "อ้วกวาฬ" ได้ริมหาดหัวไทร มั่นใจเป็นของแท้ หวังขายได้ราคางาม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook