พ่อค้าอาวุธสงคราม หนีหายไป 9 ปี พบอีกทีโผล่ชายแดน ยิงตัวตายหลังโดนทหารปิดล้อม
ผู้ต้องหาอาวุธ หนีหายไป 9 ปี พบอีกทีโผล่ชายแดน ยิงปะทะเจ้าหน้าที่ ก่อนยิงตัวตายขณะโดนทหารปิดล้อม
(1 มี.ค.64) เจ้าหน้าที่ทหาร กองร้อยทหารม้าที่ 3 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง ภายใต้การอำนวยการของ พ.อ.สัมฤทธิ์ ฉัตรวัฒนาสกุล ผบ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง มอบหมายให้ ร.อ.พิสิฐ อภิเดช ผบ.ร้อย.ม.3 บก.ควบคุมที่ 2 ฉก.ม.3 พร้อมเจ้าหน้าที่ จำนวน 4 นาย นำโดย จ.ส.อ.นิคม เวชสุภา ได้ทำการลาดตระเวนตรวจตราชายแดนริมแม่น้ำสาย เขตบ้านเหมืองแดงใต้ หมู่ 1 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย พบบุคคลต้องสงสัย 1 คน ท่าทางมีพิรุธ จึงได้แสดงตัวเข้าขอตรวจค้น
แต่ผู้ต้องสงสัยขัดขืนและชักปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่จำนวน 3 นัด ก่อนจะวิ่งหนีไปหลบซ่อนตัวบริเวณท่ากะหล่ำ ท่าข้ามช่องทางธรรมชาติริมแม่น้ำสาย เจ้าหน้าที่จึงขอกำลังสนับสนุนมาปิดล้อมเพื่อทำการเข้าจับกุมผู้ต้องสงสัย ระหว่างทำการปิดล้อมได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีก 1 นัด เมื่อเข้าไปตรวจสอบพบว่าผู้ต้องสงสัยได้ยิงตัวเองเสียชีวิต จึงประสานพนักงานสอบสวน สภ.แม่สายดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
จากการตรวจสอบทราบว่าผู้ต้องสงสัยที่ยิงตัวเองเสียชีวิตคือ นายคำ หรือ นายปราชญา อายุ 53 ปี ชาว ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดีร่วมกันค้าอาวุธสงคราม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สาย เคยจับกุมนายสว่าง ใจแก้ว เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2555 หลังตรวจค้นบ้านในเขตตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย แล้วพบเครื่องยิงจรวด RPG จำนวน 12 กระบอก ลูกจรวด RPG จำนวน 9 ลูก ปืนเอ็ม 16 และปืนอาก้า พร้อมกระสุนและซองกระสุนอีกจำนวนหนึ่ง
โดยในครั้งนั้นผู้ต้องหาสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างจาก นายคำ หรือ นายปราชญา ให้ส่งอาวุธสงครามทั้งหมดไปให้กองกำลังชนกลุ่มน้อยในประเทศเพื่อนบ้าน แต่นายคำไหวตัวทันหลบหนีไปได้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปจับกุม และหายตัวไปตั้งวันนั้นจนกระทั่งมาพบว่ายิงตัวเองเสียชีวิตริมแม่น้ำสายดังกล่าว