เชียงใหม่ ฝุ่น PM 2.5 แย่อันดับ 4 ของโลก ดอยสุเทพหายไปไหนไม่มีใครทราบ
สถานการณ์หมอกควันจากไฟป่า และการเผาของจังหวัดเชียงใหม่เข้าสู่ช่วงวิกฤตอย่างต่อเนื่อง หลังจากคืนที่ผ่านมามีหมอกควันจากไฟป่า และการเผาลอยมาสะสมตัวในเขตพื้นที่ อ.เมืองชียงใหม่ ทำให้ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ของ จ.เชียงใหม่พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง
ด้านเว็บไซต์ iqair.com ที่รวมรวมสถิติของค่ามลพิษในอากาศจากทั่วโลก เผยว่า จ.เชียงใหม่พุ่งขึ้นมาเป็นเมืองอันดับที่ 4 ของโลกที่มีค่ามลพิษในอากาศสูง ดัชนีคุณภาพอากาศของเมืองเชียงใหม่อยู่ที่ระดับ 186 หรือสีแดง ส่วนอันดับ 1 เป็นของเมืองละฮอร์ ประเทศปากีสถาน
ขณะเดียวกัน ข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษพบว่าในจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเวลา 09.00 น. ที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ วัดฝุ่นละอองได้ 86 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนเครื่องวัดที่ ต.ศรีภูมิ อ.เมืองเชียงใหม่ วัดได้ 83 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และที่ดอยสุเทพ 98 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนที่ โรงพยาบาลเทพรัตนฯ อ.แม่แจ่ม วัดได้ 98 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ฝุ่นละอองในอากาศปริมาณมาก ทำให้ประชาชนเริ่มได้รับผลกระทบรู้สึกได้ถึงอาการแสบตา แสบคอ และแสบจมูก ส่วนดอยสุเทพที่อยู่ทางด้านตะวันตกของตัวเมืองเช้านี้ถูกหมอกควันหนาทึบบดบังจนมองเห็นไม่ได้จากทุกมุมของตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งส่งสัญญาณว่าตอนนี้เชียงใหม่เข้าสู่ช่วงวิกฤตของหมอกควัน และไฟป่าแล้ว
ประชาชนที่ต้องออกมาทำกิจกรรมนอกอาคารต้องสวมเสื้อผ้ามิดชิดสวมหน้ากากอนามัยที่กรองฝุ่น PM2.5 ได้ หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย และอยู่ในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน กลุ่มเสี่ยงเด็กเล็กคนชรา และผู้ป่วยโรงทางเดินหายใจเรื้อรังต้องดูแลเป็นพิเศษในระยะนี้