หมอทวีศิลป์ เผยบุคลากรการแพทย์ 1 ราย มีอาการแพ้วัคซีนโควิด ได้รับการดูแลใกล้ชิด

หมอทวีศิลป์ เผยบุคลากรการแพทย์ 1 ราย มีอาการแพ้วัคซีนโควิด ได้รับการดูแลใกล้ชิด

หมอทวีศิลป์ เผยบุคลากรการแพทย์ 1 ราย มีอาการแพ้วัคซีนโควิด ได้รับการดูแลใกล้ชิด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หมอทวีศิลป์ เผยมีบุคลากรทางการแพทย์ 1 รายมีอาการแพ้วัคซีนโควิดหลังฉีด อยู่ระหว่างติดตามดูแลอาการอย่างใกล้ชิด

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (3 มี.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ประชุมร่วมกับทีมสาธารณสุข เพื่อติดตามการฉีดวัคซีนโควิด-19 ใน 13 จังหวัด โดยนายอนุทินย้ำให้บริหารจัดการขั้นตอนการฉีดวัคซีนให้รวดเร็ว เท่าเทียม เพื่อลดการมารวมตัวรอคิวกันเป็นเวลานาน

โฆษก ศบค. ยังเปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า จากการฉีดวัคซีนโควิดในกลุ่มเป้าหมาย พบว่ามีบางรายมีอาการข้างเคียง และมีอยู่ 1 ราย เป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับวัคซีน แล้วมีอาการแพ้ยาเพนนิซิลินและแพ้วัคซีน แต่เนื่องจากมีระบบติดตามอาการหลังฉีดอย่างใกล้ชิด จึงได้รับการดูแลรักษาอย่างรวดเร็ว โดยกระทรวงสาธารณสุขจะแถลงรายละเอียดในช่วงเวลา 15.00 น. ของวันนี้

ทั้งนี้ ยังระบุว่า ภาครัฐไม่ปิดกั้นวัคซีนโควิดยี่ห้ออื่นที่จะมาขอขึ้นทะเบียนในประเทศไทย โดยนายอนุทินให้นโยบายกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ให้แบ่งปันชุดข้อมูลสำคัญและจำเป็นต่างๆ ให้กับภาคเอกชนที่จะนำวัคซีนเข้ามา สำหรับกลุ่มคนที่ไม่มีความเสี่ยงหรือจำเป็นต้องได้รับวัคซีนเร่งด่วนให้สามารถเข้าถึงวัคซีนได้อีกทางเลือกหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ความกลัวหรือความกังวลเรื่องการฉีดวัคซีนเริ่มลดลง แต่ย้ำว่าเมื่อมีการฉีดมากขึ้น ก็อาจจะพบผู้มีอาการข้างเคียงมากตามไปด้วย แต่เจ้าหน้าที่จัดเตรียมระบบการติดตามตรวจสอบสุขภาพไว้อย่างครบถ้วนแล้ว

ขณะที่การประชุม ศบค.ชุดเล็ก ก็มีการหารือเกี่ยวกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลังสถานการณ์โควิด-19 อยู่ในภาวะควบคุมได้ โดยสิ่งสำคัญ คือ ภาครัฐ เอกชน ผู้ประกอบการ และผู้จัดกิจกรรมอีเวนต์ต่างๆ จะต้องเข้าใจมาตรการควบคุมป้องกันโรคและประเมินได้ว่าตัวเองมีความพร้อมแค่ไหนก่อนจะจัดกิจกรรม

นอกจากนี้ ยังมองไปถึงการต่อยอดสถานกักกันทางเลือกของเอกชนที่ตอนนี้เป็นที่ต้องการมาก จึงอาจจะนำมาเป็นส่วนหนึ่งในการฟื้นฟูเศรษฐกิจได้ และกรณีผู้ที่ไม่มีความเสี่ยงแต่อยากตรวจหาเชื้อ จะมีการหารือว่าอาจจะปรับลดราคาค่าตรวจให้เหมาะสมอย่างไรหรือไม่ โดยรายละเอียดทั้งหมดนี้หากมีความคืบหน้าจะนำมาแจ้งให้ทราบต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook