ชาวเมียนมาหลายหมื่นประท้วงเดือด แม้ถูกบุกจับยามค่ำคืน-ตายสะสม 50 ศพ
ชาวเมียนมาหลายหมื่นคนรวมตัวลงถนนประท้วงรัฐประหารอย่างต่อเนื่อง แม้มีเหตุการณ์ใช้ความรุนแรงจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจนมีผู้เสียชีวิตหลายสิบราย และการบุกจับนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยยามค่ำคืนอย่างหนัก
ในการประท้วงของประชาชนชาวเมียนมาวันนี้ (7 มี.ค.) เจ้าหน้าที่เริ่มสลายการชุมนุมด้วยการใช้แก้สน้ำตาและระเบิดมือกับผู้ชุมนุมในเมืองล่าเสี้ยวในรัฐฉานของเมียนมา พร้อมมีการระดมยิงกระสุนใส่ผู้ชุมนุมในพุกาม โดย สำนักข่าวรอยเตอร์ ซึ่งอ้างอิงจากภาพการไลฟ์สดจากเหตุการณ์ของผู้ใช้เฟซบุ๊กชี้ว่ายังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นการใช้กระสุนยางหรือกระสุนจริง และยังไม่มีรายงานการเสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมนี้
พื้นที่ที่มีประชาชนออกมารวมตัวประท้วงมากที่สุดคือเมืองขนาดใหญ่อันดับสองของเมียนมาอย่างมันฑะเลย์ ผู้คนต่างออกมา "นั่งประท้วง" อีกทั้งยังมีการจัดกิจกรรมไว้อาลัยแก่ประชาชนที่เสียชีวิตจากการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่รัฐด้วยการสงบนิ่ง 2 นาที โดยทางสหประชาชาติได้ยืนยันว่าขณะนี้มีชาวเมียนมาถูกสังหารโดยน้ำมือของตำรวจทหารแล้วมากกว่า 50 ราย นับตั้งแต่การก่อรัฐประหารในวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา
"พวกเขาเข่นฆ่าประชาชนเหมือนกับการฆ่าไก่ฆ่านก เราจะทำอะไรได้ถ้าไม่ออกมาต่อต้านพวกเขา" หนึ่งในผู้ประท้วงที่เมืองดาเว กล่าว
ประชาชนในพื้นที่ยังระบุด้วยว่า ท่ามกลางการประท้วงที่กำลังเกิดขึ้นในหลายเมืองสำคัญ เช่นในนครย่างกุ้ง มีการรวมตัวประท้วงกันถึง 3 จุดใหญ่ๆ เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจใช้โอกาสยามค่ำคืนเคลื่อนย้ายกำลังเข้าไปยังหลายพื้นที่ มีการบุกจับกุมประชาชนถึงที่พักโดยไม่แจ้งสาเหตุของการจับตัว และยังมีการระดมยิงยามค่ำคืนอีกด้วย
หญิงสาวคนหนึ่งส่งเสียงกรีดร้องหลังจากคนในครอบครัวถูกลากตัวออกไป "พวกเขาบอกว่าจะมาจับกุมพ่อและพี่ชายของฉัน ไม่มีใครคิดจะช่วยพวกเราจริงๆ หรือ อย่าแตะต้องตัวพวกเขาเด็ดขาด ถ้าจะจับก็จับพวกเราไปด้วยกันทั้งหมด"
ขณะที่หนึ่งในบุคคลที่กองทัพต้องการตัวมากที่สุดก็คือทนายความของ อองซานซูจี แต่ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้ ขณะที่ทางสำนักข่าวรอยเตอร์พยายามติดต่อไปยังกองทัพเพื่อขอคำชี้แจงต่อการกระทำนี้ แต่ไม่มีการตอบรับแต่อย่างใด
ทั้งนี้ สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง หรือ Assistance Association for Political Prisoners (AAPP) เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 1 ก.พ. ถึงวันที่ 6 มี.ค. ประชาชนในเมียนมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวไปแล้วมากกว่า 1,700 คน
โดยมีการระบุในแถลงการณ์ว่า "ผู้ถูกคุมขังถูกต่อยและเตะด้วยรองเท้าบูทของทหาร และถูกทุบตีด้วยกระบองของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะถูกลากขึ้นรถของตำรวจไป ขณะที่กองกำลังด้านความมั่นคงได้บุกเข้าไปยังเขตที่พักอาศัยของประชาชนและพยายามที่จะจับกุมผู้ชุมนุมเพิ่มเติม ยิงพวกเขา และทำลายพวกเขา"