ฆ่าโหด 3 วัยรุ่นสมุทรสาคร นอนตายกองรวมกันในพงหญ้าข้างทาง ถูกยิงหัวทุกศพ!
ฆ่าโหด 3 วัยรุ่นสมุทรสาคร นอนตายกองรวมกันในพงหญ้าข้างทาง สภาพศพถูกยิงหัวทุกราย
วานนี้ (7 มี.ค.64) ภายในป่าหญ้าร้าง ซอยลิงเก่า ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ห่างจากถนนหมู่บ้านลึกเข้าไปประมาณ 300 เมตร พบศพกลุ่มวัยรุ่นชายไทยจำนวน 3 คน อายุประมาณ 16-18 ปี ทราบชื่อนามสมมติคือ นายคิว นายป๋อง และนายออม นอนกองรวมกันอยู่ สภาพศพมีทั้งคนสวมเสื้อ และไม่สวมเสื้อ มีเลือดแห้งกรังไหลอาบติดใบหน้า คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง และต่อมาจากการชันสูตรพลิกศพของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานพบว่า วัยรุ่นทั้ง 3 คน ถูกอาวุธปืนขนาด .380 ยิงเข้าที่ศีรษะทุกคน
ในที่เกิดเหตุยังมีหมอนและผ้าห่ม รวมทั้งพบตะแกรงหน้ารถมอเตอร์ไซด์มีอุปกรณ์เสพยาเสพติด และขวดน้ำอยู่ภายในตะแกรง ห่างออกไป 10 เมตร มีรถมอเตอร์ไซด์ล้มอยู่ 1 คัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำสายกั้นมากันเขตพื้นที่ไว้ไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปภายใน
นอกจากนี้บริเวณด้านนอกก่อนที่จะถึงจุดที่พบศพประมาณ 50 เมตร ยังพบเพิงพักมีเสื้อผ้า อุปกรณ์พวกประแจไขควง เปลือกสายไฟ รถจักรยานที่ถูกถอดชิ้นส่วนแล้ว และโทรศัพท์มือถือตกอยู่ 1 เครื่อง อีกทั้งยังมีร่องรอยของการเผาสายไฟเป็นจุดๆ ประมาณ 7-8 แห่งอีกด้วย
จากการสอบถาม เด็กชายเอ อายุ 13 ปี บอกว่า ขณะที่ตนและเพื่อนๆ กำลังเดินผ่านป่าหญ้า เพื่อจะไปเล่นน้ำอีกฟากหนึ่งเพราะมีลำธารเล็กๆ ไหลผ่านนั้น เมื่อเดินมาถึงจุดที่พบผู้เสียชีวิตก็เห็นมีคนนอนอยู่ ทีแรกด้วยความตกใจก็พากันวิ่งหนี ก่อนที่จะพากันกลับไปดูอีกครั้ง พอเห็นว่าทั้ง 3 คน เสียชีวิตจึงได้รีบไปบอกผู้ใหญ่ให้เข้ามาดู
ด้านนายวิชาญ จันทร์โชติ ผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า ผู้เสียชีวิตกลุ่มนี้เป็นเด็กอยู่บริเวณรอบชุมชนหมู่ที่ 5 ต.ท่าทราย แต่เดิมนั้นเคยอาศัยอยู่ในบ้านเอื้ออาทร กับผู้ปกครองที่มาจากต่างจังหวัดแล้วเข้ามาทำงานในพื้นที่ ต่อมาผู้ปกครองย้ายออกไป แต่เด็กๆ ไม่ตามไปด้วย จึงมารวมตัวกันและอาศัยการลักเล็กขโมยน้อย เพื่อหาเงินมาประทังชีวิต
ส่วนทางคดี เมื่อเช้านี้ พลตำรวจโท ธนา ชูวงศ์ ผู้บัชญาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม เบื้องต้นคาดว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะโกรธแค้น หรือมีปัญหาส่วนตัวกับกลุ่มเยาวชนที่เสียชีวิตจึงลงมือทำร้าย แต่ยังไม่ตั้งปมสังหารการฆ่ายกแก๊งไปที่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง ซึ่งจะได้ตรวจสอบประวัติผู้เสียชีวิตและจะประสานญาติมาทำการสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนจะเรียกตำรวจชุดสืบสวน ประชุมเพื่อติดตามเร่งรัดคดี พร้อมทั้งสั่งการให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในละแวกที่เกิดเหตุ เพื่อเร่งติดตามจับคนร้าย
ด้านแม่ ผู้ตาย เมื่อรู้ข่าวลูกชายเสียชีวิต รู้สึกเสียใจมาก ยอมรับว่า ไม่ได้อยู่ด้วยกันกับลูก และวันนี้ได้มาให้ข้อมูลกับตำรวจ และติดตามความคืบหน้าทางคดี พร้อมกับอยากให้เร่งจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว