ผู้ป่วยโควิด-19 ชาวสหรัฐ โด่ไม่รู้ล้มนาน 3 ชั่วโมง หมอเชื่อเลือดแข็งตัวฝีมือไวรัส
นิตยสารการแพทย์ฉุกเฉินอเมริกัน เผยแพร่ผลการศึกษาฉบับหนึ่งของแพทย์ 3 คนจากโรงพยาบาลไมอามี แวลลีย์ ในเมืองเดย์ตัน รัฐโอไฮโอ เมื่อไม่นานมานี้ ว่าชายอายุ 69 ปี ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (SARS-CoV-2) คนหนึ่ง มีอาการอวัยวะเพศแข็งตัวนานถึง 3 ชั่วโมง ระหว่างการรักษา
แพทย์เชื่อว่าไวรัสดังกล่าว ที่ทำให้เกิดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) น่าจะทำให้เลือดแข็งตัวในอวัยวะเพศของผู้ป่วยคนนี้ ซึ่งเป็นอาการแทรกซ้อนที่เจ็บปวดและเกิดขึ้นได้ยาก
ผู้ป่วยรายนี้ ที่ภายหลังเสียชีวิตลง ถูกนำตัวมาส่งยังโรงพยาบาลดังกล่าว เมื่อเดือน ส.ค. 2563 ด้วยอาการหายใจลำบาก ปอดบวม และมีของเหลวในปอด ทำให้บุคลากรแพทย์ต้องวางยาสลบและใช้เครื่องช่วยหายใจกับผู้ป่วยรายนี้ แต่อาการก็แย่ลงเรื่อยมา
หลังจากเข้ารับการรักษานาน 10 วัน ปอดของผู้ป่วยรายนี้ก็ล้มเหลว ทีมแพทย์จึงจับผู้ป่วยรายนี้นอนคว่ำ และใช้วิธีการรักษาเร่งด่วนเพื่อให้อากาศไหลเวียนในร่างกายได้ดีขึ้น หลังจากนั้น 12 ชั่วโมง จึงจับนอนหงาย แต่ขณะนั้นพยาบาลสังเกตว่าอวัยวะเพศของผู้ป่วยแข็งตัว
ต่อมา 3 ชั่วโมง หลังจากใช้น้ำแข็งประคบไม่สำเร็จ ทีมแพทย์จึงใช้เข็มเจาะอวัยวะเพศของผู้ป่วย และนำเลือดที่คั่งอยู่ออกมาสำเร็จ แต่ระหว่างนั้นผู้ป่วยไม่รู้สึกตัวเอง
แพทย์ 3 คนที่ทำผลการศึกษานี้ เผยว่า "ภาวะองคชาตแข็งตัวไม่กลับมาเกิดซ้ำอีก" แต่ปอดของผู้ป่วยคนนี้ไม่ดีขึ้นเลย ถึงอย่างนั้นภาวะดังกล่าวก็เป็นผลข้างเคียงที่ "น่าสนใจ" ของโรคนี้
"เราไม่เห็นผู้ป่วยโควิดคนอื่นเลยที่เกิดภาวะดังกล่าว และที่ผ่านมาเรารับมือกับผู้ป่วยโควิดมากกว่าโรงพยาบาลไหนๆ ในยุโรปด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นนี่จึงเป็นการแสดงออกของโรคโควิด-19 ที่อธิบายได้ก็จริง แต่ก็เกิดขึ้นได้ยากมากอย่างชัดเจน"
อย่างไรก็ตาม มีการรายงานว่ามีผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการคล้ายกันที่ฝรั่งเศส เมื่อเดือน ก.ค. 2563