แม่บ้านโรงแรมฮีโร่ ปั๊มหัวใจช่วยเด็ก 6 ขวบ ทั้งที่ทุกคนคิดว่าตายแล้ว สุดท้ายรอดปาฏิหาริย์

แม่บ้านโรงแรมฮีโร่ ปั๊มหัวใจช่วยเด็ก 6 ขวบ ทั้งที่ทุกคนคิดว่าตายแล้ว สุดท้ายรอดปาฏิหาริย์

แม่บ้านโรงแรมฮีโร่ ปั๊มหัวใจช่วยเด็ก 6 ขวบ ทั้งที่ทุกคนคิดว่าตายแล้ว สุดท้ายรอดปาฏิหาริย์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม่บ้านโรงแรมฮีโร่ ปั๊มหัวใจช่วยเด็ก 6 ขวบ ทั้งที่ทุกคนคิดว่าตายแล้ว สุดท้ายรอดชีวิต เผยเคยอบรมการปฐมพยาบาลมา 1 ชั่วโมง

(15 มี.ค.64)  สื่อสังคมออนไลน์ได้มีการโพสต์แชร์คลิปที่น่าชื่นชม  ขณะที่หญิงคนหนึ่งกำลังทำซีพีอาร์ หรือ ปั๊มหัวใจ ช่วยชีวิตเด็กชายที่จมน้ำหมดสติจนฟื้นและรอดตายได้ราวกับปาฏิหาริย์  โดยคนที่โพสต์ ระบุข้อความว่า “วันนี้พาคุณน้ามาฝึกขับรถ ได้ช่วยเด็กจมน้ำถือว่าโชคดีมากที่เราขับรถมาเจอพอดี ได้ช่วยชีวิตเด็กคนนึงไว้ปลอดภัยแล้วนะหนู น้องต้า บ้านโคกสูง ขอขอบคุณวิชาเรียนช่วยเหลือชีวิตมนุษย์การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ของคุณน้าจากนอร์เวย์ และขอบคุณช่างก่อสร้างที่ช่วยเอาน้องขึ้นจากน้ำนะคะ  ขอให้บุญกุศลในครั้งนี้ช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายทั้งปวงออกจากชีวิตลูกๆ สาธุ สาธุๆ”  

ซึ่งก็ได้มีผู้คนเข้าไปแสดงความคิดเห็นและชื่นชมหญิงคนดังกล่าวเป็นจำนวนมาก  จากการสอบถามผู้โพสต์ระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (14 มี.ค.) ที่สระน้ำข้างสนามกีฬาโรงเรียนมิตรภาพโนนสมบูรณ์  ต.โคกสูง อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์

จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปตามหาหญิงฮีโร่คนดังกล่าว คือ น.ส.สมมาตร นิมิตร หรือ พี่นาง อายุ 53 ปี ซึ่งนั่งอยู่กับหลานสาวคนที่ถ่ายคลิปแล้วนำเรื่องราวมาโพสต์ในโซเชียล โดย น.ส.สมมาตร ก็ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ว่า ปัจจุบันตนทำงานเป็นแม่บ้านอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งที่ประเทศนอร์เวย์  ช่วงนี้กลับมาเยี่ยมบ้านที่ อ.หนองกี่ ก็ถือโอกาสมาสอบใบขับขี่ด้วย เมื่อวานวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุก็ให้หลานพาไปหัดขับรถที่ สนามของโรงเรียน ขณะกำลังขับวนสนามรอบที่ 3 รอบ  ก็เห็นช่างที่ทำงานก่อสร้างอยู่ในโรงเรียนวิ่งไปที่สระน้ำ ตอนแรกยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นพอหลานสาวไปดู จึงทราบว่ามีเด็กอนุบาล อายุ 6 ขวบจมน้ำในสระข้างโรงเรียน และช่างก่อสร้างที่วิ่งไปได้นำร่างน้องขึ้นมาจากน้ำ ตนจึงเข้าไปดูก็เห็นน้องนอนหมดสติหน้าเขียวปากเขียวแล้วคนที่มามุงดูก็คิดว่าน้องเสียแล้ว

ตนจึงตัดสินใจใช้ประสบการณ์ความรู้ที่เคยอบรมหลักสูตรการช่วยชีวิตคนจมน้ำขณะทำงานเป็นแม่บ้านที่โรงแรมประเทศนอร์เวย์  ซึ่งทางโรงแรมบังคับให้ฝึกอบรมทุกคนเป็นเวลา 1 ชั่วโมง จากนั้นก็ทำการปั๊มหัวใจหรือซีพีอาร์ ตามที่เรียนมาอยู่ประมาณ 10 นาที ก็เห็นน้องเริ่มหายใจจึงปั๊มต่ออีกจนน้องอาเจียนข้าวออกจากปากมีน้ำและโคลนไหลออกมาจากปากด้วย ทั้งตนเองและคนที่มามุงดูต่างก็ดีใจมากเพราะไม่คิดว่าน้องจะฟื้นเพราะตอนนั้นทั้งปากและหน้าเขียวหมดแล้ว

จากนั้นจึงบอกให้ชาวบ้านโทรแจ้งรถฉุกเฉินให้มารับน้องส่งโรงพยาบาลหนองกี่ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองไม่ได้อยากโด่งดังแต่ที่บอกให้หลานถ่ายคลิปก็กะจะเอาไปอวดหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานที่ประเทศนอร์เวย์ ว่าความรู้ที่ตนเองเรียนเพียง 1 ชั่วโมงก็สามารถช่วยชีวิตคนได้จริงๆ  ไม่คิดว่าพอหลานนำไปโพสต์ในโซเชียลจะมีคนเข้ามาชื่นชมมากขนาดนี้ ก็ขอบคุณทุกคน 

ส่วนที่มีบางคนเข้ามาคอมเมนต์ว่าทำซีพีอาร์ไม่ถูกต้องนั้นอาจจะเป็นช่วงที่เด็กฟื้นแล้ว ตนจึงเอามือไปลูบที่บริเวณท้องของน้อง ก็ไม่อยากให้ ดราม่าอยากให้มองถึงเจตนาในการช่วยชีวิตน้องมากกว่า และอยากฝากว่าหากใครพบเห็นเหตุการณ์แบบนี้ควรจะตั้งสติและตัดสินใจปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพราะเชื่อว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถช่วยชีวิตคนได้

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ รพ.หนองกี่ เพื่อติดตามอาการของน้องต้า นักเรียนชั้นอนุบาล 3 พบว่าน้องอาการปลอดภัยสีหน้ายิ้มแย้มร่าเริง และทางโรงพยาบาลก็อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลวันนี้  

ขณะที่ นางลำดวน โสดาสพัฒน์ อายุ 67 ปี ยายของน้อง ที่มาเฝ้าอาการของหลาน วันเกิดเหตุไม่รู้ว่าหลานแอบไปเล่นน้ำมารู้อีกทีตอนมีคนมาบอกว่าหลานจมน้ำหมดสติอยู่ที่สระในโรงเรียน จึงเดินทางไปดู ตอนแรกก็ตกใจมากคิดว่าหลานจะไม่ฟื้น แต่พอมีหญิงคนหนึ่งมาปั้มหัวใจจนหลานฟื้นและรอดชีวิตมาได้อย่างปลอดภัย

ทั้งนี้ยายยังได้ยกมือไหว้ขอบคุณทั้งหญิงที่ปั๊มหัวใจและช่างก่อสร้างที่ลงไปเอาหลานขึ้นจากน้ำ เหมือนหลานตายแล้วเกิดใหม่ หลังจากนี้ก็จะดูแลหลานไม่ให้คลาดสายตาเลย 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook