เชียงใหม่ปอดอ่วมฝุ่นทุกอำเภอ 10 วันแล้ว! หวังพึ่งกระแสลมพัดไล่หมอกควัน

กลุ่มหมอกควันจากการเผาป่าพัดเข้าปกคลุมในทุกอำเภอของ จ.เชียงใหม่ เป็นวันที่ 10 ติดต่อกันแล้วเมื่อวันจันทร์ (15 มี.ค.) ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนจำนวนมาก มองมุมสูงจากจุดชมวิวทางขึ้นดอยสุเทพ จะพบว่ายังคงมีหมอกควันปกคลุมจนมองเห็นอาคารบ้านเรือนได้เลือนราง

แม้ว่าค่าฝุ่นขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) จะเริ่มลดลงตั้งแต่เมื่อวานนี้ แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ยังเกินค่ามาตรฐาน ล่าสุดค่าเฉลี่ยในตัวเมืองอยู่ที่ 70 - 90 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะที่รายงานคุณภาพอากาศจากกรมควบคุมมลพิษ บริเวณศูนย์ราชการจังหวัดซึ่งเป็นพื้นที่ประชากรหนาแน่น วัดได้ที่ 81 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในเวลา 08.00​น.

ฝุ่นควันที่สะสมมานานเกือบสองสัปดาห์ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ข้อมูลจาก สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ รายงานตัวเลขผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศตั้งแต่เดือน ม.ค.- มี.ค. มีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลรัฐ ด้วยอาการป่วยจากกลุ่มโรคทางเดินหายใจ กลุ่มโรคหัวใจ หลอดเลือด และ สมองอุดตันขาดเลือด กลุ่มโรคตาอักเสบ และ กลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ รวมทั้งสิ้น 31,788 คน แยกเป็นเดือน ม.ค. 22,554 คน ,ก.พ. 9,084 คน และ มี.ค. 150 คน

ผศ.ดร.ชาคริต โชติอมรศักดิ์ หัวหน้าคณะทำงานด้านวิชาการเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ช่วงก่อนหน้านี้จังหวัดเชียงใหม่มีคุณภาพอากาศค่อนข้างแย่ เนื่องจากปัจจัยที่ไม่อาจควบคุมได้ทั้งสภาพอากาศและลม ซึ่งหอบเอาฝุ่นควันจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามา แต่ในช่วงวันที่ 14-15 มี.ค. นี้ ดัชนีการระบายอากาศจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จะช่วยระบายฝุ่นควัน PM2.5 ให้มีระดับความเข้มข้นที่ลดลง แต่ก็ต้องติดตามข้อมูลใหม่ที่อาจเข้ามาได้ โดยเฉพาะแหล่งกำเนิดฝุ่นใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้น