ผู้ชุมนุมเมียนมาลุยต่อ หลังนองเลือดหนักวันอาทิตย์ ขณะวันนี้ดับเพิ่ม 6
ผู้ชุมนุมสนับสนุนประชาธิปไตยในเมียนมารวมตัวกันเมื่อวันจันทร์ (15 มี.ค.) ในหลายเมืองทั่วประเทศ อาทิ เมืองมัณฑะเลย์ เมืองมยินฉั่น และเมืองเอ่าหลั่น แม้จะถูกสลายการชุมนุมอย่างหนักเมื่อวันอาทิตย์ (14 มี.ค.) จนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 44 คน ที่ได้รับการยืนยัน
ส่วนการชุมนุมในวันจันทร์ (15 มี.ค.) ก็มีตำรวจและทหารสนธิกำลังมาสลายการชุมนุมอีก จนมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 6 คนตามคำบอกเล่าของสื่อมวลชนและพยานที่เห็นเหตุการณ์
สำนักข่าวเมียนมา นาว เผยว่ามีผู้เสียชีวิต 3 คน ที่เมืองมยินฉั่น และ 2 คนที่เมืองเอ่าหลั่น ขณะเดียวกันผู้เห็นเหตุการณ์เผยว่ามี 1 คนถูกยิงเสียชีวิตที่เมืองมัณฑะเลย์
ผู้ชุมนุมอายุ 18 ปีคนหนึ่งในเมืองมยินฉั่นเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า มีผู้หญิงคนหนึ่งถูกยิงที่ศีรษะ และมีผู้ชายถูกยิงที่ใบหน้า ซึ่งตนเห็นเหตุการณ์ขณะหลบอยู่
ย้อนกลับไปเมื่อการชุมนุมเมื่อวันอาทิตย์ (14 มี.ค.) เกิดการเผาโรงงานหลายแห่งในนิคมอุตสาหกรรมที่เมืองไหล่ต่าหย่า ที่ติดกับนครย่างกุ้งทางตะวันตก ซึ่งโรงงานนี้มีกลุ่มทุนจากจีนให้การสนับสนุนเงินทุน เหตุนี้ทำให้รัฐบาลจีนตำหนิการเคลื่อนไหวดังกล่าวอย่างรุนแรง ในขณะที่ชาวเมียนมาจำนวนมากมองว่ารัฐบาลจีนนี่แหละที่เป็นผู้สนับสนุนรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ.
ด้านโกลบอล ไทม์ส ซึ่งเป็นสื่อของรัฐบาลจีน ระบุว่ามีโรงงานที่จีนลงทุน 32 แห่งถูกปล้นสะดม และสร้างความเสียหายไปถึง 37 ล้านดอลลาร์ (1,138 ล้านบาท) ทั้งยังมีพนักงานชาวจีน 2 คนได้รับบาดเจ็บ แต่ขณะเดียวกันสถานทูตจีนก็เรียกร้องให้กองทัพเมียนมาหยุดใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุมเช่นกัน
ส่วนทางการญี่ปุ่นเผยว่ากำลังจับตาดูสถานการณ์ในเมียนมา และกำลังพิจารณาตอบโต้ในแง่ของความร่วมมือทางเศรษฐกิจ