โตมากับวงการบันเทิง "ชาร์เลท วาศิตา" ยึดมั่น นักแสดง ดารา ไม่ได้หมายความว่ามีสิทธิเหนือคนอื่น

โตมากับวงการบันเทิง "ชาร์เลท วาศิตา" ยึดมั่น นักแสดง ดารา ไม่ได้หมายความว่ามีสิทธิเหนือคนอื่น

โตมากับวงการบันเทิง "ชาร์เลท วาศิตา" ยึดมั่น นักแสดง ดารา ไม่ได้หมายความว่ามีสิทธิเหนือคนอื่น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หากพูดถึงนักแสดงเด็กขวัญใจแฟนละคร หนึ่งชื่อที่ทุกคนไม่มีทางมองข้ามต้องเป็น น้องชาร์เลท-วาศิตา แฮเมเนา นักแสดงเด็กที่อยู่กับแฟนละครมาตั้งแต่อายุได้เพียง 4 ขวบ กับผลงานละครน่ารัก น่าเอ็นดู แก่นเซี๊ยว หรือ เรียกน้ำตาท่วมจอ ก็ผ่านมาแล้วทุกบท คุ้นหน้าคุ้นตาแฟนละครเป็นอย่างดี

และตอนนี้เด็กน้อยสุดน่ารักของทุกคนได้เติบโตเข้าสู่วัย 16 ปีเต็ม พร้อมกับได้รับความท้าทายใหม่ในบทบาทการแสดงที่ไม่ใช่เด็กอีกต่อไป เพราะล่าสุด ชาร์เลท ได้พัฒนาฝีมือมารับบท สร้อย หรือ สร้อยสุดาเทวี ในละครแฟนตาซีฟอร์มใหญ่ "ดงพญาเย็น" ทาง ช่อง วัน 31 เปิดตัวออกมาสาวสะพรั่ง พร้อมฝีมือการแสดงที่เก่งหาตัวจับยาก ทำเอาแฟนละครร้องว้าว พากันเข้าไปชมกันยกใหญ่

งานนี้พลาดไม่ได้ sanook.com เลยขอพาตัว น้องชาร์เลท มาจับเข่าคุยถึงผลงานชิ้นล่าสุดกับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด พร้อมเปิดชีวิตนักแสดงเด็กของเธอที่ผ่านมาว่าเป็นยังไงบ้าง งานนี้ชาร์เลทเองก็เล่าแบบไม่มีกั๊ก เรื่องราวจะเป็นยังไง ไปฟังชาร์เลทเล่ากันเลย

การทำงานในละคร "ดงพญาเย็น" เป็นยังไงบ้าง?

"เรื่องนี้ด้วยเนื้อเรื่องสนุกอยู่แล้วค่ะ เป็นแนวผจญภัย แฟนตาซี มีสิ่งลี้ลับ การต่อสู้จัดเต็มมาก แล้วบทที่ชาร์ได้รับก็ค่อนข้างต้องเล่นอะไรเยอะ โดยเฉพาะการต่อสู้ สร้อย หรือ สร้อยสุดาเทวี เขาเป็นผู้หญิงที่สามารถชุบชีวิตคนได้แล้วต้องตามหาพ่อในป่าดงพญาเย็น

การถ่ายทำสนุกมากค่ะ เรื่องฉากต่อสู้ช่วงแรกก็มีกระดูกลั่นกร๊อบแกร๊บบ้าง (หัวเราะ) แต่สนุก ทุกอย่างถือว่าราบรื่น ไปได้สวย เพราะว่าก่อนถ่ายต้องไปเรียนก่อน เสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกาย แต่อาจจะมีงงคิว ผิดคิว ทำให้เกิดอุบัติเหตุระหว่างถ่ายทำบ้าง แต่ส่วนมากจะแค่ถลอก พกช้ำ ไม่ได้เจ็บมาก หรือ ร้ายแรงอะไรขนาดนั้นค่ะ"

เรื่องนี้บทที่รับไม่ใช่เด็กแล้ว แต่เป็นตัวเดินเรื่องที่โตขึ้น แปลกใหม่สำหรับเราแค่ไหน?

"เรื่องนี้ก็ได้รับบที่โตขึ้น เป็นสาวมากกว่าเรื่องก่อนๆ ถือเป็นเรื่องแรกที่รับบทที่เป็นสาวขนาดนี้ เพราะเมื่อก่อนเล่นแต่บทเด็ก (หัวเราะ) ตอนนี้เรียกว่าเป็นเรื่องแรกที่ขยับมาเป็นตัวดำเนินเรื่องอีกตัวละครนึงค่ะ ท้าทายมากขึ้น ช่วงแรกทำการบ้านหนักมากเหมือนกันเพราะชาร์ยังไม่ชินกับบทที่โตแบบนี้ เพราะตลอดเวลาเราเล่นบทเด็ก ตัวชาร์เองจริงๆ ก็ถือว่าเด็กอยู่ อายุ 16 แต่ตัวละครอายุ 20 โตกว่าเราเยอะ ก็พยายามทำตัวให้นิ่งขึ้น พยายามคิดแบบคนอายุ 20 แต่จริงๆ ก็มีความเด็กอยู่สูงค่ะ (หัวเราะ)"

ฟีดแบ็กกลับมาเป็นยังไงบ้าง?

"ดีมาก (ลากเสียงยาว) ชาร์ว่าเพราะคุณผู้ชมเขาแปลกตากับหลายๆ องค์ประกอบในเรื่อง ทั้งซีจีที่จัดเต็มไม่น้อยหน้าใครเหมือนกัน จริงจังกันมาก ส่วนฟีดแบ็กที่กลับมาหาชาร์เขาก็จะบอกว่า หูย! ชาร์เลท โตขนาดนี้แล้วเหรออะไรประมาณนั้นค่ะ ก็ดีใจที่ทุกคนจำได้และชมผลงานของเราด้วย ขอบคุณจริงๆ ค่ะ

ชาร์เลท ในกองละคร ดงพญาเย็น

เหมือนเรายังไม่ชินสักเท่าไหร่กับการที่คนบอกว่าเราโตเป็นสาวแล้ว?

"หนูโตแล้วค่ะ (หัวเราะ) จริงๆ ก็ไม่ค่อยชินเท่าไหร่ ชินกับการที่คนพูดถึงในฐานะนักแสดงเด็กมากกว่า เพราะเราถูกเรียกแบบนั้นมาตลอด"

ตอนนี้ปรับการทำงานโตขึ้นมาอีกขั้น เราวางแผนการทำงานไว้ยังไงบ้าง?

"ไม่ได้มองแบบซีเรียสว่าต้องได้ละครกี่เรื่องต่อปีอะไรขนาดนั้นค่ะ แค่ผู้ใหญ่เขาให้โอกาสมาเราก็พร้อมที่จะรับอยู่แล้ว ชาร์รู้สึกว่าชาร์อายุยังน้อยยังพร้อมที่จะรับทุกๆ โอกาสที่เข้ามา เพราะจริงๆ ชาร์อยากพัฒนาตัวเองอยู่เสมอมากกว่า รวมทั้งเรื่องการเรียน ชาร์ก็พยายามแบ่งเวลาให้ดีมาตลอด ซึ่งตอนนี้ก็ไปได้ดีไม่มีปัญหาอะไร พยายามทำทุกหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดในทุกๆ ด้านเท่าที่จะทำได้ค่ะ"

จำความได้ก็อยู่ในวงการแล้ว ชีวิตนักแสดงเด็กของชาร์เลทเป็นยังไงบ้าง?

"เอาจริงๆ ความทรงจำของชาร์ที่จำความได้น่าจะไปแค่ช่วงตัวเองอายุ 11 เองนะคะ ย้อนไปเด็กกว่านั้นชาร์จำไม่ได้แล้วว่าตัวเองทำอะไรไปบ้าง (หัวเราะ) แต่การใช้ชีวิตชาร์ว่าก็น่าจะเหมือนเด็กทั่วๆ ไป ถึงเราจะอยู่ในจุดที่เป็นนักแสดงแต่เราไม่ได้รู้สึกว่าแปลกอะไรจากคนอื่น ไม่ได้รู้สึกว่าทำไมเราต้องทำงานในขณะที่คนอื่นเขาได้เล่น แต่รู้สึกว่าเราโชคดีด้วยซ้ำที่ได้ลองทำงาน ได้ประสบการณ์ ได้มาเห็นความเป็นจริงของโลกว่าโลกการทำงานเขาเป็นยังไง

เพราะว่าถ้าเป็นเด็กทั่วไปโลกส่วนใหญ่เขาอาจจะอยู่ในโรงเรียน ในบ้าน แต่เรามีโอกาสที่จะได้เห็นอะไรที่กว้างขึ้นมันก็เป็นข้อดีเหมือนกันค่ะ แล้วปกติถ้าว่างชาร์ก็ได้เล่น ได้ทำกิจกรรมปกติเหมือนเด็กๆ ทุกคนเลย"

ด้วยความที่ยังเด็กมีความเหนื่อย หรือ งอแงบ้างไหม?

"งอแงอาจจะไม่ค่ะ แต่เหนื่อยอาจจะมีบ้าง แบบทำงานเสร็จตี 2 นอนแป๊บเดียวก็ต้องลุกไปทำงานอีกแล้ว ก็พยายามดูแลตัวเองดีๆ กินของหวานเยอะๆ จะได้ดีดๆ (หัวเราะ) แต่ไม่ได้รู้สึกว่า โอ้ย! เรามาทำอะไรเนี้ย สนุกดีค่ะ เด็กคนไหนจะมีโอกาสเลิกกองตอนตี 2 เหมือนเราล่ะ เราถือว่าโชคดีนะ (หัวเราะ)"

เด็กๆ พอโตมาถึงจุดนึง จะเริ่มมีความคิดแล้วว่าอยากทำอาชีพอะไร แต่ชาร์เลทเกิดมาก็เป็นนักแสดงเลย เรามีความคิดอยากทำอย่างอื่นบ้างไหม?

"ชาร์ไม่ได้รู้ชัดเจนถึงขนาดว่าชาร์อยากเป็นนักแสดงตลอดไป หรือ อยากไปทำอาชีพอะไรค่ะ แต่ที่เป็นทุกวันนี้ชาร์รู้สึกว่าชาร์ชอบ อยากจะเรียนรู้สิ่งนี้ไปเรื่อยๆ ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง อาจจะเพราะคลุกคลีอยู่กับสิ่งนี้มานาน ทำแล้วก็มีความสุข ไม่ได้ฝืนอะไร ก็เลยอยากทำไปเรื่อยๆ ลองไปกับทุกโอกาสเลยค่ะ"

ชาร์เลท วัยเด็ก

ต้องเป็นนางเอกเท่านั้นไหม?

"เป็นอะไรก็ได้ค่ะ ชาร์ไม่หวังว่าต้องเด่นดังอะไร แค่มีงานก็ดีใจแล้ว ไม่ได้หวังบทนางเอก หรือ ตัวนำอะไรเลย เพราะสุดท้ายนางเอกก็ คือ นักแสดง ไม่ว่าจะบทไหนๆ ทุกคน คือ นักแสดง ทุกคนเท่ากัน มันไม่เกี่ยวว่าบทใครจะเด่นกว่า มันขึ้นอยู่กับตัวบุคคลมากกว่าว่าจะทำบทนั้นออกมาดีหรือเปล่า"

เหมือนเราเป็นเด็กไม่ค่อยออกนอกลู่นอกทางเท่าไหร่นัก?

"อาจจะเพราะชาร์มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบเยอะ เลยทำให้เราต้องมีความรับผิดชอบมากๆ ถามว่าชาร์ดื้อไหม ซนไหม ก็ดื้อก็ซนนะคะ แต่ชาร์รู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร ชาร์ว่าเราเห็นทุกอย่างมาหมดแล้ว เห็นคนอื่นทำบางอย่างพลาดแล้วมันส่งผลยังไง ก็เลยพอจะรู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควรในสังคมค่ะ"

คำว่านักแสดงสำหรับชาร์เลทเป็นยังไง?

"คนอาจจะมองนักแสดงอย่างแรกเลยว่า "หยิ่ง" ต้องมีฟอร์มแน่นอน ซึ่งชาร์ว่านักแสดงบางคนก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น อย่างชาร์เองก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น มันอยู่ที่การวางตัวของแต่ละคนมากกว่าว่าเขาจะวางตัวยังไง ส่วนเรื่องการทำงานชาร์ว่าสิ่งสำคัญสำหรับนักแสดงต้องเป็นเรื่องของวินัย เพราะเราต้องทำงานกับคนอีกหลายคน หลายทีม เราจะให้คนจำเราแบบไหน จำเราแบบที่ดี หรือ จำแบบที่ไม่ดี  มันขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตัวของเรา

ชาร์เลทตัวน้อย

ไม่ใช่ว่าถือว่าตัวเองเป็นนักแสดงแต่ไม่มีวินัย ไม่มีมารยาท มาสาย จะกินข้าวก็ต้องมีคนมาเสิร์ฟถึงโต๊ะ แบบนั้นก็ไม่โอเคเนาะ เพราะจริงๆ นักแสดงก็ คือ ทีมงานคนนึง เป็นส่วนหนึ่งของงานนั้นเท่าๆ กับคนอื่น ชาร์ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเป็นนักแสดงแล้วจะต้องได้ทานข้าวที่อร่อยที่สุด ต้องได้ขนมที่แพงที่สุด ชาร์รู้สึกเฉยๆ เพราะทุกคนเหมือนกัน ทุกคน คือ ทีมเดียวกัน นักแสดงที่ดีสำหรับชาร์ต้องมีมารยาทและมีวินัยที่ถูกต้อง"

ส่วนในแง่ของการแสดงต้องเป็นคนที่เปิดใจ ต้องไม่มีกรอบในหัวเยอะเพราะคุณจะต้องแสดงเป็นอะไรก็ได้ ต้องเอาตัวละครตัวใหม่มาใส่ได้เสมอ แต่ถ้าไม่เปิดใจก็ไม่สามารถเป็นอะไรได้เลย"

เคยรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนดังไหม?

"ไม่เลยค่ะ รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนติ๊งต๊อง ชาร์ไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นดารา ชาร์เป็นแค่นักแสดง คำว่า ดารา กับ นักแสดง สำหรับชาร์มันต่างกันมากเลยนะคะ ชาร์อยากเป็นแค่นักแสดง ไม่ได้อยากเป็นคนดัง และคนดังไม่ได้หมายความว่าต้องมีสิทธิพิเศษอะไร ชาร์ไม่น่าหลงไปกับคำพวกนั้นค่ะ"

 คิดว่าสิ่งสำคัญที่หล่อหลอมให้เราเป็นเราในทุกวันนี้ได้คืออะไร?

"ชาร์ว่าชาร์เป็นคนที่เชื่อมั่นในตัวเองมาก เชื่อมั่นในทฤษฎีบ้าๆ บอๆ ในชีวิตของตัวเองมาก (หัวเราะ) คือ มีความเป็นตัวเองสูง ไม่ค่อยแคร์กับคำพูดอะไรเท่าไหร่ ถ้าเป็นคำติ ที่เราต้องนำกลับมาปรับปรุง พัฒนาตัวเองชาร์จะเก็บมาคิด มาปฏิบัติ แต่ถ้าเป็นแค่คำบูลลี่ชาร์จะไม่ใส่ใจ เพราะเราก็พอรู้ แยกแยะได้ว่าอะไรดี อะไรไม่ดี เรามีพ่อแม่ที่คอยปูทาง คอยแนะนำให้เราไปในทางที่ถูกที่ควรอยู่แล้ว

แต่ที่บอกว่ามั่นใจในตัวเองไม่ใช่มั่นใจว่าตัวฉันดี หรือ เก่งนะคะ แค่มั่นใจว่าเราทำในสิ่งที่ก็โอเคอยู่นะ อย่างบางทีในบางความคิดของเพื่อนๆ รุ่นเดียวกัน เช่น เขาบ่นว่าทำไมงานนี้มันยากจัง เรากลับคิดว่าถ้ามันง่ายใครๆ ก็คงทำได้หรือเปล่า ชาร์ก็งงๆ กับความคิดของเด็กสมัยใหม่เหมือนกันนะ (หัวเราะ) ขอโทษค่ะ หนูลืมไปว่าหูก็เพิ่งอายุ 16 (หัวเราะ)"

ยุคนี้เป็นยุคโซเชียล เราติดโซเชียลไหม?

"ชาร์เป็นคนไม่ติดโซเชียลเลยค่ะ อินสตาแกรมก็เป็นคุณแม่เล่น ชาร์ไม่ได้ต้องการคนไลก์เยอะๆ สิ่งที่ชาร์โพสต์ก็จะโพสต์พวกชีวิตประจำวัน กิจกรรม งานของเราเท่านั้นเอง ดังนั้นเวลาที่มีใครเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์อะไรถ้ามันเป็นการบูลลี่อะไร เราก็ปล่อยผ่าน ไม่ค่อยได้ดูอะไรค่ะ ส่วนเรื่องงานเราก็เต็มที่อยู่แล้ว ผลออกมาถ้ายังไม่ดีพอเราก็กลับไปแก้ไม่ได้อยู่ดี ได้แต่เก็บไปปรับปรุงให้ดีขึ้นในวันข้างหน้าค่ะ"

ชาร์เลท วาศิตา

ขอเจาะตัวตนเราหน่อย เราเป็นคนนิสัยยังไง?

"ชิลล์ๆ เลยค่ะ เป็นคนแบบอะไรก็ได้ ไม่ค่อยมีปากมีเสียงอะไรกับใครเท่าไหร่ ชิลล์ๆ เฉยๆ แต่ค่อนข้างมีความเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่ได้เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางนะคะ แต่จะรู้ความคิดตัวเองว่าตัวเองต้องการอะไร อยากทำอะไร จะชัดเจน ติ๊งต๊องบ้าง (หัวเราะ)

"เป็นคนไม่ค่อยโกรธใคร ตั้งแต่เกิดมาโกรธคนแค่คนสองคนเองมั้งคะ ชาร์รู้สึกว่าโกรธแล้วมันเสียเวลา มีอะไรก็คุยกันให้จบๆ ดีกว่า พูดกันให้เข้าใจดีกว่าเอาไปพูดต่อ พูดกันลับหลัง ปล่อยผ่านดีกว่า"

แต่ในความชิลล์กลับเป็นคนจริงจังในสิ่งที่ชอบมากๆ?

"ใช่ค่ะ ถ้าชาร์ชอบอะไร ชาร์จะจริงจังมากจนงง อย่างชาร์ชอบเต้น ชาร์ก็จะจริงจังมาก ซ้อมอยู่นั่น ถ้าทำไม่ได้ก็จะโมโหตัวเอง นั่งเครียดทั้งวันว่าเราทำไม่ได้ มันเกิดอะไรขึ้น ชาร์จะซีเรียสมากๆ กับที่เราคิดว่าเราควรจะทำได้ แต่เราทำได้ไม่ดีค่ะ แต่บางทีก็ซีเรียสจนงงว่าทำไมต้องกดดันตัวเองขนาดนั้น แต่มันเหมือนเป็นความกดดันที่สนุกนะ เพราะมันทำให้เราพัฒนาได้เร็วขึ้น"

คิดไหมว่าถ้าไม่ได้เป็นนักแสดงจะทำอะไรอยู่?

"ชาร์ก็คงเต้นไปเรื่อยเปื่อย อาจจะไปแข่งเต้น เพราะชาร์ชอบเต้นมาก แล้วชาร์รู้สึกดีมากกับการที่ตัวเองเรียนเต้นจากยูทูป (หัวเราะ) มันอาจจะดูเหมือนชมตัวเองนะ แต่เราภูมิใจกับสิ่งที่เราจดจ่อกับมันแล้วเราทำได้จริงๆ ด้วย มันยากนะแกะท่าทีละวิๆ มันเหนื่อยแต่สนุกมากเลยค่ะ"

เจอความผิดหวังบ้างไหม?

"มีบ้างค่ะ ชาร์ก็มองว่าถ้าไม่เคยผิดหวังเราจะไม่รู้เลยว่าความสำเร็จมันยากแค่ไหน ผิดหวัง คือ เรื่องที่ทุกคนต้องเจอ

 อย่างขี่ม้าถ้าไม่ตกม้าก็ขี่ไม่เป็น เรือใบถ้าไม่ตกก็ไม่เป็นเหมือนกัน แล้วชาร์ว่าอย่างกีฬาเรือใบเป็นสิ่งที่เอามาปรับใช้ในชีวิตได้เลยนะ

"ชีวิตเราก็เหมือนเรือใบ ถ้าเราไม่ตกเรือ เราก็จะไม่รู้วิธีการกู้เรือ เหมือนการกู้ชีวิต ทะเลมันน่ากลัวมากก็เหมือนสังคม ตอนที่เรือล่มกลางทะเลชาร์คิดเลยนะว่าคลื่นทะเลก็เหมือนสังคมที่มีคนคอยซัดเราตลอดเวลา เราไม่รู้เลยว่าข้างล่างมีอะไรบ้าง แต่เราต้องรอด ยังไงก็ต้องเอาชีวิตรอดให้ได้ แล้วทำยังไงล่ะเราถึงจะรอด"

ชาร์เลท

สำหรับชาร์เลท วงการบันเทิงน่ากลัวเหมือนละครไหม?

"เอ่อ... ชาร์ว่าก็น่ากลัวนะคะ ส่วนมากเรื่องที่น่ากลัวน่าจะมาจากความอิจฉากัน แสงสว่างใครๆ ก็อยากอยู่ตรงนั้น ใครๆ ก็คงอยากมีชื่อเสียง คงอยากเด่นที่สุด อยากได้มากที่สุดมั๊งคะ จนบางครั้งคำว่า "ที่สุด" ที่หลายๆ คนต้องการมันทำลายมิตรภาพ ทำร้ายเพื่อยร่วมงาน อาจจะเป็นเรื่องที่คนเอาไปพูดต่อได้เยอะมาก ชาร์ว่าเรื่องเหล่านี้แหละที่น่ากลัว คนจะมองว่าเราดีหรือไม่ดีก็อยู่ที่การกระทำ ยิ่งเป็นการกระทำของคนที่อยู่ในแสงสว่างแล้วด้วยใครๆ ก็เห็นหมด เพราะฉะนั้นถ้าไม่ระวังก็น่ากลัว ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ที่ตัวเราล้วนๆ ค่ะ ว่าจะปฏิบัติตัวยังไง"

อยากจะขอบคุณใครหรืออะไรในชีวิตเราเป็นพิเศษไหม?

"อยากขอบคุณทุกๆ คนเลยค่ะ ทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเป็นแรงบันดาลใจให้ชาร์มากๆ แต่ชาร์คงบอกรายละเอียดได้ไม่หมดว่าใครเป็นแรงบันดาลใจเรื่องอะไร หรือ ในแง่ไหนบ้าง ทั้งครอบครัว โรงเรียน เพื่อนๆ พี่ๆ นักแสดงที่มีโอกาสได้ร่วมงานกัน ทุกคนล้วนสอนอะไรให้ชาร์เยอะ ทุกคน ทุกฝ่าย

รวมถึงทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิต มันสะท้อนอะไรหลายๆ อย่างในตัวชาร์ ขอบคุณที่ทำให้ชาร์ผ่านทุกอย่างมาได้ ในอนาคตอาจจะเจอมันอีก แต่ราก็จะผ่านมันไปได้อีกเช่นกัน ณ ตอนนี้ชาร์พร้อมจะเจอทุกปัญหา เพราะชาร์รู้สึกว่าสุดท้ายมันจะเป็นยังไงมันอยู่ที่ตัวเรา ชาร์อยากขอบคุณทุกคนที่เชื่อมั่นในตัวชาร์และคอยประคับประคอง เอ็นดูชาร์มาตลอด ขอบคุณมากๆ ค่ะ"

มั่นใจว่า ชื่อเสียง หรือ อะไรก็แล้วแต่จะไม่เปลี่ยนตัวตนเราในอนาคตแน่นอน?

"ชาร์ว่าไม่ค่ะ (ยิ้ม)" 

เมื่อคุยกับ ชาร์เลท ถึงตอนนี้ คงทำอะไรไม่ได้ไปมากกว่าปรบมือดังๆ ให้กับทัศนคติ ความคิด ที่ไม่ธรรมดาของเด็กสาววัย 16 ปี คนที่เราเห็นเธอตั้งแต่เป็นเจ้าตัวเล็กตัวน้อย จากสิ่งที่ได้คุยกันทำให้เราเห็นแล้วว่าชาร์เลทนั้นเติบโตในทุกๆ ด้าน ทั้งอายุ ความคิด มุมมอง และที่สำคัญฝีมือร้ายกาจหาตัวจับยากขึ้นทุกวัน

สำหรับใครที่เป็นแฟนละครของน้องชาร์เลท ก็อย่าลืมให้กำลังใจสาวน้อยคนนี้กันเยอะๆ เพราะเชื่อเหลือเกินว่า ชาร์เลท ต้องมีผลงานดีๆ ออกมาให้ชมกันอีกมากมายแน่นอน

อัลบั้มภาพ 93 ภาพ

อัลบั้มภาพ 93 ภาพ ของ โตมากับวงการบันเทิง "ชาร์เลท วาศิตา" ยึดมั่น นักแสดง ดารา ไม่ได้หมายความว่ามีสิทธิเหนือคนอื่น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook